Downrange (2017)

Downrange (2017)
Director: Ryûhei Kitamura
Genres: Action | Horror | Thriller
Grade: C+

รับประกันความโหดว่าไม่แพ้ผลงานก่อนหน้านี้ของผู้กำกับ Ryûhei Kitamura อย่าง Versus (2000),The Midnight Meat Train (2008) และ No One Lives (2012) โดยแต่ละเรื่องก็รุนแรงเลือดเนื้อกระเซ็นให้เห็นกันอย่างถูกอกถูกใจคอหนังสยองขวัญ ซึ่งครั้งนี้เรื่องน่ากลัวได้เริ่มต้นขึ้นกับกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังเดินทางเที่ยวพักผ่อน แต่กลายเป็นว่าต้องตกเป็นเหยื่อของสไนเปอร์ที่พร้อมจะ Headshot ได้ทุกเมื่อตลอดเวลา


เริ่มเรื่องได้รวดเร็วจนแทบไม่ต้องปูทางแต่อย่างใดเพราะมาถึงก็เกิดอุบัติเหตุยางแตกกันแล้ว ซึ่งระหว่างนั้นก็เนียนไปกับการอธิบายตัวละครถึงความสัมพันธ์ของคนในกลุ่ม โดยแต่ละคนคือเพื่อนร่วมทางที่แสนน่ารัก บางคนพึ่งจะรู้จักเพราะอาศัยติดรถมาด้วย แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ดูเป็นกันเองและช่วยเหลือกัน ทว่าต้องเซอร์ไพรส์เมื่อความจริงแล้วพวกเขากำลังตกเป็นเหยื่อของมือปืนสไนเปอร์ที่แอบซุ่มอยู่ที่ไหนสักที่ และเจ้ามือปืนนี้ได้ปลิดชีวิตแต่ละคนแบบไม่ทันตั้งตัว ขนาดที่ผู้ชมเองก็คาดไม่ถึง

จุดเริ่มต้นความสยองทำได้เค้นอารมณ์อย่างมาก ไม่ว่าจะมุมกล้อง ความกดดัน ตัวละคร ก็ล้วนได้จังหวะที่พอดิบพอดีจนอะไรๆก็ชวนลุ้นไปหมด แต่หลังจากนั้นเริ่มแผ่วลงเรื่อยๆราวกับหมดหนทางที่จะเล่า เนื่องจากพล็อตไม่มีอะไรเลยนอกจากมีสไนเปอร์แอบดักซุ่มยิงและกลุ่มวัยรุ่นต้องหาทางรอดให้ได้ ประเด็นคือเมื่อหลบสไนเปอร์แล้วจะโผล่ออกไปให้ถูกยิงทำไม เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เริ่มหมดสนุกเพราะไม่ลุ้นว่าใครจะถูกยิงเพราะหลบหน้าหลบตากันหมด แต่ที่สุดหนังก็สามารถหาเรื่องให้ออกไปถูกยิงจนได้ ซึ่งไม่แปลกเพราะตัวละครจะมีคนที่ฉลาดและงี่เง่า ถ้าไม่มีคนอย่างหลังจะหมดโอกาสลุ้นทันที


การเล่นสถานที่เปิดแต่อันตรายทำให้นึกถึง Wolf Creek (2005) เกี่ยวกับนักท่องเที่ยวที่หายตัวไปแล้วไม่สามารถตามเจอได้ ประเด็นคือหายไปไหนเป็นสิ่งที่ตัวหนังให้คำตอบกับความระทึกขวัญจนไม่กล้าออกไปเที่ยวคนเดียว ขณะที่หนังเรื่องนี้ไม่เน้นในประเด็นนี้หรือประเด็นไหนเลย หรือง่ายๆคือดูเอาลุ้นเพียงอย่างเดียว ซึ่งสถานการณ์ช่วงแรกจัดได้ครบเครื่องความสยองโหดกระจุยกระจาย แต่พอมากลางๆเป็นช่วงระดมสมองหาทางรอด และไคล์แม็กซ์ที่เกือบเป็นหนังแอ็คชั่นเพราะยิงกันสนั่นหวั่นไหว

โดยส่วนตัวชอบ Downrange หลายอย่าง โดยเฉพาะความโหดที่เลือกเทคนิคแบบเก่าที่รู้ว่าบางฉากไม่เนียนแต่ได้อารมณ์สยองขวัญที่จัดเต็ม และการเดาทิศทางที่ไม่รู้ว่าใครจะตายไม่ตายเหมือนตั้งใจทดสอบคนดูไปในตัว แต่ที่คิดว่าหนังเริ่มหลุดคือไคล์แม็กซ์ที่ทำเอาเหวอกันไม่น้อยเพราะจังหวะหนึ่งก็ดี แต่อีกจังหวะก็เหมือนมาล้นๆให้ดูเป็นตลกร้ายไปซะอย่างงั้น น่าเสียดายสไนเปอร์มีมิติแห้งแล้งมากแม้จะบอกว่านี่คือตัวร้ายและมีหน้าที่คือยิงปืนใส่คนเท่านั้น ซึ่งคาแรคเตอร์ดูจืดชืดไปสักหน่อย และตอนจบไม่รู้จะง่ายไปไหนเหมือนหมดมุขไปต่อแล้วจริงๆ โดยรวมก็พอสนุกพอลุ้นระดับหนึ่ง

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)