แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ History แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ History แสดงบทความทั้งหมด

Kingdom (TV Series 2019 - ) ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด Season 2

Kingdom (TV Series 2019 - ) | ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด | Season 2 | B+
Genres: Action | Drama | History | Horror | Thriller

"เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ" อันที่จริงไม่ต้องแบ่งออกมาเป็นซีซั่น 2 ก็ได้นะ ควรจะรวมเป็นซีซั่นเดียวกันไปเลย ซึ่งจะได้ 6+6 = 12 ตอน เพราะมีความต่อเนื่องสูงมาก อยากได้อรรถรสต้องย้อนไปเริ่มต้นใหม่เพื่อประติดประต่ออารมณ์ไม่ให้เกิดความค้างคา แต่ถ้ามองในแง่การแบ่งสเกลเนื้อเรื่องจะเห็นว่าแต่ละซีซั่นมีความต่างกันพอสมควร จากซีซั่นแรกเน้นการผจญภัย มีจุดเริ่มต้นและปริศนาหลายอย่าง ถัดมาอีกซีซั่นจะกระจายน้ำหนักด้านการเมืองและไขปริศนาที่ตั้งโจทย์ไว้

Kingdom (TV Series 2019 - ) ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด Season 1

Kingdom (TV Series 2019 - ) | ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด | Season 1 | A- 
Genres: Action | Drama | History | Horror | Thriller

ซอมบี้กลายเป็นสิ่งที่โผล่ได้ทุกยุคทุกสมัย ร่วมไปถึงทุกเชื้อชาติอีกด้วย แม้จะแปลกตาอยู่บ้างก็คงหาสิ่งที่สมเหตุสมผลไม่ได้อยู่แล้ว สำหรับสาเหตุการเกิดซอมบี้นั้นไม่ได้มาจากไวรัสหรือพิธีกรรมแต่อย่างใด หากเป็นสมุนไพรที่นำมาปรุงแต่งใช้ทางการแพทย์ ทว่าไม่ได้ใช้กับคนเป็นที่มีชีวิต แต่กลับใช้กับคนตายเพื่อรักษาผลประโยชน์ ซึ่งเกี่ยวโยงไปถึงการแย่งชิงบัลลังก์

Midway (2019) อเมริกา ถล่ม ญี่ปุ่น

Midway (2019) | อเมริกา ถล่ม ญี่ปุ่น
Director: Roland Emmerich
Genres: Action | Drama | History | War
Grade: C+

ตั้งหน้าตั้งตารอฉากไคล์แม็กซ์ จนหนังจบแล้วถึงพบว่าตลอดระยะเวลาที่เล่ามาทั้งหมดนั้นมีสเกลเดียว อันที่จริงควรจะค่อยๆเพิ่มอารมณ์ให้มากขึ้นจนรู้สึกถึงช่วงสุดท้ายหรือฉากเด่นๆที่น่าจดจำ อย่างตอนที่เพิร์ลฮาร์เบอร์โดนถล่มควรจะรู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง หลังจากนั้นค่อยๆเติมพลังให้ความหวังกลับมาโต้ตอบญี่ปุ่นอีกครั้ง แต่นี้มายังไงเป็นอย่างงั้น

ลูกอีสาน (1982)

ลูกอีสาน (1982)
Director: วิจิตร คุณาวุฒิ
Genres: Drama | History
Grade: S

อันที่จริงไม่กล้าดูเลยด้วยซ้ำ เพราะน่าจะหดหู่และยากลำบากกับสภาพความเป็นอยู่ เนื่องจากอีสานเป็นถิ่นแห้งแล้งอย่างมากของประเทศไทย แต่เอาเข้าจริงกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง คำว่าหดหู่หรือสิ้นหวังเป็นเพียงภาพที่คิดเท่านั้น ขณะที่สภาพจิตใจของผู้อาศัยจริงไม่ได้ย่ำแย่สิ้นหวังขนาดนั้น เพระทุกคนอยู่ด้วยความหวัง แม้ในวันนี้จะลำบาก หากไม่ขี้เกียจทำกินย่อมอยู่ได้แม้พื้นดินแตกระแหง

First Man (2018) มนุษย์คนแรกบนดวงจันทร์

First Man (2018) | มนุษย์คนแรกบนดวงจันทร์
Director: Damien Chazelle
Genres: Biography | Drama | History
Grade: A

"นีล อาร์มสตรอง"คือชายคนแรกที่เหยียบดวงจันทร์ แต่กว่าจะถึงจุดนั้นต้องผ่านอะไรมาบ้าง สิ่งเหล่านี้น้อยนักที่หาได้ในชั้นเรียน นอกจากหาดูสารคดีที่บางครั้งไม่ได้รับความสนใจเพราะอยากรู้แค่ไปดวงจันทร์ได้อย่างไร ขณะที่ตัวเขาเป็นที่กล่าวถึงเพียงชื่อแค่นั้น โอกาสที่จะสัมผัสว่าเขาคือใครและทำอะไรแทบจะน้อยมาก ความเป็นอยู่และหน้าที่มีบทบาทมากน้อยแค่ไหนในชีวิตประจำวัน

