The Void (2016) แทรกร่างสยอง

The Void (2016) | แทรกร่างสยอง
Director: Jeremy Gillespie,Steven Kostanski
Genres: Horror | Mystery | Sci-Fi | Thriller
Grade: C+

หนังสยองขวัญที่น่าจดจำมักอยู่ในช่วง 80-90s เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากความคิดกับเทคนิคต่างๆที่หลั่งไหลเข้ามาจนเกิดหนังสยองขวัญมากมาย อีกทั้งยังตอบสนองความบันเทิงด้วยความโหดด้วยเลือดด้วยเนื้อกันอย่างไม่หลบมุมกล้อง ฉะนั้นในแง่ความรุนแรงที่ได้จากหนังประเภทนี้จึงเป็นความบันเทิงที่โหดแต่สะใจผู้ชม ยิ่งผสมผสาน Practical Effect เข้าไปด้วยยิ่งเหมือนเปิดโลกหนังสยองขวัญให้กว้างขึ้นจากคนฆ่าคนมาเป็นสร้างสัตว์ประหลาดด้วยเทคนิคกลไก เช่นเดียวกับเรื่องนี้ที่ต้องการเคารพหนังรุ่นก่อนว่าเทคนิคเก่าๆยังไม่ตายในยุคที่ใช้ CGI กันเกลื่อนกลาด

King Arthur: Legend of the Sword (2017) คิง อาร์เธอร์ ตำนานแห่งดาบราชันย์

King Arthur: Legend of the Sword (2017) | คิง อาร์เธอร์ ตำนานแห่งดาบราชันย์
Director: Guy Ritchie
Genres: Action | Adventure | Drama | Fantasy
Grade: C+

เรื่องราวของดาบเอกซ์แคลิเบอร์วนเวียนกันอยู่ไม่กี่อย่าง แต่อาศัยว่าคือตำนานที่เล่าปากต่อปากกันอย่างสนุกสนานทำให้ได้รับการเอ่ยถึงอยู่บ่อยครั้ง ขนาดที่บางทีทำให้หนังที่ใช้เรื่องราวนี้เป็นความน่าเบื่อเพราะยังไงเนื้อเรื่องไม่พ้นสิ่งที่รู้กันอยู่ดี แต่ถึงจะพล็อตจะซ้ำซากยังไงก็ต้องขึ้นอยู่กับคนเล่า ซึ่งผู้กำกับ Guy Ritchie เล่าเรื่องได้กวนโอ้ยตามความถนัดของตัวเองจนทิศทางความโบร่ำโบราณกลายเป็นความแปลกที่ไม่มีใครทำเหมือนมาก่อน(หรือในอนาคตอาจไม่มีใครทำเหมือน) นี่จึงเป็นเหตุผลที่มีคนชอบกันนักชอบกันหนาเพราะมันสดใหม่ไม่เหมือนใครๆ

It Stains the Sands Red (2016)

It Stains the Sands Red (2016)
Director: Colin Minihan
Genres: Drama | Horror | Sci-Fi
Grade: B-

"นี่อาจเป็นหนังซอมบี้ธรรมดา แต่ความนัยเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม"

พล็อตจะแปลกอยู่หน่อยตรงที่ มอลลี่ (Brittany Allen) ต้องมาดวงซวยล้อรถติดหลุมทราย แต่จังหวะนั้นมีซอมบี้ปริศนาตัวหนึ่ง (Juan Riedinger) เดินมาแถวนั้นพอดี ทำให้ต้องตัดสินใจเดินหนีเข้าดงทะเลทรายเพื่อหนีซอมบี้ ซึ่งโชคดีมีโทรศัพท์เปิดแผนที่ทำให้รู้ว่าต้องไปทางไหน ทว่าซอมบี้ตัวนั้นเดินตามเธอมาด้วยก่อนที่ภายหลังจะตั้งชื่อซอมบี้ที่แสนชิงชังที่ตามไม่เลิกตัวนั้นว่า"สมอลส์"(Smalls คือชื่อสั้น แต่ชื่อเต็มว่า Small Dick)

Cult of Chucky (2017)

Cult of Chucky (2017)
Director: Don Mancini
Genres: Comedy | Fantasy | Horror | Romance | Thriller
Grade: C+

"เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ"

