แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Sport แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Sport แสดงบทความทั้งหมด

True Spirit (2023) ทรู สปิริต

True Spirit (2023) | ทรู สปิริต | B+
Director: Sarah Spillane
Genres: Adventure | Biography | Drama | Family | Sport

หนังชีวประวัติของผู้หญิงคนหนึ่งวัย 16 ปี ชื่อ “เจสสิก้า วัตสัน” ผู้ซึ่งชอบการเดินเรือและอยากเดินทางรอบโลกเพื่อทำให้ความฝันเป็นจริง แต่ก่อนเดินทางต้องพบกับคำสบประมาทและระหว่างเดินทางต้องเจออุปสรรคที่ไม่มีใครเชื่อจะประสบความสำเร็จได้

Days of Thunder (1990) ซิ่งสายฟ้า

Days of Thunder (1990) | ซิ่งสายฟ้า | C+
Director: Tony Scott
Genres: Action | Drama | Sport

โคล ทริกเกิล (Tom Cruise) ได้รับการคัดเลือกให้มาเป็นคนขับรถเพื่อลงสนามแข่งหวังสร้างชื่อเสียง โดยได้รับการติวเข้มจาก แฮร์รี่ ฮอดจ์ (Robert Duvall) เกี่ยวกับวิธีการต่างๆของการแข่งขัน นอกจากแข่งรถให้ชนะแล้วยังต้องชนะใจของ ดร. แคลร์ (Nicole Kidman) หมอสาวที่เขาตกหลุมรัก

Rocky Balboa (2006) ร็อคกี้ ราชากำปั้น ทุบสังเวียน

Rocky Balboa (2006) | ร็อคกี้ ราชากำปั้น ทุบสังเวียน | A-
Director: Sylvester Stallone
Genres: Action | Drama | Sport
 
หลังจากปิดตำนานไปใน  Rocky V (1990) ที่แม้จะเป็นการปิดเรื่องราวที่ไม่ถึงกับดีหรือแย่จนเกินไปเพียงไม่เป็นที่น่าจดจำเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับภาคก่อนๆ แต่ถือว่าชีวิตของร็อคกี้ บัลบัวร์ (Sylvester Stallone) ได้มาถึงความปุถุชนเดินดินได้สำเร็จโดยไม่ต้องพึ่งพาความร่ำรวยหรือชื่อเสียงใดๆ เดิมทีนั้นการปิดจบในภาคที่ 5 จะต้องลงเอยด้วยการตายของร็อคกี้ แต่ถูกเปลี่ยนใจเพราะสตูดิโอไม่เห็นด้วย นั้นเองจึงเป็นการแก้มือให้กับ Sylvester Stallone ที่อยากแก้ไขตอนจบของหนัง Rocky ที่ไม่ใช่แค่การเผชิญกับอุปสรรคชีวิตที่ต้องปรับตัวเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ มันจะต้องมีอะไรที่มากกว่านั้นเมื่อตัวเองแก่ตัวลง ด้วยความไม่สบายใจที่หนังจบเช่นนั้นในภาค 5 จึงอยากแก้ตัวอีกครั้งในปี 1999 ทว่าเพราะจบไม่สวยเนื่องจากเสียงวิจารณ์และรายได้ตกต่ำจึงไม่ได้รับอนุมัติให้สร้างภาคต่อ จนกระทั่งต้องรอต่ออีก 6 ปีถึงจะสร้างภาคต่อได้ ซึ่งกว่าจะได้สร้างทำให้บทหนังที่ Sylvester Stallone เขียนเอาไว้เข้ากับตัวตนจริงๆของเขาพอดี

Rocky V (1990) ร็อคกี้ 5 หัวใจไม่ยอมสยบ

Rocky V (1990) | ร็อคกี้ 5 หัวใจไม่ยอมสยบ | C+
Director: John G. Avildsen
Genres: Drama | Sport
 