12 Strong (2018) 12 ตายไม่เป็น

12 Strong (2018) | 12 ตายไม่เป็น
Director: Nicolai Fuglsig
Genres: Action | Drama | History | War
Grade: C

ดัดแปลงจากหนังสือ Horse Soldier เขียนโดย Doug Stanton เกี่ยวกับทหารหน่วย ODA 595 ปฏิบัติงานโจมตีกลุ่มตาลีบันที่ต้องใช้เวลาเป็นเดือน แต่พวกเขาทำเพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น ซึ่งนำทีมด้วย (Chris Hemsworth) รวมทั้งหมดเป็น 12 คนในการปฏิบัติภารกิจแนวหน้าที่ไม่มีใครกล้าเสี่ยง แต่พวกเขาเลือกจะทำแม้ไม่มีหน่วยสนับสนุนก็ตามที

Seabiscuit (2003) ม้าพิชิตโลก

Seabiscuit (2003) | ม้าพิชิตโลก
Director: Gary Ross
Genres: Drama | History | Sport
Grade: A

หนังเกี่ยวกับม้าชื่อ"ซีบิสกิต"ที่มีชื่อเสียงในยุค 1930-1940 และเป็นม้าแข่งได้ชนะรางวัลเกียรติยศในปี 1938 แต่ก่อนจะกลายเป็นม้าแข่งที่มีชื่อเสียงและชัยชนะจากสนามแข่งไม่รู้กี่สนามนั้นไม่ได้มีความเก่งกาจหรือน่าสนใจแต่อย่างใด ซึ่งกว่าจะถึงจุดนั้นต้องเริ่มที่ ชาร์ล โฮเวิร์ด (Jeff Bridges) อดีตช่างซ่อมรถที่ผันตัวเองมาเป็นคนร่ำรวยจากการประกอบอาชีพขายรถยนต์และมีความสนใจอยากได้ม้าสักตัว จึงให้ ทอม สมิธ (Chris Cooper) อดีตคนฝึกม้าหาม้าตัวดังกล่าวก่อนจะมาเจอกับซีบิสกิตและให้ เรด พอลลาร์ด (Tobey Maguire) เป็นจ็อกกี้ขี่ม้าลงสนามแข่ง

Mississippi Burning (1988) เมืองเดือดคนดุ

Mississippi Burning (1988)
เมืองเดือดคนดุ
Director: Alan Parker
Genres: Crime | Drama | History | Mystery | Thriller
Grade: S

เป็นหนังดีที่ถูกมองข้ามและไร้ชื่อไร้เสียงจนไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในวงกว้างสักเท่าไร ส่วนหนึ่งอาจเพราะประเด็นสีผิวที่รุนแรงขนาดที่ว่าฆ่าล้างบางอย่างไร้ความเยื่อใยจนอาจทำให้หลายคนไม่พอใจ แต่ยังไงเสียเนื้อเรื่องก็ได้อิงจากเหตุการณ์จริงในปี 1964 ที่สร้างความทุกข์ร้อนถึงคนผิวสีจนไม่เหลือความเป็นมนุษย์ร่วมโลก เพราะอะไรทำไมถึงจงเกลียดจงชังคนผิวสีนัก เพราะผิวดำไม่ใช่ผิวขาวที่ดูบริสุทธิ์งั้นเหรอ เพราะไม่ขาวจึงไม่สมควรอยู่กัน เพราะอะไรนั้นคือคำถามที่สะเทือนใจ คนเราตัดสินใครบางคนหรือกลุ่มคนเพียงเพราะสีของผิวที่ไม่เหมือนกัน แน่นอนว่าเรื่องนี้มีมาตั้งแต่ยุคสมัยไหนก็ยังเป็นอยู่เสมอไม่สามารถลบอคติเช่นนี้ได้หมดหลายครั้งคนผิวสีถูกมองในเรื่องผัวพันในสิ่งที่ผิดอยู่เสมอ ดีไม่ดีถูกเป็นผู้ต้องสงสัยเพราะเป็นคนผิวดำทั้งที่ควรให้เหตุผลอื่นเข้าท่ากว่านี้ นึกแล้วก็ไม่รู้จะว่ายังไงนอกจากเป็นความแตกต่างแค่เปลือกที่สะท้อนไปถึงก้นบึ้งของอีกคนจนถึงข้างใน ความเป็นจริงที่แสนน่ารังเกลียดที่แบ่งแยกความเป็นคนด้วยคนกันเองเพราะผิวที่ไม่เหมือนกัน