ยังคงเสียดายที่ตัวหนังถูกจับส่งลงแผ่นเพราะคุณภาพมาไกลเกินหนังแผ่นทั่วไปเทียบได้ ซึ่งนี่เป็นความคิดที่เกิดจากภาคก่อนใน Curse of Chucky (2013) หรือภาคต่อลำดับที่ 6 ที่ขยับขยายเรื่องราวด้วยการเชื่อมโยงจุดที่ไม่มีภาคไหนพูดถึง อีกทั้งยังอุดช่องว่างให้ดูสมเหตุสมผลจนกลายเป็นหนังสยองขวัญภาคต่อที่ดีกว่าภาคก่อนหน้ามากมายหลายเท่า แต่การดูให้ได้อรรถรสจะต้องไม่ลืมภาคก่อนทั้งหมดเพราะมีส่วนในการเชื่อมโยงเข้าหากันรวมถึงที่มาที่ไปตัวละครบางตัวที่แม้บทน้อยแต่สำคัญในฐานะตัวการ โดยเน้นไปที่  Child's Play (1988),Bride of Chucky (1998) และ Seed of Chucky (2004) หรือภาค 1,4 และ 5 ในการทำความเข้าใจเนื้อหา(ส่วนภาค 2 กับ 3 มีส่วนเสริมเล็กน้อยแต่ไม่ใช่ประเด็นโยงเรื่องที่เกิดขึ้น)

Don 2 (2011) ดอน นักฆ่าหน้าหยก ภาค 2

Don 2 (2011) | ดอน นักฆ่าหน้าหยก ภาค 2
Director: Farhan Akhtar
Genres: Action | Crime | Thriller
Grade: A-

ภาคแรกสนุกเกินคาดแต่อาจจะยังไม่สุดสักเท่าไร เลยเปลี่ยนสไตล์เนื้อเรื่องจากผู้ร้ายกับตำรวจมาเป็นโจรกรรมเสียแทน นำทีมโดย ดอน (Shah Rukh Khan) นักฆ่าเลือดเย็นที่หนีรอดมาด้วยแผนสุดแนบเนียนในภาคก่อน ซึ่งครั้งนี้กลับมาช่วย ซิลวา (Boman Irani) ศัตรูตัวฉกาจที่ถูกส่งเข้าคุกในครั้งที่แล้ว ด้วยข้อตกลงบางอย่างที่ทำให้กลายเป็นพันธมิตรกันเพื่อนำไปสู่แผนการปล้นธนาคารครั้งสำคัญที่ไม่มีใครคาดนึกมาก่อน

Don (2006) ดอน นักฆ่าหน้าหยก

Don (2006)
ดอน นักฆ่าหน้าหยก
Director: Farhan Akhtar
Genres: Action | Crime | Thriller
Grade: B

ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้คือการให้ตัวร้ายเล่นเป็นตัวนำเรื่อง ซึ่งรีเมคมาจาก Don (1978) เป็นเรื่องของ ดอน (Shah Rukh Khan) นักฆ่าหัวแหลมที่ตำรวจต้องการตัวมากที่สุด เป็นตัวร้ายที่โหดเหี้ยมฆ่าคนอย่างเลือดเย็นไม่สนว่าจะเป็นใครหน้าทั้งนั้นและเป็นที่ต้องการตัวของ ซิลวา (Boman Irani) นายตำรวจที่พยายามจับดอนเพื่อล่วงรู้แผนการที่ซ่อนเอาไว้ แต่เกิดพลาดระหว่างการไล่ล่าทำให้ดอนบาดเจ็บสาหัส จึงต้องหาตัวแทนปลอมตัวเป็นดอนเพื่อสืบหาข้อมูลเสียแทน

Baywatch (2017) ไลฟ์การ์ดฮอตพิทักษ์หาด

Baywatch (2017) | ไลฟ์การ์ดฮอตพิทักษ์หาด
Director: Seth Gordon
Genres: Action | Comedy | Crime
Grade: C

"กล้ามเนื้อนมไข่"คือสิ่งถูก แต่เป็นคำตอบที่ไม่ใช่สำหรับเรื่องนี้ แม้จะคาดหวังเห็นอย่างว่าให้เต็มอิ่มก็เป็นเพียงผิวๆเหมือนเป็นของสนุกหยอกเล่นเท่านั้น ยิ่งกับนักแสดงหุ่นดีแค่ไหนหรือโนตมเพียงใดก็ไม่อาจตอบโจทย์ความทะลึ่งที่ตัวหนังอยากเป็นได้ สิ่งที่ได้คือความทะเล้นแซวกัดจิกเบาๆที่ริมฝีปากแบบผ่านไปอย่างน่าเสียดาย คงเอาไว้เพียงความกระหายที่ไม่รู้จะสานต่ออย่างไรจนสุดท้ายก็ถูกลืมเลือนอย่างน่าเสียดาย