 ต้องเกริ่นก่อนว่าภาคนี้เป็นเสมือนตราบาปของ Rocky ที่มาผิดพลาดทำเอาความหวังของแฟนๆบ่นเสียดายกันไม่น้อย แล้วอะไรทำให้หนังภาคต่อที่มีดีกรีความสนุกไม่มีท่าทีลดหย่อนต้องมาถึงจุดต่ำสุดคืออะไร คำตอบคือความสมเหตุสมผล การที่ภาคนี้มีข้อเสียมากกว่าข้อดีจึงไม่ต่างกับชีวิตของร็อคกี้ บัลบัวร์ (Sylvester Stallone) ที่ต้องย้อนไปสู่จุดเริ่มต้นของชีวิตอีกครั้ง ชีวิตที่เคยเป็นคนธรรมดาใช้กินแค่พอประทังในแต่ละวัน เรื่องราวในภาคนี้จะเล่าย้อนเหตุการณ์หลังจากไปชกที่รัสเซียและได้รับชัยชนะกลับมาแต่เกิดความผิดปกติบางอย่างในตัวร็อคกี้ทำให้เขาเริ่มเห็นว่าร่างกายไม่เหมือนเคย ซึ่งภายหลังได้รับเข้าตรวจร่างกายและพบว่าได้การกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงทำให้ส่งผลต่อสมอง ด้วยเหตุนี้เองจุดจบของการเป็นนักมวยได้จบลงอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้เพราะปัญหาสุขภาพ ซึ่งเป็นความต้องการของเอเดรียน (Talia Shire) ด้วยส่วนหนึ่งที่อยากให้ร็อคกี้ได้พักจากการต่อสู้เพื่อนคนอื่นบ้าง ทว่าปัญหาที่เหมือนจะทุเลาแก้ไขด้วยการแขวนนวมยังไม่จบเมื่อร็อคกี้กลายเป็นคนล้มละลายต้องสูญเสียทุกอย่างที่สั่งสมมาตลอดชีวิตการต่อสู้ ไม่ว่าจะบ้าน รถ ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ แทบจะไม่มีอะไรเหลือในชีวิตที่บ่งบอกถึงความร่ำรวยมาก่อนอีกเลย สิ่งเดียวที่ร็อคกี้ทำได้คือกลับมาสู้ชีวิตอีกครั้งในฐานะปถุชนอีกครั้งหนึ่ง เขาจะไม่ใช่นักมวยที่ได้รับโอกาสให้สู้บนสังเวียน แต่จะเป็นการสู้บนชีวิตที่ไร้ตัวช่วยโดยเขาจะต้องทำโอกาสด้วยตัวเอง

Rocky IV (1985) ร็อคกี้ 4

Rocky IV (1985) | ร็อคกี้ 4 | B-
Director: Sylvester Stallone
Genres: Drama | Sport
 
ตามตรงภาคนี้มีความเอนเตอร์เทนผู้ชมสูงมากจนกลายเป็นอีกภาคที่ชอบไม่ด้อยไปกว่าสามภาคก่อนทั้งที่เนื้อเรื่องแทบจะไม่มีอะไรเลยเสียด้วยซ้ำ ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการเดิมของ Sylvester Stallone ที่ตอนแรกตั้งใจทำเป็นภาคแรกภาคเดียวก่อน พอประสบความสำเร็จทั้งรายได้และรางวัลจึงสามารถสานต่อเรื่องราวทำเป็นไตรภาค แต่ด้วยความที่ตัวหนังยังรักษามาตรฐานความสนุกอยู่จึงต้องมีภาคต่อออกมาและครั้งนี้โยงนัยยะไปไกลจากคนธรรมดาสู้ชีวิตกลายเป็นการต่อสู้เพื่อชาติที่เดิมพันด้วยศักดิ์ศรี ในความรู้สึกก่อนจะมาถึงเรื่องราวในภาคนี้ยังคงคิดเสมอว่าการต่อสู้นั้นไม่ได้มีแค่บนสังเวียนเพียงอย่างเดียว ในชีวิตบนถนนหนทาง การกินอยู่อาศัย และดำเนินชีวิตยังคงเป็นความลำบากที่มีอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะรวยหรือจนแม้แต่การมีคนรอบข้างมากน้อยเพียงใดก็ไม่อาจชดเชยความทรหดอดทนที่ตัวเองต้องฟันฝ่า สิ่งสำคัญที่สุดคือตัวเองที่เลือก ไม่ใช่กับคนอื่นที่มาชี้ทางให้เพราะสุดท้ายคนที่มีสิทธิ์สูงที่สุดคือเราเอง ต้องยอมรับอย่างหนึ่งถึงข้อคิดมากมายของการใช้ชีวิตคือวิ่งเข้าหาปัญหาและเผชิญกับสิ่งนั้นพร้อมกับแก้ไขไปด้วย ไม่ใช่วิ่งเข้าปัญหาเพื่อก่อสร้างขึ้นหรือวิ่งหนีปล่อยมันไปจนสักวันหนึ่งปัญหาก็ไล่ตามทัน สำหรับปัญหาเสมือนโอกาสที่เกิดมาทดสอบว่ามีวิธีจัดการยังไง บางทีปัญหาทำให้เราชนะ บางทีทำให้เราแพ้ นั้นก็แล้วแต่ความใจสู้ที่จะยืนหยัดจนวินาทีสุดท้ายยังไง ผลลัพธ์อาจออกมาแพ้แต่ไม่เสมอไปเลยที่จะไม่มีคำว่าชนะอยู่ในนั้น

