Airplane II: The Sequel (1982) บินเลอะมั่วแหลก ภาค 2

Airplane II: The Sequel (1982) | บินเลอะมั่วแหลก ภาค 2
Director: Ken Finkleman
Genres: Comedy | Sci-Fi
Grade: B-

ถ้าไม่ดูภาคแรกก่อนคงจะสนุกและเรียกเสียงหัวเราะได้มากกว่านี้ แต่คงเป็นไปไม่ได้ที่จะดูภาคสองโดยที่ภาคแรกยังไม่ได้ดู(เว้นแต่จะหาดูไม่ได้จริงๆ) สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะพล็อตเรื่องและมุกตลกแทบจะลอกกันมาเลย ความสดใหม่ที่หาได้จากภาคแรกถูกใช้อีกครั้งในภาคนี้ ทำให้เกิดความซ้ำที่อาจตลกแต่ไม่สุด จริงๆก็แอบคิดในใจด้วยซ้ำว่าจะสร้างภาคนี้มาทำไมถ้าจะเหมือนกันซะขนาดนั้น


อาจจะไม่เรียกว่าเหมือนทุกระเบียบนิ้ว แต่มีความคล้ายคลึงค่อนข้างมาก ยิ่งดูต่อเนื่องจะรู้สึกได้ทันทีถึงมุกตลกที่เคยใช้แล้วกลับมาใช้อีก ซึ่งจะฮาหรือไม่แล้วแต่คน แต่ส่วนตัวยังฮากับมุกอยู่เสมอ เพียงอารมณ์ที่ว่าใหม่หรือคาดไม่ถึงไปไม่สุดทางอย่างภาคแรก ไม่แปลกใจที่ภาคนี้จะพูดถึงกันน้อยมากเมื่อเทียบกับภาคแรกที่ขึ้นหิ้งหนังล้อเลียนที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่ง อย่าไปคาดหวังให้เท่าภาคแรกเพราะสนุกและเรียกเสียงหัวเราะไม่ต่างกัน จะเสียแค่จังหวะบางตอนที่ดูน่าเบื่อเหมือนไม่รู้จะใส่มุกตลกเข้าไปยังไง จึงเป็นข้อแตกต่างระหว่างภาคแรกกับภาคนี้ในการบริหารเล่าเรื่อง แต่โดยรวมยังรู้สึกชอบเพราะเสน่ห์อย่างหนึ่งคือการสร้างสถานการณ์ชวนชุลมุน ซึ่งภาคนี้ยกระดับให้ใหญ่ขึ้นพร้อมกับแซวหนังขึ้นหิ้งสุดล้ำอย่าง 2001: A Space Odyssey (1968) เกี่ยวกับการนำคอมพิวเตอร์มาจัดการแทนนักบิน แน่นอนว่าทุกอย่างดูเรียบร้อยปกติทุกอย่าง จนกระทั่งระบบเกิดเพี้ยนขึ้นมา


Robert Hays กลับมารับบทเป็น เท็ด สไตรเกอร์ อดีตนักขับเครื่องบินที่กู้สถานการณ์เอาไว้ในภาคแรก ซึ่งกลับมาครั้งนี้ไม่น่าสนใจหรือชวนเห็นใจสักเท่าไร เนื่องจากปมตัวละครจบลงหมดแล้ว ฉะนั้นบทบาทความเป็นไปในหนังจึงดูเลือนลอยกว่าภาคแรกหลายขุม เช่นเดียวกันกับ Julie Hagerty ที่กลับมาอีกครั้งในบท อีเลน ดิคกินสัน สาวแอร์โฮสเตสที่คบหาเท็ดอยู่หลายปี Airplane II: The Sequel ยังเรียกเสียงหัวเราะได้อยู่เรื่อยๆ แต่อาจไปไม่สุดหรือชื่นชอบเท่าภาแรกที่ลงตัวหลายอย่าง โดยเฉพาะการเล่าเรื่องที่สอดคล้องกับจังหวะมุกตลก ขณะที่ภาคนี้ใช้มุกตลกซ้ำและไม่รู้จะเล่นมุกตลกยังไง หลายอย่างจึงดูล้นดูขาดไม่เป็นธรรมชาติ แม้จะบอกว่าเป็นหนังล้อเลียนเน้นตลกหาสาระไม่ได้นอกจากความติงต๊อง กระนั้นภาคแรกสามารถทำได้และลงตัวกับมิติตัวละครอีกด้วย ถึงจะน่าเสียดายหลายอย่างก็ใช่จะเป็นหนังน่าเบื่อและน่าบ่น ถ้าปล่อยว่างเน้นบันเทิงก็ฮาเอาเรื่องไม่น้อย

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)