Space Cowboys (2000) สเปซ คาวบอยส์ ผนึกพลังระห่ำกู้โลก

Space Cowboys (2000) | สเปซ คาวบอยส์ ผนึกพลังระห่ำกู้โลก
Director: Clint Eastwood
Genres: Action | Adventure | Thriller
Grade: B

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าคนแก่ก็มีความฝันที่อยากทำ ซึ่งสอดคล้องกับ แฟรงก์ คอร์วิน (Clint Eastwood) ที่พลาดโอกาสขึ้นอวกาศ จนกระทั่ง 40 ปีผ่านไปดาวเทียมที่เขาประดิษฐ์เกิดชำรุดและมีเพียงเขาเท่านั้นที่แก้ปัญหานี้ได้ นั้นทำให้เขามีโอกาสอีกครั้งที่จะได้ขึ้นยานอวกาศ แต่งานนี้จะไม่สำเร็จอาจไม่มีเพื่อนร่วมทีมให้กลับมาปฏิบัติภารกิจอีกครั้ง ซึ่งก็มี ฮอว์ค ฮอว์คินส์ (Tommy Lee Jones),เจอร์รี่ โอ นีลล์ (Donald Sutherland) และ แทงค์ ซัลลิแวน (James Garner) มาช่วยกู้โลกก่อนที่ดาวเทียมจะตกเข้าชั้นบรรยากาศ

Top Secret! (1984) ลับสุดบ๊องส์

Top Secret! (1984)
ลับสุดบ๊องส์
Director: Jim Abrahams,David Zucker,Jerry Zucker
Genres: Comedy | Crime | Music
Grade: A+

นี่ก็ไม่รู้จะเอาฮาไปไหน ยอมทั้งกายและใจ คือมันตลกได้สุดทางจริงๆและไม่มีการเล่นมุขซ้ำเลยสักครั้ง ไม่แปลกใจเลยถ้าเรื่องนี้จะมีผู้กำกับถึง 3 คนที่ต่างแบ่งไอเดียเสริมมุขนี้นั้นหน่อยจนมีแต่ความสดใหม่ และที่โดนใจจริงๆคือมุขมีความคิดสร้างสันใช้ลูกเล่นเกี่ยวกับมุมกล้องบ้างล่ะ เล่นย้อนเวลาแต่ตัวละครเดินหน้าเพื่อให้เห็นความแปลกแต่จริง หรือจะต่อยตีในน้ำโดยทำให้เหมือนเมืองใต้น้ำในยุคคาวบอย(อันนี้ความคิดล้ำมาก) โดยรวมๆแล้วไม่ฮาก็ไม่รู้จะว่ายังไง

Battle for the Planet of the Apes (1973) สงครามพิภพวานร

Battle for the Planet of the Apes (1973)
สงครามพิภพวานร
Director: J. Lee Thompson
Genres: Action | Sci-Fi
Grade: C+

"เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ"

สำหรับภาคนี้คือภาคที่เทียบกับภาคก่อนไม่ค่อยได้ ด้วยที่ว่าเรื่องราวไม่ค่อยมีประเด็นวิพากษ์วิจารณ์สังคมเท่าไรแล้ว อีกทั้งเนื้อเรื่องมีเพียงนิดเดียวทำให้ดูจบเร็วไม่เหมือนภาคก่อนๆที่สั้นแต่หนักแน่น ส่วนภาคนี้จบแล้วยังรู้สึกโล่งๆไม่ค่อยมีอะไรให้ฉุกคิด อาจเพราะเป็นภาคจบบริบูรณ์เลยตั้งใจให้ดูซีเรียสน้อยลงทำให้ความสนุกลดลงไปด้วย ให้เรียงลำดับตามความชอบก็ว่าตามตรงยังชอบภาคแรกมากที่สุด ก็จะเป็น 1>3>4>2>5 ถ้าอยากจะดูต่อจะเป็นฉบับซีรีส์ปี 1974 ความยาว 14 ตอน