นักต่อสู้สิทธิมนุษยชนตัวจริงที่หายไปในมิสซิสซิปปี

เรื่องได้เปิดด้วยความฉงนใจจากกลุ่มวัยรุ่น 3 คนที่รู้ในภายหลังว่าคือนักต่อสู้สิทธิมนุษยชนที่กำลังขับรถวิ่งกลางดึกอยู่ดีๆได้ถูกรถหลายคนไล่กวดแบบไม่แซงไม่ปล่อยต้องหยุดถึงยอม ซึ่งการหยุดรถเพื่อหวังเจรจากลายเป็นความผิดมหันต์เพราะนั้นทำให้เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ 2 นายคือรูเพิร์ต เอ็นเดอร์สัน (Gene Hackman) และอลัน วอร์ด (Willem Dafoe) ต้องมาเยือนแดนใต้ในรัฐมิสซิสซิปปีเพื่อสืบคดีนักต่อสู้สิทธิมนุษยชนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทว่าการสืบความจริงในถิ่นแปลกได้สร้างความแตกต่างระหว่างคนนอกกับคนในที่ไม่มีใครยินยอมร่วมมือกันแบบเต็มใจ จึงเป็นความปวดหัวของทั้งสองที่ยิ่งสืบยิ่งมืดแปดด้านมากยิ่งขึ้นจากความจริงที่ถูกปิดบังจากคนทั้งเมืองจนกลายเป็นตัวตลกที่หาเท่าไรก็ยิ่งสร้างความขำขันแก่ชุมชน แต่เบาะแสหนึ่งที่พบเกี่ยวกับชุมชนมิสซิสซิปปีแห่งนี้คือเรื่องของสิทธิมนุษยชนที่กำลังก่อความรุนแรงมากขึ้นเพราะสีผิว มันเป็นเรื่องของคนผิวดำที่ถูกรังแกจากคนผิวขาวแบบไม่ลืมหูลืมตาจะถูกจะผิดและกฎหมายไม่ช่วยอะไร

คู คลักซ์ แคลน (Ku Klux Klan - KKK) ถูกใช้เรียกกับลัทธิหรือกลุ่มคนที่ร่วมตัวกันต่อต้านคนผิวสีหรือนิโกรด้วยความรุนแรงแบบฆ่าได้ยิ่งดี เช่นเดียวกันกับเรื่องนี้ที่มีความรุนแรงระดับเกินเยียวยาที่ฆ่าแกงกันได้อย่างง่ายๆเพียงขอแค่ผิวดำก็เป็นเป้านิ่งให้ถูกทุบตีได้ทุกเมื่อ และที่ยิ่งกว่าคือสภาพของสังคมที่เหมือนถูกแบ่งแยกทางเพศที่มีให้เห็นจากการข่มเพศหญิงที่อ่อนแอกว่าจากเพศชายด้วยกำลัง ความไม่ประนีประนอมคือไม้เด็ดของหนังเรื่องนี้จนรู้สึกหลากหลายอารมณ์ในเวลากัน ทั้งเกลียดชัง เครียดแค้น หดหู่ และที่รู้สึกได้แน่นอนคือความไม่ยุติธรรม สำหรับ Mississippi Burning อาจจะใช้ประเด็นหลักเรื่องเหยียดสีผิวแต่โดยรวมแล้วยังมีประเด็นอีกมากมายที่สะท้อนออกมาตามที่กล่าวข้างต้น แต่สิ่งหนึ่งที่ทำได้น่าสนใจคือความหวาดกลัวจากผู้ถูกกระทำจนไม่กล้าหรือท้าทายหรือมีกำลังต่อสู้จนไม่ต่างกับคนอ่อนแอที่กลัวและไม่กล้าทำอะไร


ความหนักใจของเรื่องนี้เป็นความจริงที่ผู้ชมรู้อยู่ก่อนบ้างว่าใครคือคนทำ และด้วยเหตุผลบางประการทำให้รู้อีกด้วยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากสาเหตุอะไร ทว่าการรู้ไปก็เหมือนได้แค่พูดแล้วลอยไปตามอากาศ สิ่งที่บอกไม่ได้พิสูจน์ว่าจริงเท็จมากน้อยเพียงใดและไม่อาจหาคำตอบได้ภายใต้กรอบที่ยังมีอยู่ ด้วยสิ่งนี้เองทำให้รู้สึกว่าเรื่องนี้เต็มไปด้วยความหนักแน่นที่ยิ่งขุดคุ้ยมากเท่าไรยิ่งต้องพบความเจ็บปวดที่อยากระบายก็ไม่สามารถบอกได้เต็มปากเต็มคำ ในช่วงแรกจะไม่หนักหนาสาหัสเท่าไร แต่เมื่อยิ่งสถานการณ์ชวนบีบคั้นยิ่งขึ้นจะเห็นถึงความเป็นจริงของสังคมที่ไม่แคร์ไม่สนและไม่ช่วยเหลือ ฉากที่เห็นได้ชัดคือการสัมภาษณ์ของสื่อข่าวกับชาวบ้านในมิสซิสซิปปีเกี่ยวกับความเห็นการหายตัวไปของกลุ่มวัยรุ่น 3 คน โดยคนที่ให้สัมภาษณ์จะไม่สนความเป็นความตายเลยสักนิดและเบี่ยงเบนว่าทั้งหมดเป็นเรื่องโกหกที่สร้างขึ้นมา บางทีอาจเป็นเรื่องสนุกที่ต้องการปั่นหัวเล่นๆก็เป็นได้

