Piranha (1978) มหาภัยพีราน่าห์

Piranha (1978) | มหาภัยพีราน่าห์ | B+
Director: Joe Dante
Genres: Comedy | Horror | Sci-Fi | Thriller

หลายคนน่าจะรู้จัก Jaws (1975) หนังสยองขวัญเกี่ยวกับฉลามกินคนของ Steven Spielberg ที่ทำให้ผู้คนในช่วงนั้นเกิดอาการระส่ําระสายเล่นน้ำทะเล ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับ Piranha (1978) เกี่ยวกับปลาปิรันย่ากินคนตามแม่น้ำ


แม็กกี้ (Heather Menzies-Urich) และพอล (Bradford Dillman) รับหน้าที่ช่วยกันสืบและค้นหาเด็กวัยรุ่นที่หายตัวไปใกล้กับทะเลสาบ ซึ่งระหว่างตามหาได้พบกับสถานที่ลับที่น่าจะเอาไว้ทดลองบางอย่าง แต่ความเข้าใจผิดทำให้ปลาปิรันย่าที่ได้ทดลองเพิ่มความดุร้ายให้คร่าชีวิตคนได้หลุดลงแม่น้ำ ทำให้ทั้งสองต้องช่วยกันก่อนจะสายเกินแก้ไข

ช่วงแรกแอบแปลกใจตรงที่มาลักษณะไหน เพราะมีหลายอารมณ์ในระหว่างความสยองขวัญที่ติดตลก (ล้อเลียนไปมา) และก้ำกึ่งไซไฟ (มีสัตว์ทดลองแอบเดินไปมาด้วยเทคนิค Stop Motion) แต่สุดท้ายมาลงที่สยองขวัญเต็มตัว เพื่อแสดงถึงศักยภาพของปลาปิรันย่าที่โหดร้ายขนาดไหน


“เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ”

แม้พล็อตเรื่องและทุนสร้างจะชวนให้คิดว่าเป็นหนังสยองขวัญเกรด B แต่มีการเสียดสีที่พอจะช่วยให้มีคุณภาพจากความเป็นมาของปลาปิรันย่า และความโลภที่ต้องการให้นักท่องเที่ยวเล่นน้ำโดยไม่สนใจความปลอดภัย

ความเป็นมาของปลาปิรันย่ามาจากการทดลองของทหารไว้ใช้ในสงครามเวียดนาม เพื่อใช้โจมตีอีกฝ่ายทางแม่น้ำ ซึ่งประเด็นคือประสิทธิภาพที่ไร้การควบคุม เมื่อมีการพูดถึงหลังจากปล่อยลงแม่น้ำแล้วจะเก็บหรือทำลายปลาปิรันย่าเหล่านี้ยังไง ซึ่งการไม่คิดหน้าคิดหลังเพราะสนใจแต่ความมั่นคงของประเทศชาติ เมื่อปัญหาเกิดขึ้นจึงแก้ไขที่ปลายเหตุแบบเหมารวมด้วยการทำลายสิ่งมีชีวิตในน้ำให้หมด

เมื่อรู้ว่ามีปลาปิรันย่าที่ดุร้ายจนสามารถคร่าชีวิตคนได้แล้ว แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางเฉยที่จะแจ้งเตือนหรือยุติกิจกรรมทางน้ำไปก่อน เพราะไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง และไม่คิดว่าจะเข้ามาทำร้ายนักท่องเที่ยวได้ ความโลภที่สนใจแต่ชื่อเสียงและเงินทองจึงเป็นเหตุให้คนจำนวนมากพบกับเรื่องสยองขวัญ


ปลาปิรันย่าที่ทดลองเพิ่มความดุร้ายและความคงทนในสภาพน้ำจืดและน้ำเค็มได้ ช่วยเพิ่มความน่ากลัวการเล่นน้ำหรือทำกิจกรรมทางน้ำ โดยแต่ละฉากจะเห็นการพุ่งโจมตีอย่างรวดเร็ว พร้อมกับจำนวนที่รุมกัดให้รู้สึกเจ็บปวดและทรมานจนร้องขอชีวิต ซึ่งแต่ละฉากมีความความโหดจากแผลและเลือดเนื้อที่ถูกแทะพอสมควร

สิ่งที่ชอบมากคือการเล่าเรื่องไปอย่างไม่รอช้า เมื่อรู้และเห็นสิ่งที่ปลาปิรันย่าทำได้แล้วจึงรีบหาทางแก้ไขโดยเร็วที่สุด ซึ่งเรื่องจะจบเร็วมากหากไม่ติดการขาดความร่วมมือซะก่อน อีกทั้งคนช่วยยังโดนตำรวจจับเพราะคิดว่าจะไปประกาศให้นักท่องเที่ยวเลิกเล่นน้ำ และทำให้ความลับที่ทหารหรือรัฐบาลซ่อนไว้ถูกเปิดเผย


สิ่งที่ชอบอีกอย่างคือวิธีจบที่แลกมากับความเจ็บปวด เพราะไม่สามารถควบคุมปลาปิรันย่าได้อย่างชัดเจนจะมาถึงตัวตอนไหนจึงต้องแข่งกับเวลา ทำให้ต้องโดนรุมแทะอย่างเจ็บปวด ซึ่งความคิดมาจากสามัญชนที่พยายามช่วยแก้ไขปัญหาเท่าที่จะทำได้ให้มากที่สุด เพราะสิ่งที่เรียกว่าทหารหรือรัฐบาลแทบไม่สนใจหรือคิดได้เลยว่าควรทำอะไรก่อนให้เร็วที่สุด

แม้จะถูกมองเป็นหนังที่คัดลอก Jaws (1975) แต่โดยรวมแล้วไม่ได้เหมือนกันหมด แค่มีส่วนคล้ายบางส่วนเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่น่ากลัวจากการเล่นน้ำ ซึ่งใครที่ชอบเอาเท้าแช่น้ำอาจมีเสียวนิ้วกันบ้างว่าจะมีอะไรมาแทะหรือเปล่า

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)