The Crying Game (1992) ดิ่งลึกสู่ห้วงรัก

The Crying Game (1992) | ดิ่งลึกสู่ห้วงรัก
Director: Neil Jordan
Genres: Crime | Drama | Romance | Thriller
Grade: S

"เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ"

ไม่เชิงเป็นหนังหักมุม แต่กับใครหลายคนอาจคิดประมาณว่าคือหนังหักมุมที่ทำลายความรู้สึก บางคนรู้พอเดาออก แต่กับคนที่ไม่คิดหรือตามไม่ทันอาจหลงเชื่อมาตลอดเกี่ยวกับสถานะของตัวละคร การเฉลยความจริงจึงเป็นเรื่องไม่ธรรมดาสำหรับใครหลายคน อีกทั้งเป็นไปได้ว่าอารมณ์ความรู้สึกคงไม่ต่างกับตัวละครในเรื่องที่กระอักกระอ้วนเห็นอยู่เต็มสองตา ฉะนั้นไม่แปลกใจถ้าความรู้สึกนี้จะทำให้หลายสตูดิโอปฏิเสธเพียงเพราะการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงอาจทำให้ผู้ชมหลายคนไม่สนใจหนังเรื่องนี้อีกเลย ทว่าในความเป็นจริงได้กลายเป็น Plot Twists ที่ดีและสานต่อเรื่องราวในแบบที่น้อยจะเห็นได้


ช่วงแรกเป็นนำเสนอที่นิ่งแต่ให้อารมณ์ผูกพันธ์มากขึ้นเรื่อยๆ พอมาจุดหนึ่งก็เริ่มไม่อยากให้เป็นเช่นนี้และคิดว่าถ้าปล่อยให้คุยกันต่อยังรู้สึกสบายใจมากกว่า ซึ่งเรื่องทั้งหมดเริ่มขึ้นเมื่อ โจดี้ (Forest Whitaker) ถูกขบวนการไออาร์เอ (I.R.A.) ที่นำโดย แมกไกว (Adrian Dunbar) และ จูด (Miranda Richardson) ถูกจับเป็นตัวประกัน โดยประเด็นความสนใจตกไปอยู่ที่ชายชื่อ เฟอร์กัส (Stephen Rea) ทำหน้าที่เฝ้าโจดี้ไม่ให้หนีไปไหนและกลายเป็นว่าทั้งสองได้กลายเป็นเพื่อนกัน

ช่วงแรกคือบทสนทนาระหว่างเฟอร์กัสกับโจดี้ที่รู้สึกเป็นธรรมชาติอย่างมาก อีกทั้งยังเริ่มมีความผูกพันธ์มากขึ้นจนสัมผัสถึงความอบอุ่นแม้หน้าตาสถานการณ์จะออกมาตรงกันข้าม เนื่องจากไม่ว่าโจดี้จะเป็นยังไงก็มีเฟอร์กัสคอยเบาความทุกข์ยาก ได้คุยได้เปิดใจจนลืมไปว่าโจดี้ต้องเจออะไรบ้างในช่วงชีวิตสุดท้ายก่อนตาย ซึ่งได้กลายเป็นเรื่องราวสะเทือนใจที่นำไปสู่ตัวตนของเฟอร์กัสที่มิอาจหักห้ามความเป็นตัวของตัวเองได้ โดยเขาต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับโจดี้เรื่องดูแลผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ ดีล (Jaye Davidson) ที่ทำให้เขาต้องประหลาดใจ


เรียบๆแต่ได้อารมณ์อยู่ตลอด สถานการณ์พลิกผันไปมาราวกับหนังชีวิตที่ต้องโหยหาอะไรสักอย่างอยู่เสมอ ก่อนโจดี้จากเฟอร์กัสไปด้วยความสะเทือนใจได้มอบความรู้สึกที่จริงจังด้วยนิทานแมงป่องที่ขอร้องกบให้ขี่หลังเพื่อข้ามแม่น้ำ ทว่าชะตากรรมของกบต้องจบชีวิตลงกลางแม่น้ำพร้อมแมงป่องที่ขี่หลังพร้อมกัน นั้นเพราะแมงป่องไม่อาจห้ามตัวเองให้ต่อยได้จากสาเหตุที่ว่าเป็นธรรมชาติของมัน เช่นเดียวกับเฟอร์กัสที่โจดี้จับทางความมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกว่าจะเป็นนักฆ่าหรือทรมานคน โจดี้เห็นตัวตนที่ดีงามจึงพยายามเตือนสติว่าเขาคือคนดี ไม่ใช่คนร้ายหรือกลุ่มต่อต้านที่มาทำร้ายคนกันเอง นั้นไม่ใช่ธรรมชาติของเฟอร์กัส