การสัมภาษณ์ผ่านสื่อข่าวช่วยเปิดมุมกว้างเกี่ยวกับชุมชนมิสซิสซิปปีจนรู้สึกว่าเป็นเมืองที่ไม่น่าอยู่เลยสักนิด ทั้งนิสัยใจคอและยึดมั่นในถิ่นฐานเพราะมีวัฒนธรรมในแบบของตัวเอง กระนั้นการยึดมั่นในสิ่งที่ตัวเองเป็นก็กลายเป็นเรื่องเสียดสีของผิวสีหรือที่ได้ยินในหนังอยู่บ่อยครั้งว่า"นิโกร"ในมุมมองเห็นแก่ตัว การพูดคุยที่โยงใยจากการหายตัวของกลุ่มวัยรุ่นนักสิทธิมนุษยชนได้ไปเกี่ยวพันกับคนผิวสีในเชิงลบแบบไม่หวั่นผลกระทบในภายหลัง ทั้งว่าทั้งด่าแบบไม่หยาบแต่แรงเหลือร้ายจนไม่คิดว่าจะถูกประเมินให้ต่ำต้อยเพียงแค่ผิวสีต่างกันเท่านั้น การเชื่อมโยงเหตุการณ์จากเรื่องเล็กระดับบุคคลได้พัฒนาไปสู่ระดับชุมชนจากหนึ่งไปสิบจนถึงร้อยและหนักข้อมากขึ้น ถ้าถามว่าอะไรคือสิ่งที่เจ็บแสบมากสุด คำตอบนั้นคือคนอย่างเราๆที่รับการปลูกฝั่งความเชื่อแบบผิดๆ แม้ว่าความเชื่อจะเปลื่ยนแปลงกันได้แต่จะทำยังไงหากเข้าถึงระดับวัฒนธรรมหรือลัทธิไปแล้ว ผลคือทุกคนเชื่อและคิดว่านี่แหละเหมาะสมอย่างที่เรียนรู้กันมา


สิ่งที่พิเศษที่สุดของเรื่องนี้เป็นการเล่าเรื่องแบบละเอียดทุกฝีก้าวตั้งแต่เข้าเมืองมิสซิสซิปปี ไล่ลำดับจากเล็กไปใหญ่ด้วยการเชื่อมโยงเข้าหากันอย่างแนบเนียนจนไม่คิดว่าการผูกเรื่องทั้งหมดจะบานปลายและใหญ่โตขนาดนี้ จะว่าก็ไม่แปลกหากอิงจากเหตุการณ์จริงที่ยุคนั้นยังเต็มไปด้วยการแบ่งแยกชนชั้น อะไรหลายอย่างยังโหดร้ายและเต็มไปด้วยอคติแบบเก่าจนเป็นความขัดแย้งระหว่างแนวคิดเดิมกับแนวคิดใหม่ที่ต้องการปฏิวัติเสรีภาพจากนักต่อสู้สิทธิมนุษยชนจนตัวตายอย่างไม่รู้ตัว นอกจากเนื้อหาสาระที่แฝงมาให้ขึ้นสุดลงสุดแล้วยังรวมแม้กระทั่งตัวละครที่เข้าไปหยั่งลึกถึงจิตใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่อลันกับรูเพิร์ตที่มีความเข้าขาเพียงแค่ภายนอกเท่านั้น เอาจริงๆทั้งคู่มีความแตกต่างกันค่อนข้างมากจากรูปลักษณ์และอุดมการณ์ความคิดชนิดคนละฝั่งคนละฝา

อลันเป็นตัวละครที่ถูกเข้าหาในช่วงแรกจนเป็นตัวเด่นของเรื่อง ไม่ว่าจะวิธีการเสาะหาข้อมูลหรือตั้งสมมุติฐานก็ล้วนมาจากความจริงที่เป็นไปได้ทั้งสิ้น สิ่งที่อลันทำแทบจะเป็นไปตามตำราที่แสนเข้มข้นและจริงจังอยู่ตลอดเวลา จริงที่ว่าจะขาดความพลิกแพลงในการไขคดีแต่ความพิเศษของเขาคือการไม่ยอมอะไรง่ายๆ เมื่อความจริงไม่สามารถถูกคายออกก็ต้องเป็นคนหาความจริงนั้นให้เจอ ฉากอลันเอาจริงนับเป็นฉากที่ทรงพลังและชวนตื่นเต้นอย่างที่สุด ประกอบกับดนตรีประกอบสนสุดแสนตื่นตัวจนรู้สึกทึ่งแม้ไม่ได้ทำอะไร แต่อะไรนั้นการเรียกเจ้าหน้าที่แบบเหมายกคณะจัดเป็นอะไรที่น่าตกใจในการรับมือไขคดี มันแสดงให้เห็นตัวตนของอลันที่ไม่ยอมใครและเล่นให้สุดเท่าที่จะทำได้ แค่นั้นยังไม่พอหากการเรียกเจ้าหน้าที่นับร้อยมาไขคดีต้องหาสถานที่ทำงาน ซึ่งช่วงแรกกลายเป็นปัญหาของชุมชนระแวกนั้นโดยเฉพาะเจ้าของที่ให้ยืมที่มองว่าเป็นปัญหาไม่มีใครเข้ามาใช้บริการโรงแรม อลันจึงแก้ปัญหาแบบหักดิบซื้อสถานที่ไว้ใช้ทำงานจะได้ไม่ต้องมีปัญหาให้ยุ่งยาก


