Seabiscuit (2003) ม้าพิชิตโลก

Seabiscuit (2003) | ม้าพิชิตโลก
Director: Gary Ross
Genres: Drama | History | Sport
Grade: A

หนังเกี่ยวกับม้าชื่อ"ซีบิสกิต"ที่มีชื่อเสียงในยุค 1930-1940 และเป็นม้าแข่งได้ชนะรางวัลเกียรติยศในปี 1938 แต่ก่อนจะกลายเป็นม้าแข่งที่มีชื่อเสียงและชัยชนะจากสนามแข่งไม่รู้กี่สนามนั้นไม่ได้มีความเก่งกาจหรือน่าสนใจแต่อย่างใด ซึ่งกว่าจะถึงจุดนั้นต้องเริ่มที่ ชาร์ล โฮเวิร์ด (Jeff Bridges) อดีตช่างซ่อมรถที่ผันตัวเองมาเป็นคนร่ำรวยจากการประกอบอาชีพขายรถยนต์และมีความสนใจอยากได้ม้าสักตัว จึงให้ ทอม สมิธ (Chris Cooper) อดีตคนฝึกม้าหาม้าตัวดังกล่าวก่อนจะมาเจอกับซีบิสกิตและให้ เรด พอลลาร์ด (Tobey Maguire) เป็นจ็อกกี้ขี่ม้าลงสนามแข่ง



ช่วงแรกๆต้องรอกันยาวหน่อยเพราะเป็นช่วงปูพื้นเกี่ยวกับปมตัวละครที่ได้รับแผลทางจิตใจ ซึ่งแต่ละคนล้วนประสบปัญหาแตกต่างกันออกไปตามสถานะทางเศรษฐกิจและครอบครัว ดังนี้

ชาร์ล โฮเวิร์ด - ไม่ได้ร่ำรวยแต่อาศัยความสามารถค้นพบวิธีซ่อมรถยนต์และการเรียกลูกค้าก่อนจะประสบความสำเร็จเปลี่ยนสถานะจากที่เห็นในครั้งแรกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทว่าชีวิตมาถึงจุดพลิกผันเมื่อลูกชายเพียงคนเดียวประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้ครอบครัวมีแต่ความโศกเศร้าและแตกแยกเพราะทำใจไม่ได้ ชีวิตของชาร์ลจึงซึมเศร้าตลอดเวลาเพราะคิดถึงลูกแม้จะบรรดาเพื่อนฝูงจะพาไปสังสรรค์เพื่อลืมเรื่องร้ายๆนี้ก็ตาม แต่แล้วได้มาพบกับ มาร์เซลา (Elizabeth Banks) ที่เข้าใจหัวอกและทำให้ชาร์ลสดใสยิ่งขึ้นและสนใจม้าเพื่อใช้ลงแข่ง



ทอม สมิธ - อดีตคนฝึกม้าที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณของคนรักม้า แต่ต้องมาเจอปัญหากับยุคสมัยที่พัฒนาทางอุตสาหกรรม ทำให้เกิดรถยนต์และไม่มีใครสนใจใช้ม้าเดินทางเพราะควบคุมได้ง่ายกว่า สถานะการงานจึงเหมือนคนตกงาน ความสำคัญลดน้อยลงเพราะผู้คนเลิกขี่ม้าและคงเหลือเอาไว้เพียงในสนามแข่ง แต่ได้รับความสนใจจากชาร์ลเพราะเห็นถึงพรสรรค์ในการควบคุมม้า และให้งานชิ้นสำคัญในการตามหาม้ามาลงแข่งขัน ซึ่งตัวนั้นคือซีบิสกิต

เรด พอลลาร์ด - ช่วงชีวิตตอนเป็นเด็กที่แสนมีความสุขได้จบลงอย่างรวดเร็วเพราะภาวะทางเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ทำให้ต้องแยกจากพ่อแม่เพื่อให้รับการเลี้ยงดูที่ดีกว่า ทว่าเมื่อโตขึ้นต้องเจอกับอุปสรรคนานาชนิดในการดำเนินชีวิตกับคำว่าต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นขึ้นชกมวยที่แทบไม่มีโอกาสได้ชนะหรือการจ็อกกี้ขี่ม้าลงสนามแข่งที่ไม่แพ้ไปเลยก็เกือบชนะ ด้วยชีวิตที่มีแต่แพ้กับแพ้แม้เกือบชนะเพียงแค่เฉือนปลายจมูกก็ไม่มีคนสนใจ ต้องกลายเป็นคนพเนจรหางานทำเพื่อเลี้ยงชีพตัวเอง จนกระทั่งมาเจอกับทอมเพราะคุณสมบัติบางอย่างในการสู้ชีวิต