Conquest of the Planet of the Apes (1972) มนุษย์วานรตลุยพิภพ

Conquest of the Planet of the Apes (1972)
มนุษย์วานรตลุยพิภพ
Director: J. Lee Thompson
Genres: Action | Sci-Fi
Grade: B

ไวรัสที่พูดถึงในภาคที่แล้วใน Escape from the Planet of the Apes (1971) เกิดขึ้นจนได้และฆ่าสัตว์เลี้ยงหมาแมวจนหมด เมื่อไม่มีสัตว์เลี้ยงเคียงข้างก็ต้องหาสัตว์ชนิดอื่นแทน ซึ่งก็เป็นวานรอย่างที่เกริ่นเอาไว้ในภาคก่อน ทว่าคำว่าสัตว์เลี้ยงดูจะบานปลายเกินขอบเขต ถ้าเป็นหมาหรือแมวเสมือนเพื่อนคู่ใจเอาไว้คลายเหงา มีใช้งานบ้างเล็กน้อยแต่ยังคงความเป็นสัตว์เลี้ยงอยู่เสมอ แต่วานรที่นำมาทดแทนนั้นไม่ได้มาเพื่อคลายเหงาหากมาเป็นทาสรับใช้เสียแทน

Escape from the Planet of the Apes (1971) หนีนรกพิภพวานร

Escape from the Planet of the Apes (1971)
หนีนรกพิภพวานร
Director: Don Taylor
Genres: Action | Sci-Fi
Grade: B+

สปอยล์กันสักนิดว่าทำไมถึงมีภาคต่อทั้งที่ในตอนจบภาคสองหรือ Beneath the Planet of the Apes (1970) ได้ระเบิดโลกทั้งใบไม่มีเหลืออีกแล้ว คำตอบอยู่ที่นักวิทยาศาสตร์วานรทั้งสอง ซึ่งไม่ใช่ใครหากจำกันได้ดีใน Planet of the Apes (1968) เพราะเป็นตัวละครสำคัญอย่างยิ่งยวด นั้นคือ คอร์นีเลียส (Roddy McDowall) และ ซีร่า (Kim Hunter)  โดยกู้ยานอวกาศของมนุษย์แล้วนำมาซ่อมแซม จากนั้นทดลองใช้แต่โดนลูกหลงจากกรระเบิดของโลกทำให้เดินทางข้ามกาลเวลาย้อนอดีตตอนที่มนุษย์ยังครองโลก

Beneath the Planet of the Apes (1970) ผจญภัยพิภพวานร

Beneath the Planet of the Apes (1970)
ผจญภัยพิภพวานร
Director: Ted Post
Genres: Action | Adventure | Sci-Fi
Grade: B-

จะบอกว่าภาคแรกใน Planet of the Apes (1968) ทำเอาไว้ดีมากแล้ว วิพากย์วิจารณ์สังคมมนุษย์กับวานรได้ดุเด็ดเผ็ดมันส์ แม้จะเรื่อยๆหนักไปกับบทสนทนามากมายก็ตาม กระนั้นแล้วด้วยคำวิจารณ์กับรายได้ที่ดีย่อมสร้างภาคต่อ โดยภาคนี้ยังคงคอนเซ้ปต์เนื้อหาสาระเกี่ยวกับสังคมเช่นเดิม แต่เรื่องมนุษย์ที่ประหนึ่งสัตว์ล้างโลกจะกลายเป็นประเด็นที่ตกไปเพราะกล่าวมามากพอแล้วในภาคแรก เช่นกันกับอีกหลายประเด็นจะไม่เอ่ยถึงให้มากความเพื่อความสดใหม่ ซึ่งประเด็นหลักของเนื้อหาภาคนี้คือ"ความรุนแรงกับสันติ"

Planet of the Apes (1968) พิภพวานร

Planet of the Apes (1968)
พิภพวานร
Director: Franklin J. Schaffner
Genres: Adventure | Sci-Fi
Grade: S

"เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ"

"บ่อยครั้งที่เรามักพูดถึงตัวเองว่าเกิดมาจากไหน เราก็จะมีคำตอบตามความเชื่อว่าพระเจ้า แล้ววิทยาศาสตร์ล่ะ..วานร"

