Keep Breathe (TV Mini Series 2022) จนกว่าจะหมดลม

Keep Breathe (TV Mini Series 2022) | จนกว่าจะหมดลม | C+
Creator: Brendan Gall, Martin Gero
Genres: Adventure | Drama | Thriller

ในส่วนของตอนแรกสร้างความน่าดูพอสมควร เมื่อ ลิฟ (Melissa Barrera) ทนายความที่นั่งรอเที่ยวบินของตัวเองเกิดยกเลิกมาซะดื้อๆ ทำให้ขอร้องคนที่มีเครื่องบินส่วนตัวแวะไปส่งให้หน่อย ทว่าเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตก ซึ่งไม่รู้คือที่ไหนและต้องเอาตัวรอดท่ามกลางป่าเขายังไง


ด้วยความยาวเฉลี่ยครึ่งชั่วโมงต่อตอน (ทั้งหมด 6 ตอน) ทำให้ตอนแรกสร้างความน่าดูจากการเล่าน้อยเข้าใจง่าย เน้นการเอาตัวรอดที่ต้องพึ่งพาตัวเองด้วยทักษะที่มี จนกระทั่งผ่านไปสักระยะถึงเห็นความสำคัญของการเอาตัวรอดเป็นอันดับรอง สิ่งสำคัญเป็นอันดับหนึ่งคือความดราม่าที่เล่ามากจนเกือบหลุดเป็นอีกเรื่อง

การเอาชีวิตในป่าเขามีทักษะให้เห็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ความน่ากลัวของป่าที่อาจมีสัตว์ร้ายหรือภัยอันตรายใดๆแทบไม่มี นอกจากต่อสู้กับตัวเองผ่านวิธีเล่า Flashback ที่มีหลายชั้นหลายเรื่องราวจนล้นทะลักเกินไป ทำให้บางครั้งสับสนกับปมตัวละครที่ตกลงเจอปัญหาอะไรกันแน่


ความไม่แน่นอนในการพาไปสำรวจปมตัวละคร ทำให้เกิดความคิดเชื่อมโยงเรื่องราวอย่างหนัก ไม่ใช่แค่ Flashback ตอนเด็ก แต่รวมหลายสถานการณ์มาทีละนิดทีละหน่อยทุกช่วงเวลา บางตอนแทบไม่ทำอะไรนอกจากดูสิ่งที่ผ่านมาในอดีต ซึ่งยอมรับน่าเบื่อในบางครั้งเพราะไม่ต่างกับดูซีรีส์ปรัชญาที่พยายามพูดถึงสัจธรรม ไม่มีเรื่องตื่นเต้น มีแต่สำรวจจิตใจตัวละครที่แข็งนอกอ่อนใน

แม้จะน่าเบื่อก็ใช่จะเล่าง่าย มีหลายครั้งแฝงสัญลักษณ์เอาไว้มากมาย ทำให้ความเรียบที่ขาดความน่าตื่นเต้นเติมด้วยความซับซ้อนทางจิตใจ บางประโยคทำให้คิดสะท้อนถึงตัวละครที่เมื่อก่อนเป็นอย่างไรแล้วทำไมโตขึ้นเป็นแบบนี้ อีกทั้งการเดินป่าก็ใช่จะโดดเดี่ยวทุกครั้ง แต่ละครั้งจะมีตัวละครอื่นที่เสมือนปมในใจมาร่วมเดินทางด้วยเสมอ

ผิดหวังที่พล็อตเอาตัวรอดในป่าเขาเป็นเพียงส่วนประกอบ แต่รู้สึกชอบการสนทนาที่แฝงหลากหลายอารมณ์ ทั้งน่าเบื่อ น่าชื่นชม น่าแปลกใจ น่าสงสาร ถ้าเปิดใจรับว่านี่คือซีรีส์ดราม่าที่พยายามถ่ายทอดชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งที่กลัวการแสดงความอ่อนแอก็อาจเป็นซีรีส์ที่ดีเรื่องหนึ่ง แม้จะผูกเรื่องราวอย่างหลวมๆ แต่บางทีชีวิตไม่ได้ต้องการรายละเอียดขนาดต้องรู้สึกไปทุกเรื่องเสมอไป 


“เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ”

อาจไม่ใช่ฉากที่ดูแล้วน่าทำตาม แต่การไม่รู้จะเอายังไงต่อกับชีวิตที่เริ่มหมดแรง ร่างกายบอบช้ำจนเดินแทบไม่ไหว ไร้อุปกรณ์ใดๆช่วยเหลือ การเจอลำธารที่ไหลแรงอาจช่วยพัดพาให้รอดชีวิตหรือจบชีวิตลง ลิฟตัดสินใจเกาะขอนไม้ไปกับสายน้ำอย่างมั่นใจ ซึ่งมาพร้อมกับการยอมรับปมในใจทุกอย่างที่ตัวเองซ่อนไว้อย่างไม่ปิดกั้น

แม้ไม่รู้ชะตากรรมข้างหน้า แต่เลือกไหลไปกับสายน้ำราวกับปลดปล่อยตัวเองจากพันธนาการ ระหว่างนั้นมีเพลงประกอบ Dead Letter and the Infinite Yes ของ Mappe Of ที่เข้ากับบรรยากาศมาก ทำให้ฉากนี้มีพลังขึ้นมาทันที จากที่ไม่ชอบเท่าไรต้องเพิ่มคะแนนเพราะฉากนี้จริงๆ

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)