Rocky III (1982) ร็อคกี้ 3 ตอน กระชากมงกุฎ

Rocky III (1982) | ร็อคกี้ 3 ตอน กระชากมงกุฎ | B+
Director: Sylvester Stallone
Genres: Drama | Sport
 
"เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ"

"การเป็นแชมป์มันยาก แต่เทียบไม่ได้เลยกับการรักษาแชมป์"
 
หลังจากโค่นอพอลโล ครีด (Carl Weathers) ลงได้สำเร็จก็สร้างปรากฎการณ์ทำให้ร็อคกี้ บัลบัวร์  (Sylvester Stallone) กลายเป็นคนดังและเป็นขวัญใจประชาชนชาวอเมริกาในแบบที่ใครก็ร้องเรียกชื่อเขาไม่ขาดสาย ซึ่งนั้นทำให้ร็อคกี้ได้ค้นพบตัวเองอีกครั้งว่าอาชีพมวยเหมาะสมกับตัวเขามากที่สุด จึงตัดสินเลือกเส้นทางนี้ต่อไปด้วยการรักษาแชมป์ต่อไปเรื่อยๆจนกระทั่งมาถึงจุดอิ่มตัวและคงถึงเวลาต้องแขวนนวมอย่างจริงจังเสียที ทว่าเกิดเรื่องขึ้นเมื่อคลับเบอร์ แลง (Mr. T) มาขอท้าชกเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองเก่งกว่า ถ้ามองเนื้อเรื่องภาคนี้จะเห็นได้อย่างหนึ่งคือความไม่สมหวังของร็อคกี้ที่อยากจะพักลาวงการมวยแต่ไม่เคยได้เลยสักครั้งเดียวเพราะใครๆก็อยากเข้ามาท้าชกเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองนั้นเก่งกว่าและร็อคกี้เป็นเพียงนักมวยที่เคยไร้ชื่อเสียงที่ได้เป็นแชมป์เพราะโชคช่วย ถึงอย่างงั้นตัวร็อคกี้ได้แสดงความสามารถตัวเองชัดเจนในการรักษาตำแหน่งที่ยาวนานจนคิดว่าสมควรแก่เวลาเปลี่ยนมือให้คนอื่นได้เป็นแชมป์กันเสียบ้าง ด้วยเหตุนี้เองจึงสร้างความไม่พอใจให้กับคลับเบอร์ผู้พยายามฝึกซ้อมหนักและชกมวยชนะมาตลอดเพื่อหวังไต่อันดับอย่างเขาต้องถึงกับไม่พอเป็นอย่างสูง เนื่องจากสิ่งที่พยายามมาโดยตลอดกำลังจะสูญเปล่า เมื่อร็อคกี้กำลังจะประกาศอำลาวงการเท่ากับสิ่งที่คลับเบอร์ทำคือหมดความหมาย สำหรับคลับเบอร์แล้วร็อคกี้เป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งเพียงอย่างเดียวที่ต้องโค้นให้ได้และคว้าตำแหน่งอันดับหนึ่งของโลกที่คิดว่าเหมาะสมกับเขาที่สุด ทางด้านร็อคกี้ที่จะเลิกชกสุดท้ายต้องกลับมาขึ้นสังเวียนอีกครั้งโดยจะเป็นการปิดฉากด้วยชัยชนะที่แท้จริงของเขาเองและให้คำตอบว่าตัวเขาสามารถชนะได้ทุกคนไม่ว่าจะอันดับไหนก็ตาม แต่แล้วความจริงไม่ได้เป็นอย่างที่ร็อคกี้คิดเมื่อเขาแพ้ แพ้อย่างหมดรูปทั้งกายและจิตใจ