ทั้งสามตัวละครหลักจะถูกเล่าสลับไปมาในช่วงแรกที่เริ่มด้วยความสุขและมั่งคั่งก่อนจะจบลงด้วยความทุกข์กลายเป็นคนธรรมดาและพ่ายแพ้ จากนั้นเรื่องราวทั้งสามจึงค่อยๆเข้าหากันด้วยความสนใจเพียงอย่างเดียวคือม้าที่เป็นตัวเชื่อมของเรื่องทั้งหมด สำหรับม้าหรือซีบิสกิตคือตัวแทนของยุคสมัยที่เกิดมาไร้ค่าเพราะตัวเล็ก มีความแต่ความขี้เกียจ ไม่มีใครฝึกหรือสยบลงได้ เอาไปลงสนามแข่งไม่อาจชนะหรือได้รับความน่าสนใจ จนมาอยู่กับชาร์ลตามคำแนะนำของทอมเพราะเห็นความสามารถแฝงที่ไม่เหมือนม้าตัวอื่น เช่นเดียวกับเรดที่มีความสามารถนั้นแต่ไม่เคยปลดปล่อยออกมา ด้วยความเชื่อนี้ทำให้ซีบิสกิตและเรดได้รับการฝึกฝนจนได้ลงสนามแข่ง

มุมมองของตัวละครที่แพ้แต่ไม่เคยท้อถอยคือสิ่งที่เห็นมาตลอดทั้งเรื่องและจะเป็นเช่นนั้นอยู่เสมอจนจบ เป็นการพูดถึงโอกาสที่มีอยู่ให้รีบคว้าและนำมาใช้ในตอนที่ยังทำได้ ซึ่งตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับไม่ว่าจะคนหรือม้าที่ต่างมีข้อด้อยและควรได้รับโอกาสเพื่อพิสูจน์ โดยเฉพาะซีบิสกิตที่เต็มไปด้วยข้อเสียหลายอย่างจนถูกขายในราคาที่ถูกมาก แต่ทอมไม่เคยมองเป็นข้อเสียเพราะมีทัศนคติเห็นว่าไม่ควรทิ้งม้าทั้งตัวเพียงเพราะบาดเจ็บที่ขาอย่างเดียว เช่นเดียวกับชาร์ลที่เห็นโอกาสมากกว่าอุปสรรคที่แม้จะพ่ายแพ้ยังไงก็ยินดีจะสู้ให้ถึงที่สุด ด้วยเหตุนี้เรดจึงมีความเชื่อมั่นที่จะนำซีบิสกิตเข้าเส้นชัยแม้ตัวจะแตกต่างแต่ใจนั้นไม่เคยเปลี่ยน



Seabiscuit เป็นหนังยาวเกือบ 2 ชม.ครึ่ง แต่เก็บรายละเอียดทางประวัติศาสตร์ในช่วงนั้นด้วยปัญหาและสภาพจิตใจของผู้คนที่ท้อแท้ได้อย่างเข้าอกเข้าใจ อีกทั้งเป็นการสะท้อนความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยถึงข้อดีข้อเสียที่ส่งผลกระทบกับใครหลายคน แต่ไม่ว่าใครจะดีขึ้นหรือแย่ลงก็ต่างต้องเจอกับปัญหาชีวิตด้วยกันหมดทั้งสิ้น จะเหลือแค่ตัวเราจะยอมแพ้หรือสู้ต่อไปเพราะความพยายามขึ้นอยู่กับเราแล้วความสำเร็จจะมาหาเราเอง เช่นเดียวกับฉากลงแข่งในตอนจบที่แม้คนกับม้าสภาพไม่เต็มร้อยแต่ถ้าใจฮึดสู้ก็ชนะได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงเส้นชัย นับเป็นหนังให้กำลังใจสู้ที่ยืนหยัดจนวินาทีสุดท้ายไปพร้อมกับคนและม้าให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ฉะนั้นไม่แปลกใจเลยถ้าเป็นเรื่องจริงที่ปลุกขวัญกำลังใจชาวอเมริกันโดยแท้

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)