Romancing the Stone (1984) ล่ามรกตมหาภัย

Romancing the Stone (1984) | ล่ามรกตมหาภัย
Director: Robert Zemeckis
Genres: Action | Adventure | Comedy | Romance
Grade: B

เมื่อพูดถึงหนังผจญภัยย่อมไม่พ้น Indiana Jones แต่ถ้าพูดถึงความกล่มกล่อมผสมโรแมนติกจะต้องคิดถึงหนังเรื่องนี้ขึ้นมาทันที ซึ่งเป็นการผจญภัยของคนสองคนระหว่าง โจแอน ไวล์เดอร์ (Kathleen Turner) นักเขียนสาวผู้มีพรสรรค์ในการแต่งนิยายโรแมนติกที่บังเอิญได้รับลายแทงสมบัติ แต่เกิดเป็นว่าพี่สาวของเธอถูกคนร้ายจับตัวไปและวิธีช่วยคือการนำลายแทงดังกล่าวไปแลก นั่นทำให้ต้องกระเสือกกระสนไปถึงโคลอมเบีย ซึ่งระหว่างทางถูกสะกดรอยตามจากคนอีกกลุ่มหนึ่งที่หวังในลายแทงนี้เช่นกัน แต่โชคดีได้พบกับ แจ๊ค ที คอลตั้น (Michael Douglas) มาช่วยไว้ทัน หลังจากนั้นทั้งสองก็มุ่งเดินทางไปตามแผนที่เพื่อหามรกตแสนอันตรายต่อไป


หนังแจ้งเกิดผู้กำกับ Robert Zemeckis ในฐานะหนังทำเงินหลังจากก่อนหน้านี้ทำมาสองเรื่องพากันเจ๊งยับแม้จะมีเสียงชมก็ตาม รวมไปถึงหนังที่เขียนบทให้ Steven Spielberg ไปทำ 1941 (1979) ก็ไม่ช่วยให้ดีขึ้น เมื่อเป็นเช่นนี้จึงไม่ให้กำกับ Cocoon (1985) เพราะ Romancing the Stone ได้คะแนนที่ตกต่ำมากจากผู้ชมรอบพรีวิวและกลัวพาหนังเจ๊งไปอีกเรื่อง กระนั้นได้รับการตัดต่อใหม่อีกครั้งจนเป็นหนังคนละม้วน ทำให้ช่วยกอบกู้ชื่อเสียงเป็นหนังทำเงิน 117$ ล้านทั่วโลก จากที่ลงทุนเพียง 10$ ล้านเท่านั้น

ผลของการตัดต่อใหม่ไม่ใช่แค่ทำให้หนังสนุกขึ้น แต่รวมถึงการได้รางวัลออสการ์สาขาตัดต่อยอดเยี่ยมอีกด้วย ส่วนหนึ่งเป็นไปได้ว่าความสนุกจากการตัดต่อนี้เองทำให้กอบโกยกำไรเงินจากผู้ชม เมื่อเป็นเช่นนี้ได้ช่วยล้างคำสาปของ Robert Zemeckis และช่วยให้มีโอกาสสานฝันทำ Back to the Future (1985) จนเป็นหนังไซไฟภาคต่อที่มีแต่คนจำจดไม่รู้ลืม แต่อีกส่วนที่ไม่รู้จะเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่เป็นความหล่อของ Michael Douglas ที่มารับบทแสดงหนังเรื่องนี้ในฐานะประเภทแอ็คชั่นเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นอะไรที่เท่และหล่อขนาดวัวตายควายล้ม(ฮา)


ตอนที่หนังฉายถูกนักวิจารณ์แซวว่ามีส่วนคล้าย Raiders of the Lost Ark (1981) เพราะเป็นแนวผจญภัยหาสมบัติเหมือนกัน แต่ถึงอย่างนั้นบทดั้งเดิมเขียนมาตั้งปี 1979 ก่อนแล้ว ที่สำคัญวิธีเล่าเรื่องคนละแบบ โดยจะเน้นโรแมนติกมากกว่าแอ็คชั่นผจญภัย ด้วยเหตุนี้เองทำให้เป็นหนังรักที่น่าจดจำเสียแทน อีกทั้งการจับคู่ระหว่าง Michael Douglas กับ Kathleen Turner ก็ดูเป็นอะไรที่เหมาะสมกันดี แต่ตัวละครอย่างแจ๊ค ที คอลตั้นอาจเปลี่ยนไปหาก Clint Eastwood,Jack Nicholson,Christopher Reeve ไม่ปฏิเสธรับบทนี้ รวมไปถึง Sylvester Stallone ที่มานั่งเสียใจเพราะเลือกเล่น Rhinestone (1984) เสียแทน