Rocky II (1979) ร็อคกี้ 2

Rocky II (1979) | ร็อคกี้ 2 | A
Director: Sylvester Stallone
Genres: Drama | Sport
 
ความสำเร็จของภาคแรกกลายเป็นสิ่งยืนยันว่า Sylvester Stallone สามารถเอาชนะความยากลำบากมาได้ ทั้งเป็นชัยชนะที่เหนือความคาดหมายอย่างมหาศาลไม่ว่าจะรายได้หรือรางวัลก็ล้วนไหลเทหาตัวจนเปลี่ยนจากคนธรรมดาเป็นคนดัง เช่นเดียวกับเนื้อเรื่องในภาคนี้ที่สะท้อนตัวตนออกมาคล้ายเป็นสิ่งเตือนใจในยามมีทรัพย์สินเงินทองว่าควรจะใช้อย่างไรให้มีความสุขและคุ้มค่า ก่อนจะเข้าประเด็นหลักต้องเริ่มจากย้อนความไปหาภาคแรกเริ่มจากสิ่งที่ชายธรรมดาคนหนึ่งเป็นนักมวยไร้อันดับที่ถูกครูมองเป็นเพียงคนตกรุ่นที่ไม่รู้จักขวนขวาย แต่แล้วก็เกิดเรื่องเหนือความคาดหมายกับชีวิตเมื่อถูกเลือกเป็นคู่ชกกับนักมวยอันดับหนึ่งของโลกตามวัตถุประสงค์การให้อิสรภาพแก่คนที่ไร้หนทางในวงการได้มีสิทธิ์ได้ทดสอบความยิ่งใหญ่ของตัวเอง ทว่าใช่จะตอบยอมรับขึ้นชกเลยทันทีเพราะในใจลึกๆแล้วรู้ดีว่าไม่อาจสู้ได้และคิดเกี่ยวกับมวยที่ตัวเขาไม่เป็นมวยควรจะแขวนนวมเพื่อให้ค่ายมวยที่ตัวเองอาศัยไม่แปดเปื้อนจากการทำผิดๆของเขาไปกว่านี้ แต่นั้นไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้องเพราะไม่ว่าเขาหรือคนรอบข้างก็ต่างคิดว่านี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่สมควรจะลองดู คำว่าลองคือความจริงจังและไม่ว่าจะแพ้หรือชนะยังไงก็ตาม ถ้าได้ขึ้นเวทีและชกสุดวามสามารถที่ตัวเองทำได้ก็ไม่ต่างกับได้ประกาศให้ทุกคนได้รู้ถึงคนที่ไม่มีอะไรเลยก็มีความพยายามไม่ท้อถอยและสู้เป็น สู้เพื่อชัยชนะ สู้ให้กับตัวเองถึงความกลัวที่อยู่ตรงหน้าที่จะไม่หันหลังให้อีกต่อไป ให้ทุกคนรับรู้นี่แหละเขา "ร็อคกี้"

Rocky (1976) ร็อคกี้

Rocky (1976) | ร็อคกี้ | A+
Director: John G. Avildsen
Genres: Drama | Sport
 
"ความสำเร็จของ Rocky คือการทำให้ร็อคกี้ได้กลับมาสู้ชีวิตสานต่ออาชีพนักมวยอีกครั้ง เฉกเช่นกับ Sylvester Stallone ที่ได้รับโอกาสพิสูจน์ตัวเองได้สู้ชีวิต ถ้าว่ากันตามตรงนี้คือหนังที่สะท้อนตัวตนของผู้เขียนบทจากชีวิตจริงร่วมด้วยส่วนหนึ่ง ฉะนั้นจะเพื่อใครก็ตามนี้คือหนังเพื่อ Sylvester Stallone ไม่ใช่เพื่อใครแต่เพื่อตัวเองเพื่อความพยายามของเขาที่ทุ่มหมดหน้าตัก"