ทว่าวิธีการของอลันเป็นไปตามกรอบมากเกินไปจนนำไปสู่สงครามภายในระหว่างคนผิวสีที่ถูกย่ำยีจากคนผิวขาวเพราะเกรงว่าจะปริปากบอกอะไรที่โยงไปหาต้นตอได้ ซึ่งนั้นทำให้สังคมถูกแบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ กลุ่มแรกคือเจ้าหน้าที่ที่ต้องการความจริงเพื่อปิดคดีแต่ทำไม่ได้เนื่องจากไร้ซึ่งความจริงและหลักฐานที่ชัดเจน รวมถึงพยานที่ไม่มีใครบอกอะไรได้เลยสักนิด กลุ่มสองเป็นคนผิวสีที่ถูกรังแก้และพยายามออกห่างจากทุกฝ่ายเพื่อรักษาชีวิตของตัวเองเพราะคิดว่าถ้าช่วยเจ้าหน้าที่หรือยุ่งเกี่ยวจะต้องจบชีวิตด้วยน้ำมือคนในมิสซิสซิปปี และกลุ่มสามเป็นคนขาวในมิสซิสซิปปีที่เห็นชัดว่ามีใครบ้างแต่บอกไม่ได้ว่าจริงมากแค่ไหน อาจจะเห็นอุดมการณ์หรือความคิดเข้าข้างตัวเองชวนโกรธแค้นจนน่าต่อยหน้า แต่ก็นั่นแหละความตั้งใจของเรื่องนี้ที่สะท้อนความชิงชังระหว่างมนุษย์กันเองจนน่าสังเวช

อลันเต็มไปด้วยความพยายามที่มุ่งมั่นตามแบบหนุ่มไฟแรงที่เอาจริงเอาจังจนลืมเรื่องพลิกแพลงกับศึกษาเรื่องสภาพสังคมให้กระจ่าง ผิดกับรูเพิร์ตที่ใจเย็นมาโดยตลอดเพื่อดูความเป็นไปของสังคมชาวเมืองมิสซิสซิปปีก่อนจะลงไม้เด็ดในช่วงท้ายของหนังด้วยกำลังไม้ป่าเมืองเถื่อนที่ดูย้อนแย้งและเสียดสีอย่างลงตัว อีกทั้งความสัมพันธ์ของทั้งสองให้มุมมองสองแง่ระหว่างตำแหน่งหน้าที่กับประสบการณ์ได้อย่างแนบเนียนระหว่างยุคสมัยการทำงานที่แตกต่าง คล้ายประเด็นความแตกต่างของสีผิวที่ไม่เหมือนกันแต่ทุกอย่างย่อมมีทางออกที่เหมือนกัน งานนี้ไม่ใช่แค่บทตัวละครที่ดูสนุกชวนน่าหลงใหลเพราะยังได้นักแสดงฝีมือดีอีกด้วย ซึ่ง Willem Dafoe และ Gene Hackman เล่นได้ดุเด็ดเผ็ดมันส์จริงๆ


สำหรับประเด็นเรื่องสีผิวค่อนข้างจะรุนแรงซะหน่อยถ้ามองในหลายอย่างๆ เช่น ฉากออกจากโบสถ์ที่มีคนผิวขาวส่วมถุงผ้าปิดบังใบหน้าพร้อมด้วยอาวุธในมือเพื่อใช้ทุบตี ฉากเข้าทำร้ายครอบครัวผิวสีแบบล้างบางไร้ที่อยู่ที่ทำกิน และฉากที่เห็นบ่อยคือการทำลายบ้านด้วยความไร้ปรานี อีกประเด็นที่ซ่อนอยู่คือการสืบทอดหรือสานต่อ ในเรื่องจะมีการพูดถึงการปลุกฝังความคิดความเชื่อจากคนรุ่นก่อนจนเหมือนเป็นความเคยชินที่เชื่อต่อกันมา เมื่อยุคสมัยเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงให้อิสรภาพทุกสีผิวจึงเป็นความขัดแย้งไม่ตรงกับสิ่งที่ตัวเองรับมาจากคนรุ่นก่อนจนเป็นความต่อต้านเกิดขึ้น ด้วยประเด็นน้อยใหญ่อะไรก็แล้วแต่ที่สอดแทรกเข้ามาก็ล้วนมีความนัยกันหมดทั้งสิ้นและเชื่อมโยงเข้าหากันอย่างเป็นระบบระเบียบหาช่วงเวลาผ่อนคลายแทบไม่ได้ แม้กับฉากที่ไม่มีอะไรอย่างประชุมในโบสถ์หรือเดินประท้วงยังเต็ฒไปด้วยสัญลักษณ์และความหมายของคนผิวสีที่พยายามต่อสู้อย่างเป็นธรรม แล้วคนผิวขาวทำอะไรอย่างเป็นธรรมบ้างนอกจากทุบตีทำร้ายเยี่ยงสัตว์ชนิดหนึ่ง

สิ่งสำคัญคือความถูกต้องที่ยังมีแต่เรื่องผิดๆที่สอนต่อกันมาโดยไม่ทำความเข้าใจหรือปรับปรุงใหม่ สิ่งที่ค้างคาเป็นทัศนคติเก่าและเห็นแก่ตัว ไม่มีใครยอมรับเพราะไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมเพราะมองเป็นเรื่องคุกคามทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรเลย เหตุผลที่อ้างมาอย่างลอยๆว่าสีผิวต่างกันย่อมมีความชอบชั่วดีต่างกันกลายเป็นเรื่องสลดใจที่เกิดขึ้นจริงในสังคม นอกจากสีผิวที่เป็นปัญหายังมียังอ้างถึงหลายสาเหตุ เช่น ศาสนา เชื้อชาติ ตลอดจนการแสดงออกถึงความคิดเห็นที่ต่างกันก็ทำร้ายกันไม่ไว้ใจกันเสียแล้ว ความแตกต่างนำไปสู่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นได้ทุกที่แต่ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นด้วยความรุนแรงเสมอไป แค่หันมาพูดคุยปรับความเข้าใจและเปิดใจให้กว้างก็น่าจะเพียงพอแล้ว ใน Mississippi Burning จะมีเพลงประกอบหนึ่งชื่อว่า Walk on By Faith เสมือนเพลงปลอบใจให้แก่คนผิวสีที่ต่างร้องเพลงนี้ให้ยอมรับในเส้นทางเดินของตัวเอง ยอมรับความทุกข์ลำบากและความเลวร้ายของชีวิต แต่ไม่ได้แปลว่าจะยอมแพ้แค่รอคำว่าโอกาสที่จะเท่าเทียม