สร้างจากนิยายของ Pierre Boulle โดยเป็นเรื่องเกี่ยวกับ จอร์จ เทย์เลอร์ (Charlton Heston) นักบินอวกาศชาวอเมริกันพยายามเดินทางกลับโลก แต่ต้องประสบอุบัติเหตุยานอวกาศตกลงบนดาวดวงหนึ่ง สำหรับดาวดวงนี้สามารถดำรงชีวิตได้ปกติ ทว่าที่น่าประหลาดใจคือการเจอคนและไม่ใช่คนธรรมดาแต่ที่มีพฤติกรรมแบบสัตว์ พูดไม่ได้หรือตอบโต้ด้วยปัญญา ราวกับหลุดมาจากยุคหินที่ยังไม่เจริญสติปัญญา ทางกลับกันพบวานรที่ทำตัวเหมือนคน ใส่เสื้อผ้า ขี่ม้า ใช้อาวุธ และพูดเป็นภาษาคน กระนั้นศัตรูของวานรกลุ่มนี้คือมนุษย์

Shoot to Kill (1988) ล่าสุดขั้ว

Shoot to Kill (1988)
ล่าสุดขั้ว
Director: Roger Spottiswoode
Genres: Action | Adventure | Crime | Drama | Thriller
Grade: B+

อีกแนวกับกึ่งผจญภัยที่พาเอาเหนื่อยเหลือเกินกับการไล่ตามคนร้ายตั้งแต่ในเมืองไปจนเดินป่าขึ้นเขาและไปจบกันที่เรือข้ามฝั่ง แต่กว่าจะเป็นเรื่องราวขนาดนี้ต้องเริ่มกันที่ วอร์เรน สแตนติน (Sidney Poitier) เจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่ถูกคนร้ายซ้อนแผนลอยนวลไปอย่างง่ายดาย กระทั่งสืบจนรู้ว่ากำลังเดินทางหลบหนีเข้าป่าจึงตามจับอย่างเร่งด่วน ทว่าการขึ้นเขาลงห้วยไม่ใช่เรื่องง่ายจึงหาผู้ช่วยชำนาญทางอย่าง โจนาธาน น็อค (Tom Berenger) มาตามรอยเท้าก่อนที่จะหนีรอดไปในที่สุด

The Monster (2016) อะไรซ่อน

The Monster (2016)
อะไรซ่อน
Director: Bryan Bertino
Genres: Drama | Fantasy | Horror
Grade: B

ต้องเลือกว่าจะรู้หนังเรื่องนี้แบบไหน ระหว่างสัตว์ประหลาดกินคนหรือประเด็นแฝงจากความสัมพันธ์แม่ลูก แต่ทางที่ดีควรนำทั้งสองนี้มารวมเป็นเรื่องเดียวกันโดยเน้นไปทางหลัง ส่วนที่เหลือเป็นของเสริมกระตุ้นอารมณ์ความน่ากลัว แต่ถ้าเลือกเฉพาะทางไม่อยากสนใจใยดีตัวละครเพราะน่าเบื่อก็อาจรับได้เพียงหนังสยองขวัญเรื่องหนึ่งที่แสนจะธรรมดาสนองความอยากเพียงชั่วครู่ หรือจะเอาแค่เรื่องตัวละครเพราะกลัวความสยองก็จะดูไม่รู้เรื่องเอาได้ ฉะนั้นทำใจนิดนึงว่านี่คือหนังสยองขวัญที่ต้องตีความเอาใจตัวละครไม่ใช่เอาใจผู้ชมโดยทั่วไป

The Deer Hunter (1978) เดอะ เดียร์ ฮันเตอร์

The Deer Hunter (1978) | เดอะ เดียร์ ฮันเตอร์
Director: Michael Cimino
Genres: Drama | War

ขอร้องอย่างหนึ่งเกี่ยวกับชั่วโมงแรกที่อาจจะน่าเบื่อสำหรับบางคนว่าอย่าได้ข้ามหรือเปลี่ยนไปไหน เพราะอะไรนั้นคือช่วงชีวิตที่ดีและสวยงามที่สุดในเรื่องแล้ว หลังจากนั้นคำว่าความสุขจะไม่ปรากฎให้เห็นอีกต่อไป จะรู้สึกถึงความหดหู่ที่แม้จะยินดีหรือเบิกบานยังไงก็ค้างคาใจตลอดเวลา ไม่ต่างกับสงครามเวียดนามที่ไม่ประกาศว่าแพ้ แต่เมื่อถอนทัพก็เหมือนแพ้โดยไม่ต้องบอกให้ฟัง จึงเป็นคำถามที่ไม่อาจตอบในสิ่งที่ทำลงไปว่าตกลงแล้วไปรบเพื่ออะไร