โปรเม อัจฉริยะ/ต้อง/สร้าง (2019)

โปรเม อัจฉริยะ/ต้อง/สร้าง (2019)
Director: ธนวัฒน์ เอี่ยมจินดา
Genres: Biography | Drama | Sport
Grade: B

มีความย้อนแย้งกับความรู้สึกตัวเองที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจน ทำให้ไม่แปลกใจที่เกริ่นเตือนใจเรื่องสถาบันครอบครัว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ต่างกับการฝึกนักโทษ ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ตั้งแต่เด็กจนโต แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ดูแล้วทรมานใจพอสมควร ทำไมเด็กคนนี้ต้องเกิดมามีพ่อแบบนี้ ทำไมพ่อต้องทำแบบนี้กับลูก แล้วพ่อได้อะไรและลูกได้อะไร

Creed II (2018)

Creed II (2018)
Director: Steven Caple Jr.
Genres: Drama | Sport
Grade: A-

การนำของเก่ามากินใหม่ ถ้าปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นย่อมออกมาสดอร่อย แล้วจะดีมากกว่านี้หากนำประเด็นมาต่อยอด สำหรับภาคนี้ผิวเพินไม่ต่างกับหนังที่ไร้เนื้อหาและความสดใหม่ เพราะเสมือนหยิบ Rocky IV (1985) มารีบูทอีกครั้ง แม้เรื่องราวยังคงก้าวต่อไปข้างหน้าด้วยตัวละครใหม่และมุมมองของคนรุ่นหลัง แต่ปฏิเสธไม่ได้ถึงการนำวิธีเล่าเดิมๆกลับมาอีกครั้ง ตลอดทั้งเรื่องจึงไม่ยากแก่การเดาที่รู้ๆกันอยู่

A Prayer Before Dawn (2017) บทสวดก่อนฟ้าสาง

A Prayer Before Dawn (2017) | บทสวดก่อนฟ้าสาง
Jean-Stéphane Sauvaire
Genres: Biography / Crime / Drama / Sport / Thriller
Grade: A+

อ้างอิงมาจากชีวิตจริงของ Billy Moore ที่ต้องเข้าไปใช้ชีวิตในคุกไทย ซึ่งความเลวร้ายจากประสบการณ์ครั้งนั้นทำให้เขียนหนังสือ A Prayer Before Dawn: A Nightmare In Thailand เล่าถึงความเป็นอยู่ในฐานะนักโทษต้องคดีคนหนึ่ง โดยเขาเป็นคนต่างชาติที่เข้ามาใช้ชีวิตหากินในประเทศไทย มีอาชีพเป็นนักมวยชกบนเวทีเถื่อน แต่นั้นยังไม่หนักหนาเท่าการใช้ชีวิตไปวันๆกับยาเสพติด ต้นเหตุที่ทำให้เขาเข้าคุกเรือนจำกลางคลองเปรม

I, Tonya (2017) ทอนย่า บ้าให้โลกคลั่ง

I, Tonya (2017) | ทอนย่า บ้าให้โลกคลั่ง
Director: Craig Gillespie
Genres: Biography / Comedy / Drama / Sport
Grade: A-

"ชีวประวัติ ตลกร้าย"

Margot Robbie รับบท ทอนย่า ฮาร์ดิ้ง นักกีฬาฟิกเกอร์ สเก็ต (Figure Skating) หรือสเก็ตลีลา ผู้หญิงที่เคยไปสู่จุดสูงสุดด้วยท่า Triple Axel ที่ทำยากมากของกีฬาชนิดนี้ แล้วยังได้รับการคัดเลือกไปแข่งกีฬาโอลิมปิก ทว่าความสามารถทางกีฬาที่เก่งแค่ไหนก็สู้ให้กับชะตาของชีวิตตัวเองไม่ได้ เมื่อมาถึงจุดที่สูงก็กลับไปตกต่ำได้เช่นกัน

Battle of the Sexes (2017) แมทช์ท้าโลก

Battle of the Sexes (2017) | แมทช์ท้าโลก
Director: Jonathan Dayton,Valerie Faris
Genres: Biography | Comedy | Drama | Sport
Grade: A