The Swordsman (1990) เดชคัมภีร์เทวดา

The Swordsman (1990)
เดชคัมภีร์เทวดา
Director: Siu-Tung Ching,King Hu,Raymond Lee,Hark Tsui
Genres: Action | History
Grade: A
 
เพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับ"เดชคัมภีร์เทวดา"กับ"กระบี่เย้ยยุทธจักร" ทั้ง 2 ชื่อนี้คือเรื่องเดียวกันตามบทประพันธ์ของกิมย้ง จะเพียงแค่ว่าฉบับหนังได้มีการดัดแปลงให้กระชับเนื้อเรื่องมากขึ้นโดยมุ่งความสำคัญไปที่การชิงคัมภีร์รัศมีตะวัน ในเรื่องจะกล่าวถึงคัมภีร์รัศมีตะวันที่หายสาบสูญไปจากราชสำนักเพราะถูกขโมยไปและกำลังถูกขันที (Shun Lau) ตามจับผู้ที่ชิงคัมภีร์ดังกล่าวไป ซึ่งตรงกับเหตุการณ์ที่เล่งฮู้ชง (Samuel Hui) ศิษย์เอกสำนักหัวซานกับงักเล้งซัง (Cecilia Yip) ศิษย์น้องร่วมสำนักที่กำลังไปส่งข่าวที่โรงเตี้ยมเพื่อนำข่าวของคัมภีร์รัศมีตะวันกลับมา ทว่าในโรงเตี้ยมถูกโจมตีจากขันทีจนเกิดล้มตายและมีเพียงเล่งฮู้ชงที่รู้ความจริงเกี่ยวกับที่ซ่อนคัมภีร์รัศมีตะวันจนกลายเป็นที่หมายปองของทั้งสองฝ่าย ทั้งขันทีที่อยากได้เก็บไว้ใช้ซะเองกับงักปุ๊กคุ้ง (Siu-Ming Lau) อาจารย์ของเล่งฮู้ชงที่มาจากสำนักหัวซานที่ต้องการนำไปใช้เพื่อความมักใหญ่ใฝ่สูงของตนเอง การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นได้สร้างปัญหาไปถึงพรรคสุริยันจันทราจนเกิดเรื่องฆ่าฟันเพื่อให้ได้คัมภีร์มาโดยไม่สนใครหน้าไหนสร้างความวุ่นวายแก่ยุทธภพ จะมีเพียงเล่งฮู้ชงที่จะกู้สถานการณ์ได้ แต่จะเลือกข้างไหนเขาก็ต้องเป็นศัตรูกับอีกข้างตลอดกาล

The Admiral: Roaring Currents (2014) ยีซุนชิน ขุนพลคลื่นคำราม

The Admiral: Roaring Currents (2014)
ยีซุนชิน ขุนพลคลื่นคำราม
Director: Han-min Kim
Genres: Action | Drama | History | War
Grade: B+

เป็นเรื่องจริงของประวัติศาสตร์เกาหลีใต้เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ปี ค.ศ. 1597 ด้วยการเอาชนะกองทัพเรือญี่ปุ่นกว่า 300 ลำทั้งที่ตัวเองมีแค่ 13 ลำเท่านั้น อาจจะฟังดูเวอร์เกินจริงไปบ้างแต่เรื่องนี้ได้พิสูจน์ถึงกลยุทธ์อย่างช่ำชองถึงการวางแผนที่แยบยลกับความกล้าหาญที่ไม่ยอมแพ้ โดยทางเรื่องเริ่มต้นที่ยีซุนชิน (Min-sik Choi) แม่ทัพเรือฝ่ายเกาหลีที่เจอศึกหนักทำหน้าที่เป็นด่านทางน้ำกันพวกญี่ปุ่นขึ้นฝั่งไปเมืองหลวง แน่นอนว่าในขณะนั้นฝ่ายเกาหลีมีสภาพที่ย่ำแย่ตกรองจนโอกาสคว้าชัยกลับมาเป็นเรื่องได้ยาก โดยเฉพาะกำลังใจที่ค่อยๆเลื่อนหายไปจากเหล่าทหารทีละเล็กทีละน้อย ไม่เว้นแม้แต่ยีซุนชินที่ทรุดหนักทั้งทางร่างกายและจิตใจกับการถูกฝ่ายญี่ปุ่นหลอกใช้และถูกทำโทษสถานหนักก่อนจะเล็งเห็นความสำคัญในตัวยีซุนชินให้กลับมารับใช้ชาติอีกครั้ง แต่อะไรไม่เท่ากับการทำศึกน่านน้ำที่แทบจะไม่มีชัยชนะเพราะกำลังพลที่แตกต่างราวฟ้ากับเหว ซึ่งความหวังสุดท้ายคือการใช้กลยุทธ์เรือเต่าอันเป็นแผนเด็ดของยีซุนชินที่ใช้สู้แบบมุทะลุลุยใส่ข้าศึกด้วยเรือที่แข็งแกร่งกว่า ทว่าระหว่างรอเรือเต่าที่ใกล้เสร็จก็มีเรื่องมากวนใจมากมายและหนึ่งในนั้นคือความเห็นของทหารคนอื่นๆที่มองในตัวยีซุนชินกลายเป็นคนไร้สติประเมินตัวเองสูงเกินไปทั้งที่ผลลัพธ์ก็ปรากฎตรงหน้าแล้วแท้ๆ แต่แล้วประวัติศาสตร์ต้องจารึกไว้ว่าคนที่ทำศึกได้อย่างชาญฉลาดต้องยึดหลักความอดทนและใจเย็นเท่านั้นถึงจะสำเร็จได้ และยีซุนชินคือคนนั้นที่สามารถสยบทัพเรือญี่ปุ่นด้วยตัวเพียงคนเดียว