Village of the Damned (1995) มฤตยูเงียบกินเมือง

Village of the Damned (1995) | มฤตยูเงียบกินเมือง
Director: John Carpenter
Genres: Horror Sci-Fi Thriller
Grade: C

เป็นหนังรีเมคหนังเก่าในชื่อเดียวกันปี 1960 และมีต้นกำเนิดมาจาก John Wyndham เจ้าของนิยายที่ใช้ชื่อว่า The Midwich Cuckoos ที่ว่าด้วยเรื่องราวสุดลึกลับแปลกประหลาดในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่จู่ๆวันหนึ่งทุกคนต้องสลบล้มนอนกันทุกคน ไม่ว่าใครมาจากไหนหากเข้าเขตหมู่บ้านจะต้องล้มนอนทันทีอย่างหาสาเหตุไม่ได้ กระทั่งทุกคนตื่นขึ้นมาแล้วพบความผิดปกติในร่างกาย ซึ่งเกิดเฉพาะเพศหญิงเพราะทุกคนท้องกันหมดทั้งหมู่บ้าน สร้างความงงงวยแก่ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่รัฐบาลที่เข้ามาสืบความจริง ไม่สามารถหาสาเหตุต้นตอจากที่ไหนได้นอกจากปล่อยไปตามสภาพความเป็นจริงจนวันที่ทุกคนคลอดลูกพร้อมกันทุกคน

Stone Cold (1991) ดุ 2 ขา ท้า 2 ล้อ

Stone Cold (1991) | ดุ 2 ขา ท้า 2 ล้อ
Director: Craig R. Baxley
Genres: Action | Crime | Drama | Thriller
Grade: C+

มาแล้วกับแนวสิงห์มอเตอร์ไซค์ที่น่าจะถูกอกถูกใจกันอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่หนังที่พูดถึงมอเตอร์ไซค์แต่อย่างใด หากเป็นเพียงองค์ประกอบให้ออกมาดูเท่และเข้ากับเนื้อเรื่อง ซึ่งเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับแก๊งค์มอเตอร์ไซค์กลุ่มหนึ่งที่นำทีมโดย เชน คูเปอร์ (Lance Henriksen) หัวหน้าแก็งมอเตอร์ไซค์ที่วางแผนการที่ร้ายกาจบางอย่างแต่ไม่รู้ว่าคืออะไร มีทางเดียวที่รู้ได้คือส่งสายลับเข้าไปสืบความจริง แต่ปัญหาคือคนที่จะเข้าไปนั้นต้องมีลักษณะพิเศษเหมือนคนในแก๊งค์ จะคนธรรมดาหรือคนเก่งจะถูกจับได้เสียก่อนหากทำตัวแตกต่าง ทำให้คนที่ถูกเลือกคือ โจ ฮัฟฟ์ (Brian Bosworth) ผู้มีลักษณะความชอบตรงตามแก๊งค์มอเตอร์ไซค์ไปเป็นสายหาความจริงของแผนร้ายในครั้งนี้

Jacob's Ladder (1990) ไม่ตาย ก็เหมือนตาย

Jacob's Ladder (1990)
ไม่ตาย ก็เหมือนตาย
Director: Adrian Lyne
Genres: Drama | Horror | Mystery
Grade: A+

"เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ"

"Movies You Must See Before You Die"

การไม่รู้อะไรเลยอาจเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าไม่รู้ไปตลอดย่อมไม่เจอคำตอบ สำหรับเรื่องนี้การไม่รู้อะไรเลยว่าต้องเจอกับอะไรช่วยให้เราสงสัยตลอดเวลา แล้วมันอาจจะดีกว่าถ้าเราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จะดีกว่ามากถ้ารู้และยอมรับสิ่งนั้นได้ เฉกเช่นความสงสัยของ นายจาคอร์ป (Tim Robbins) ที่เริ่มเห็นภาพหลอนมากขึ้นจนเป็นปัญหาการดำเนินชีวิตประจำวันจนส่งผลกระทบชีวิตคู่กับ เจสซี่ (Elizabeth Peña) ที่ต้องทะเลาะเป็นบางครั้ง เขาพยายามหาคำตอบให้กับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ยิ่งหายิ่งสร้างความลำบากใจมากขึ้นเพราะความจริงนั้นยากเกินจะรับได้ไหว นั้นทำให้จาคอร์ปต้องเลือก?
รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)