บิลลี่ จีน คิง (Emma Stone) นักเทนนิสมือหนึ่งฝ่ายหญิงต้องการแสดงศักยภาพว่าผู้หญิงไม่ด้อยไปกว่าผู้ชายและมีค่าเงินรางวัลที่เท่าเทียมกัน จึงพยายามต่อสู้เพื่อสิทธิความเท่าเทียมกันด้วยความสามารถที่มีในการแข่งขัน ซึ่งคนที่ต้องเจอคือ บ๊อบบี้ ริกส์ (Steve Carell) นักเทนนิสมือหนึ่งฝ่ายชายที่พร้อมจะลั่นวาจาใส่มุขล้อเลียนผู้หญิงตลอดเวลาเพราะไม่ว่าเรื่องไหนต้องให้ผู้ชายทำเท่านั้น ยกเว้นเรื่องครัวเพราะผู้หญิงไม่เข้มแข็งหรือรับแรงกดดันได้เพียงพอ

Seabiscuit (2003) ม้าพิชิตโลก

Seabiscuit (2003) | ม้าพิชิตโลก
Director: Gary Ross
Genres: Drama | History | Sport
Grade: A

หนังเกี่ยวกับม้าชื่อ"ซีบิสกิต"ที่มีชื่อเสียงในยุค 1930-1940 และเป็นม้าแข่งได้ชนะรางวัลเกียรติยศในปี 1938 แต่ก่อนจะกลายเป็นม้าแข่งที่มีชื่อเสียงและชัยชนะจากสนามแข่งไม่รู้กี่สนามนั้นไม่ได้มีความเก่งกาจหรือน่าสนใจแต่อย่างใด ซึ่งกว่าจะถึงจุดนั้นต้องเริ่มที่ ชาร์ล โฮเวิร์ด (Jeff Bridges) อดีตช่างซ่อมรถที่ผันตัวเองมาเป็นคนร่ำรวยจากการประกอบอาชีพขายรถยนต์และมีความสนใจอยากได้ม้าสักตัว จึงให้ ทอม สมิธ (Chris Cooper) อดีตคนฝึกม้าหาม้าตัวดังกล่าวก่อนจะมาเจอกับซีบิสกิตและให้ เรด พอลลาร์ด (Tobey Maguire) เป็นจ็อกกี้ขี่ม้าลงสนามแข่ง

Creed (2015) ครีด

Creed (2015) | ครีด
Director: Ryan Coogler
Genres: Action | Drama | Sport
Grade: A+
 
อโดนิส จอห์นสัน (Michael B. Jordan) เด็กหนุ่มที่มีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักมวยขนาดที่ว่ามีเวลาว่างจากการทำงานจะลองไปขึ้นชกมวยที่ไม่เป็นทางการเพื่อทดสอบฝีมือตัวเอง แต่ก่อนที่จะมาถึงขั้นนี้ได้ต้องเริ่มตั้งแต่ยังไม่ทันลืมตาดูโลก ตอนที่พึ่งรู้ว่าตัวเองคือลูกนอกสมรสของอพอลโล ครีด (Carl Weathers) อดีตแชมป์โลกที่เสียชีวิตจากการชกมวย รวมถึงการเสียแม่แท้ๆจนต้องไปอยู่ศูนย์เด็กกำพร้า ซึ่งที่นั้นทำให้เขาเป็นเด็กมีปัญหาแม้จะเป็นคนดีเพราะชอบหาเรื่องชกต่อยตลอดเวลา หลังจากนั้นคือตอนที่แมรี่แอน ครีด (Phylicia Rashad) เข้ามาขอเลี้ยงดูประหนึ่งลูกในไส้ ส่งเสริมเลี้ยงดูอย่างดีจนสามารถหางานทำในบริษัท ทว่าชีวิตที่ต้องการไม่ใช่แบบนี้ ทุกวันที่เลิกงานจะเปิดวีดีโอย้อนหลังการชกมวยเพื่อเก็บท่าทางการชก พยายามเก็บข้อมูลให้มากที่สุดเพราะไม่มีเทรนเนอร์แนะนำ จนกระทั่งตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อไปเป็นนักมวย แต่ก่อนจะถึงตอนนั้นต้องไปฟิลาเดลเฟีย ไปหาคนที่ช่วยปลุกปั้นได้ ซึ่งเขาคือร็อคกี้ บัลบัวร์ (Sylvester Stallone)

