![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi5ze7L1NFy4i51GhwRopoJqlyLzaaZfLpzBJjm-K8uHzuZXEHX8vWFPq_4W8ijXlz497gLOT7aXSGvJpYUuyVZgzaOg6ox6wauJPgfrNHWeyh0jnCOTnnnq4SsbEcc66UJ9tBZF5wY_uDc6CT1EGydqfEC7kd2BWl2kDgZQog1MsxdwABCNCHmXNiaXwA/w432-h640/Bullet_Train-757922812-large.jpg)
Bullet Train (2022) | ระห่ำด่วน ขบวนนักฆ่า | B
Director: David Leitch
Genres: Action | Comedy | Thriller
นักฆ่าที่ได้ชื่อรหัสแทนตัวเองว่า “เต่าทอง” (Brad Pitt) ได้รับภารกิจง่ายๆ ไม่ต้องฆ่าคนหรือทำร้ายใคร แค่ฉกกระเป๋าใบหนึ่งบนรถไฟเท่านั้น ทว่าความง่ายกลายเป็นยาก เมื่อเหล่านักฆ่ามากมายเข้ามาอยู่ในรถไฟเดียวกัน อีกทั้งพร้อมจะห้ำหั่นอย่างไม่มีใครยอม
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjZqYQUD_KHozjqna-4WnF6hMDqCoBK6qPkNclUGBRRrRoYspZr1SJsSDxrRm_OvMZEb4oMPJ7chIHIbpiEYBtVCnzSyuqLK-CmdJSGjTir6tpXEefX-WkPUfUTsxlRqWc0PwJbJsnS2nWqW5UOwLMtMhjUkHwV8ZUnnhURxsxV5ikf8eZV1TTzSU9JNzU/w640-h356/tumblr_2bd841fe698947e4dd6c129543fdb934_438887ee_540.gif)
มีความวายป่วงพอสมควร เมื่อมาลองนั่งดูตัวละครที่ไม่น่ามีความเกี่ยวข้องมาอยู่รถไฟขบวนเดียวกัน ก่อนจะขยายเรื่องราวให้ใกล้ตัวจนเป็นเนื้อเดียวในท้ายที่สุด ซึ่งการผสมผสานจากความบังเอิญจึงมีชอบและชิงชังไปในตัว
ความบังเอิญคือโชคชะตาที่แต่ละคนต้องเจอ การที่ตัวละครพล่ามเรื่องดวงบ่อยๆ จึงเป็นการเล่นตลกปนจริงจัง ทุกย่างก้าวพลิกโอกาสเป็นวิกฤตหรือวิกฤตเป็นโอกาสได้เสมอ ดังนั้นการที่บางตัวละครมีบทน้อยจนน่าเสียดายจึงเป็นส่วนหนึ่งของดวง (หรือตั้งใจเขียนบทกวนคนดู)
การให้ Brad Pitt มาแสดงเป็นนักฆ่าที่ท่าทางอ่อนแอเหมือนสู้ใครไม่ได้ แต่มีฝีมือและคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือดวงล้วนๆ คือความสนุกอย่างหนึ่งที่ไม่ต้องการบอกว่าเป็นคนเก่ง สิ่งที่เกิดขึ้นคือความบังเอิญที่ซวยแล้วซวยอีก อีกทั้งไม่อยากสู้และหลีกเลี่ยงด้วยการหาเหตุผล ซึ่งไม่มีใครอยากคุยหรืออธิบายสักคน
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgdRl5bZ2Ug1HUNUH1LyrQ_pvPyhlR1xsRYf0MPwgc9NoEQLi1aOrsISLeBJFjh-WJCuEpOID2OklnF_chHZkKyAk2Zu5Ekx1cR7vNmHd3SCqHfyFxZ6mKrRDOM2Lg8j1Pq3r-kzPny_t4dmSsJI_YY7s9W1FGvKaJvRDGi9bv-9LkvIUN1AsjhCnMAj24/w640-h380/tumblr_11c9efdc8d144d16e4a4e8aa86a015c3_8403e719_540.gif)
สิ่งที่ชอบหลักๆ มาจากการสร้างคาแรคเตอร์ที่หลากหลาย ทำให้นักฆ่าแต่ละคนไม่ซ้ำจำเจและน่าจดจำ ต่อให้บทบางตัวละครให้มาน้อยถึงน้อยที่สุดยังน่าสนใจและเซอร์ไพรส์ที่ยังอุตส่าห์มากับเขาด้วย โดยเฉพาะนักแสดงลับที่เล่นไม่กี่ฉาก แต่โคตรตราตรึงเหมือนที่ Brad Pitt เคยโผล่มาใน Deadpool 2 (2018) ไม่กี่วินาที (ผู้กำกับคนเดียวกันอีกด้วย)
การจัดฉากสไตล์ญี่ปุ่นกับสีสันนีออนแสดงถึงความจัดจ้าน ซึ่งเข้ากับเนื้อเรื่องที่มาพร้อมกับความระห่ำแสนมั่ว ใครเป็นใครจับมาอยู่ด้วยกันทั้งหมด มีทั้งเกี่ยวข้องโดยตรงและทางอ้อม รวมไปถึงแอ็คชั่นที่เน้นพลิกแพลงและรุนแรงถึงใจ
หลายสิ่งที่หนังแสดงออกมาคือการให้ความบันเทิงเป็นที่ตั้ง มีความธรรมดาจนไปถึงความโม้ที่ไม่น่าเข้ากันได้ แต่จับใส่อย่างสนุกมือ แม้จะเสียจังหวะเรื่องบทสนาที่ชวนดึงเวลาจนน่าเบื่อ ถึงอย่างงั้นต้องยอมรับว่ามุขตลกร้ายเด็ดพอสมควร โดยส่วนตัวค่อนข้างถูกใจกับแอ็คชั่นและการวางบท แค่อาจจะไม่ทั้งหมดเพราะหลายครั้งที่ลีลาวางท่าจนไม่รู้ไปจบที่ตรงไหน
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjWZKjOU06SAu_Inh4uqMRpd9oQ9sE2VHhzL_cnnR5xcZZ3TTRx7z5UXHs6KrzOw6AC7uAYrZJugCiUO82O8Z_I0ia55Q65sgtfEzzc8yrhxYAgzBUi5HFweyJT2j1EPRyLYL8fLa9ELLNP37SgD9NyrejZjyqDJsu2dyUYLMJwedaxVuTwE6WLmK4r-bo/w512-h640/FY8I2hZUEAA7ebn.jpg)