Jaye Davidson ไม่รู้หรอกว่าเป็นใครเพราะเป็นหนังเรื่องแรกที่ได้เล่น อีกทั้งเป็นความลับอย่างหนึ่งด้วยหน้าตาละอ่อนสวยใสประสาเด็กวัยรุ่น แต่เนื้อแท้คือจุดเซอร์ไพรส์ที่สร้างความลำบากใจแก่ผู้ชมและตัวละครในเรื่องอยู่ไม่น้อย เพราะไม่ใช่เธอแต่เป็นเขา ไม่ใช่ผู้หญิงแต่คือผู้ชายหรือกระเทยนั้นเอง ซึ่งวิธีการเฉลยนับว่าทำเอานิ่งและอึ้งไปตามๆกัน ลองคิดดูสิว่ากว่าจะเฉลยต้องทำอะไรมาบ้าง ยิ่งการซื้อใจผู้ชมยิ่งรู้สึกเหมือนถูกหลอกจากสินค้าที่โชว์ให้เห็นเอาไว้อย่างดี เมื่อเปิดดูข้างในถึงรู้ว่าไม่ตรงปกคืออะไร ไม่นึกฝันจะเห็นอะไรเต็มสองตาในช่วงเวลาที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มแบบนี้


ไม่น่าเชื่อว่าจะกลายเป็นหนังรักไปได้ แม้สุดท้ายจะรู้สึกถูกหลอกแต่ต้องยอมรับและทำใจ เช่นเดียวกับเฟอร์กัสที่แทบคลั่งแต่ไม่อาจลืมเลือนสัญญาที่ให้ไว้กับโจดี้ได้ แม้จะให้ดูแลแต่ด้วยความผูกพันธ์ไม่สามารถห้ามความรู้สึกที่ให้ไปแล้วได้ ซึ่งอีกนัยเหมือนอกหักจากสิ่งที่เห็นโดยที่ทั้งสองไม่ได้ปฏิเสธว่าจะห้ามหรือเลิกจากกัน จะเป็นเพื่อนกันก็ไม่ใช่ คนรักก็ไม่เชิง รู้แค่ว่ายังรักกันในแบบที่ไม่ใช่คู่เกย์หรือรักร่วมเพศเดียวกัน ให้อธิบายคงสับสนเพราะบทสรุปในตอนจบไม่ได้ยืนยันชัดเจนเกี่ยวกับเฟอร์กัสว่าตกลงจะยังไงกับดีลกันแน่ แต่บางทีลึกๆผู้ชมบางคนอาจรู้ใจตัวละครทั้งสองอยู่ก็ได้

The Crying Game ไม่ได้มีอะไรที่มากมาย แค่เล่าเรื่องให้ออกมาธรรมดาและเป็นกันเองด้วยมุมมองที่แตกต่าง อีกทั้งเป็นการผสมผสานเรื่องเพศที่ไม่น่ารังเกียจและอ่อนหวาน(ฉากไม่พูดตรงๆแต่ส่งประโยคให้บริกรเป็นคนพูดแทนที่นึกแล้วก็น่ารักไปอีกแบบ) แต่ไม่ได้แปลว่าเป็นหนังรักที่จะออกมาอ่อนโยนเป็นสีชมพูเหมาะสมดูกันทั้งครอบครัวได้ เนื่องจากมีหลายอย่างต้องทำความเข้าใจและเรียนรู้ไปกับตัวละคร ฉะนั้นสิ่งแรกคือการเปิดใจเพื่อให้โอกาสตัวละครได้แสดงความเห็นออกมาก่อน แล้วหลังจากนั้นจะเริ่มเข้าใจสิ่งต่างๆที่ตามมา

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)