The Impossible (2012) 2004 สึนามิ ภูเก็ต

The Impossible (2012)
2004 สึนามิ ภูเก็ต
Director: J.A. Bayona
Genres: Drama | History | Thriller

"The Best Holiday Season Ever."

"ภาพครอบครัวจริงที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์สึนามิที่เป็นแรงบันดาลใจในหนังเรื่องนี้"

เป็นเรื่องจริงเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 ได้เกิดภัยพิบัติธรรมชาติหายนะครั้งใหญ่ที่ทำให้เกิดผู้คนล้มตายและหายสาปสูญไม่ใช่น้อยเพียงเพราะการมาเที่ยวทะเลพักผ่อน ณ เขาหลัก จังหวัดพังงา ที่ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันน่ารื่นรมย์ของเหล่าชาวต่างชาติเป็นจำนวนมากจนหลายเสียงส่งปากต่อปากถึงความสวยงามที่น่าอยู่พักอาศัยอย่างมาก แต่ทว่ากลายเป็นวันที่เกิดคลื่นลูกใหญ่พัดเข้าฝั่งอย่างรุนแรงและปราศจากการตั้งตัวหรือเตรียมพร้อมแต่อย่างใดในคลื่นยักษ์นี้กับ"คลื่นสึนามิ"

Troy (2004) ทรอย

Troy (2004) 
ทรอย
Director: Wolfgang Petersen
Genres: Drama / History
Grade: B+

ในช่วงเวลาหนึ่งของยุคกรีกโบราณ เจ้าชายแห่งทรอยนามว่าปารีส (Orlando Bloom) มีความต้องการในราชินีเฮเลน (Diane Kruger) ทำให้เกิดความรักระหว่างอาณาจักรที่ไม่ควรเกิดจากการแย่งชิง ทำให้ลักพาเฮเลน กลายเป็นเรื่องจุดชนวนสงครามที่ห้ามไม่ได้ จนแม้แต่พี่ชายอย่างเจ้าชายเฮคเตอร์ (Eric Bana) ยังต้องสู้รบเพื่อปกป้องน้องชายและเมืองทรอยกับการบุกรุกทำสงคราม เพราะการขโมยนางเฮเลนทำให้เกียรติศักดิ์ศรีของวงสืบตระกูลโดนเหยียดหยามเป็นการสบประมาทเมนาลาอัส(Brendan Gleeson) ซึ่งเท่ากับดูถูก อกาเมมนอน (Adoni Maropis) ผู้เป็นพี่ชายและเป็นกษัตริย์แห่งชาวไมซีเน จึงเกิดสงครามที่ต้องการเฮเลนกลับคืนมาจากทรอยเพื่อกู้หน้ากับผู้น้อง แต่อกาเมมนอนมีความมักใหญ่หวังล่มสลายทรอยและยึดครอง เพื่อชัยชนะอันยิ่งใหญ่ และในความโลภนี่ได้นำพาอคีลิส (Brad Pitt)นักรบที่เก่งที่สุดที่เกิดจากเทพ ต้องร่วมรบเพราะเขาเป็นเสมือนดังกุญแจที่จะเปลี่ยนแปลงชะตากรรม ซึ่งทั้งนี้จะมีชัยหรือแพ้ ล้วนเป็นชะตากรรมที่กำหนดเอาไว้ และท้ายสุดความรักจะเป็นเครื่องตัดสินในท้ายสุด

We Were Soldiers (2002) เรียกข้าว่า วีรบุรุษ

We Were Soldiers (2002)
เรียกข้าว่า วีรบุรุษ
Director: Randall Wallace
Genres: Action / Drama / History / War
Grade: A