The Karate Kid (2010) เดอะ คาราเต้ คิด

 
The Karate Kid (2010)
เดอะ คาราเต้ คิด
Harald Zwart 
Genres: Action / Drama / Family / Sport
www.imdb.com/title/tt1155076/
Grade: B 

เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ตัวหนังดันไม่ความเป็นคาราเต้สักนิดเพราะตลอดวิชาฝึกป้องกันล้วนมีแต่กังฟูจนน่าเปลี่ยนชื่อเป็น The Kung Fu Kid อาจจะเหมาะสมกว่ากันเยอะ แต่ถ้ามองโดยหลักพื้นฐานสักหน่อยในเรื่องการฝึกฝนวิชาป้องกันบางทีเรื่องของคาราเต้อาจเป็นจุดเล็กๆที่อยู่ในกังฟูก็เป็นได้ เพราะอย่าลืมสิว่าหลักของกังฟูไม่ได้มาจากอะไรแต่หากมาจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะท่าทาง การเคลื่อนไหว ตลอดจนการโต้ตอบที่ลอกเลียนมาจากการเคลื่อนของสัตว์จนออกมาเป็นวิชา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากังฟูจะเหนือกว่าคาราเต้หรือคาราเต้เหนือกว่ากังฟูเว้นแต่กรณีกับตัวผู้ใช้ว่ามีประสบการณ์มากน้อยเพียงใด จะคาราเต้ของญี่ปุ่นหรือกังฟูจากจีนสุดท้ายแล้วทั้งสองวิชาต่างขึ้นชื่อเรื่องวิชาป้องกันเป็นเลิศ ทว่าด้านกลยุทธ์เรื่องพลิกแพลงอาจต้องยกให้กังฟูที่มีหลากหลายรูปแบบ แต่ขณะเดียวกันคาราเต้ยังมีทักษะที่จับจุดตายได้ทันทีด้วยเช่นกัน ส่วนเหตุผลที่ทำไมพล็อตเรื่องถึงเปลี่ยนไปจากตัวต้นฉบับเมื่อปี 1984 จากคาราเต้มาเป็นกังฟูนั้นส่วนนึงน่าจะมาจากเนื้อเรื่องที่ไปเมืองจีน

Bloodsport (1988) ขาเจาะเหล็ก

Bloodsport (1988)
ขาเจาะเหล็ก
Director: Newt Arnold
Genres: Action | Biography | Drama | Sport
Grade: C+

คูมิเตะแหล่งรวมนักสู้จากทั่วโลกให้เข้าร่วมแข้งขันใต้ดินเพื่อหาผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียว โดยปราศจากกติกาช่วยเหลือใดๆทั้งสิ้นทำให้ต้องมีผู้เสียชีวิตมาแล้วกับการต่อสู้ที่รุนแรงไร้ความเมตตาปรานี แฟรง ดุกซ์(Jean-Claude Van Damme)นายทหารหนีค่ายเพื่อตามความฝันวัยเด็กที่ต้องการทำให้เสร็จสมบูรณ์นั้นคือการเข้าร่วมแข่งขันสุดอันตราย แต่ทว่าหลังจากที่เข้าร่วมได้ไม่นานการต่อสู้ยิ่งเริ่มชัดเจนมากขึ้นความดุเดือดยิ่งหนักขึ้น แต่ที่น่ากลัวสุดคือความท้าทายจากคนที่มาจากทั่วโลกที่จะแสดงความสามารถที่แตกต่างกันออกไป ต่างคนต่างวิชา และเขาเองต้องตระหนักได้ว่าอะไรคือสิ่งที่ปรารถนากันแน่ระหว่างความฝันที่จะเข้าร่วมต่อสู้กับเพื่อชื่อเสียงอาจารย์ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นเหมือนภาระที่ต้องแบกไปด้วยกันหลังขึ้นเวที เมื่อได้ร่วมแข่งขันสิ่งเดียวที่ห้ามทำคือการยอมแพ้ที่ต้องชนะให้ได้กับคำมั่นต่อคนที่เชื่อมั่นที่สุดในตัวเขาทั้งพวกพ้องและอาจารย์
รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)