Pig (2021) | หมูข้าหาย กับความหมายของชีวิต | B+
Director: Michael Sarnoski
Genres: Drama | Mystery
พล็อตเกี่ยวกับชายชื่อร็อบ (Nicolas Cage) ใช้ชีวิตสันโดษกับหมูตัวหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่ในป่าที่ไม่มีเทคโนโลยีแต่อย่างใด สิ่งที่ประทังชีวิตอยู่รอดได้คือการใช้หมูหาเห็ดทรัฟเฟิลให้กับอาเมียร์ (Alex Wolff) แลกกับอาหารและของใช้ แต่แล้ววันหนึ่งหมูถูกขโมย ซึ่งเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้หมูคืนมา
คิดในใจจะมาแนวไหนกันแน่ เพราะช่วงต้นเรื่องคล้ายตลกร้ายของชายที่ไม่สนโลกภายนอก ใช้ชีวิตปิดกั้นจากสิ่งรอบตัว แต่ถูกใครที่ไหนไม่รู้จากข้างนอกมาชิงหมูไป เมื่อหมูหายและไม่รู้ใครเอาไปจึงต้องออกจากกรอบของตนเอง ซึ่งจะเป็นหนังแอ็คชั่นตามล่าหาคนขโมยหรือเปล่านะ คำตอบคือไม่เป็นเช่นนั้นเลยสักนิด
การตามหาหมูเป็นไปอย่างเชื่องช้า ระหว่างนั้นมีการใส่อดีตของร็อบทีละนิด ซึ่งเขารู้จักสิ่งต่างๆ ในเมือง รวมถึงผู้คนที่รู้จักเขาอีกด้วย ทำให้คนธรรมดากลายเป็นคนที่เหนือความคาดหมาย นั่นอาจเป็นสาเหตุให้เลือกเส้นทางชีวิตในป่าเพียงลำพัง เพราะต้องการหนีความวุ่นวายจากเงินและเสียงชื่อของธุรกิจที่บั่นทอนชีวิต
การเล่าเรื่องพบว่า Slow Burn อย่างมาก ทำให้ยิ่งดูยิ่งเกิดอาการง่วง ทำให้ตัวเองเผลอหลุดสมาธิไปบ้าง แต่สิ่งที่แน่ชัดคือการแบ่งเรื่องราวเป็น 3 ช่วง ซึ่งเทียบกับอาหาร 3 มื้อ โดยทุกมื้อมีความสำคัญเท่ากัน แค่ต่างที่วัตถุประสงค์ของแต่ละมื้อคืออะไร แน่นอนว่ามาทางปรัชญาพอสมควร
ความที่เล่าเรื่องไปอย่างเรียบง่าย ทำให้เห็นความไม่ธรรมดาหลายจุด ตั้งแต่มุมกล้อง บรรยากาศ และอื่นๆ ที่ชวนให้รู้สึกตึงเครียดไปหมด ยกเว้นความเป็นตัวตนของร็อบที่ยังไงก็ได้ ขอแค่ได้เจอหมูของเขาที่ประดุจเพื่อนเพียงหนึ่งเดียว
สำหรับหมูของร็อบมีความสำคัญอย่างมากต่อการหาเห็ดทรัฟเฟิล ซึ่งมูลค่าของเห็ดทำให้บางคนชีวิตหรูหราขึ้นมาทันที แต่เมื่อเป็นเรื่องของธุรกิจจึงมีการแข่งขัน จากเรื่องจะเห็นว่านอกจากชื่อเสียงและเงินทอง สิ่งที่เห็นคือความสัมพันธ์พ่อลูกที่ไม่ยอมรับกันและกัน ทำให้เกิดการแบ่งแย่งภายใน
ถ้าดูแบบไม่คิดอะไรจะรู้สึกมึนๆ ว่าการตามหาหมูที่หายไปได้ความสนุกอะไรกลับมา คำตอบคือไม่ได้ความสนุก แต่ได้สัจธรรมชีวิตหลายข้อที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบ ระหว่างทางไม่รู้เลยว่าหมูเป็นยังไงบ้าง ทว่ากับคนที่ปิดกั้นตัวเองจากสังคมทำให้ได้เพื่อน ซึ่งเป็นสิ่งดีกับคนที่เริ่มกลับมาสนใจโลกภายนอกอีกครั้ง