สร้างจากเรื่องจริงทั้งเกียรติยศของพวกพ้องที่ต้องรับภาระหน้าที่ในสงครามเวียดนามที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ กับเรื่องครอบครัวที่ต้องจากมาทำสงครามที่เปี่ยมด้วยชีวิตที่แขวนบนความเป็นตายในห่ากระสุน เมื่อทหารอเมริกันต้องเคลื่อนทัพเข้าไปยังหุบเขามรณะที่นำโดยพันโทแฮโรลด์ มัวร์ (Mel Gibson)ผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารม้า แต่สถานการณ์คือเรื่องที่บีบคั้นที่สุดเมื่อเหล่าทหารและเขาต้องก้าวเท้าลงใจกลางที่ถูกรอบล้อมด้วยทหารเวียดกง 4000 นาย ขณะที่อเมริกันมีเพียง 400 นาย เวลาและความคิดคือเรื่องสำคัญความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ แต่กับสงครามนี้ถ้าพลาดอาจหมายถึงทุกสิ่งต้องหายไป แฮโรลด์ มัวร์กับเพื่อนเหล่าทหารจะกลับไปหาครอบครัวอันที่รักได้หรือไม่กับสงครามบ้าระห่ำห่ามกลางดงกระสุนเช่นนี้ จะมีแต่ต้องภาวนาและความกล้าหาญเท่านั้นที่พอช่วยได้

K-19: The Widowmaker (2002) ลึกมฤตยู นิวเคลียร์ล้างโลก

K-19: The Widowmaker (2002) 
ลึกมฤตยู นิวเคลียร์ล้างโลก
Director: Kathryn Bigelow
Genres: Drama / History / Thriller / War
Grade: B

K-19 เรือดำน้ำที่อยู่ระหว่างรีบเร่งการสร้างอย่างเร่งด่วนเพราะผู้นำของสหภาพโซเวียตต้องการใช้เป็นเรือทดสอบประสิทธิภาพเพื่อทดลองยิงขีปนาวุธ แต่กระนั้นกัปตันมิคาเอล โพเลนิน(Liam Neeson)กลับปฏิเสธและยืนยันว่า K-19 ยังไม่พร้อม ทำให้ต้องถูกกัปตันคนใหม่ที่ประสบการณ์มากกว่าต้องมาแทนที่และควบคุมเรือเสียเองโดยกัปตันมิคาเอล โพเลนินเป็นเพียงแค่รองกัปตันที่รับคำสั่งจากกัปตันอเล็กไซ ออสตริคอฟ(Harrison Ford)ที่ถูกตามตัวให้มาทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาเรือดำน้ำลำนี้

Braveheart (1995) วีรบุรุษหัวใจมหากาฬ

Braveheart (1995)
วีรบุรุษหัวใจมหากาฬ
Director: Mel Gibson
Genres: Biography / Drama / History / War
Grade: A

วิลเลียม วอลเลซ (Mel Gibson)อัศวินชาวสกอตแลนด์ ที่ยอมรับความจริงของเรื่องราวที่ไม่น่าเป็นไปได้ให้เป็นอดีตภายใต้อิสระภาพ ด้วยการปลุกระดมชาวสกอตแลนด์ให้ปลดตนเองออกจากการเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษซึ่งมีพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 แห่งอังกฤษเป็นผู้ปกครอง ถึงแม้จะต้องเผชิญชะตากรรมไม่คาดฝันที่สิ้นหวีง วิลเลียม วอลเลซ ผู้นี่จะสร้างปฏิหาริย์ที่ยิ่งใหญ่ด้วยความศรัทธาถึงความแข็งแกร่งเหล่าชาวสกอตแลนด์ กระนั้นการตั้งกองทัพขึ้นเพื่อต่อสู้กับกองทัพอังกฤษไม่ใช่เรื่องง่ายถ้าเทียบกับจำนวน แต่สิ่งเดียวที่พาสู่ความสำเร็จได้คือความตั้งใจไม่ย่อท้อต่อเรื่องที่ได้ฝากความหวังจากคนนับร้อยพัน วิลเลียม วอลเลซจะบุกเบินความฝันที่ตนตั้งเป้าไว้ให้สำเร็จได้หรือไม่ กับสงครามที่ต้องแลกด้วยเลือดเนื้อเพื่อเอกราช

Apollo 13 (1995) อพอลโล 13 ผ่าวิกฤติอวกาศ


Apollo 13 (1995) 
อพอลโล 13 ผ่าวิกฤติอวกาศ
Director: Ron Howard
Genres: Adventure / Drama / History
http://www.imdb.com/title/tt0112384/
Grade:  A-

ภาพยนตร์ที่ว่าด้วยเรื่องจริงของความระทึกขวัญชวนพาไปสู่สถานการณ์สุดตึงเครียดแบบที่ไม่มีทางแก้ไข เมื่อนักบินที่อยู่ในยานอวกาศอพอลโล 13 ทั้ง 3 นายต้องพบปัญหาสุดยั้งคาดที่มี จิม โลเวลล์ (Tom Hanks), เฟรด ไฮส์ (Bill Paxton) และ แจ๊ค (Kevin Bacon) ปัญหาที่เกิดบนพื้นย่อมมีทางแก้ไขได้แต่กลับในอวกาศที่นอกโลกนับว่าปัญหาใหญ่สุดเกินบรรยาย แทนที่จะไปดวงจันทร์กลับต้องเปลี่ยนภารกิจใหม่เมื่อเครื่องเกิดขัดข้อง กลายเป็นว่าภารกิจที่ทำได้คือการนำพวกเขากลับสู่โลกอย่างปลอดภัยนั้นคือคำสั่งของฮุสตัน
รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)