บทหนังเขียนโดย Diane Thomas ซึ่ง Michael Douglas เป็นคนเลือกบทนี้มาด้วยราคา $250,000 และยังมีต่ออีกในภาค The Jewel of the Nile (1985) แม้โดยรวมเนื้อเรื่องจะลงตัวตามสูตร แต่สิ่งที่ไม่เหมือนใครคือการสานความสัมพันธ์ของตัวละครจนลืมไปว่าเป็นหนังแอ็คชั่นผจญภัย กระนั้นใช่ว่าจะมีแต่เรื่องรักเพียงอย่างเดียวเพราะรวมไปถึงการวัดใจตัวละครที่บางครั้งก็เหมือนจะก้ำกึ่งเดาใจยากเพราะไม่รู้รักจริงหรือหลอกลวง


ที่ชอบคือการแฝงประเด็นเรื่องเพศหรือความเป็นพระเอกนางเอก ซึ่งใครจะไปคิดว่าสถานะที่รู้ๆกันอยู่จะพลิกแพลงไม่ชายเหนือกว่าก็หญิงเหนือกว่า ดังนั้นพระเอกต้องเก่งต้องฉลาดอาจไม่ใช่เสมอไปสำหรับหนังเรื่องนี้เพราะนางเอกก็ทำอะไรที่มากกว่าได้ อีกทั้งยังเปรียบเทียบความเป็นอยู่ระหว่างคนเมืองที่มาอยู่ชนบท แน่นอนว่าต้องมีมุขตลกสอดแทรกจากความไม่รู้หรือทำตัวไม่ถูก ซึ่งจะว่าแล้วค่อนข้างพอดีในการคุมจังหวะอารมณ์ของหนังให้ออกมากลมกล่อม ไม่มากไปหรือน้อยไป แค่อาจจะมีบ้างบางช่วงที่รู้สึกเน้นการเข้าถึงตัวละครมากเกินไปจนในส่วนตามล่าหาขุมทรัพย์ดูธรรมดา

อาจเพราะสไตล์เป็นทางหนังเก่าเน้นที่ตัวละครซะมากและเกี่ยวกับความรักเป็นโทนหลัก ฉะนั้นเรื่องแอ็คชั่นจึงเป็นส่วนประกอบที่ไม่มากและอาจผิดหวังกับคนที่นึกว่าจะต้องมีการผจญภัยเสี่ยงตายหรือไขปริศนาที่มากกว่านี้ แต่อย่างน้อยทำให้ตัวละครหลายตัวดูน่าจดจำ โดยเฉพาะในส่วนของ Manuel Ojeda ในบทตัวร้ายที่เป็นถึงหัวหน้าแต่ลุยเองและเก่งกว่าที่คิด(ฉากต่อสู้ท้ายเรื่องทำเอาลุ้นไม่น้อยว่าตกลงจะจบลงยังไง) และ Danny DeVito เป็นตัวปล่อยมุขที่ฮาบ้างไม่ฮาบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นช่วยให้เนื้อเรื่องมีสีสันขึ้นมาก


Romancing the Stone คือหนังผจญภัยที่ไม่อยากบอกว่าเป็นแนวแอ็คชั่นเต็มตัว ที่จริงต้องบอกว่าน้อยเพราะเน้นความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในระหว่างการผจญภัย แต่ความสัมพันธ์นี้จะผูกพันมากแค่ไหนเป็นอีกความลุ้นว่าคือความรักจริงๆหรือเปล่า เนื่องจากแจ๊ค ที คอลตั้นไม่ใช่พระเอกในมาดคนดีเต็มร้อย หากเป็น Anti-Hero ที่ทำเพื่อตัวเอง นั่นรวมไปถึงมรกตที่คิดครอบครองไว้เพียงคนเดียวเพื่อจะได้ทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง ซึ่งในส่วนนี้ได้ส่งผลให้ไคล์แม็กซ์เป็นฉากวัดใจจะเลือกอันไหนระหว่างผู้หญิงบังเอิญหลงรักกับมรกตที่ล้ำค่าหายาก ถือว่าสนุกพอเพลินแต่ไม่ถึงกับสนุกที่สุด แต่กับคนที่ถูกใจอาจจะชอบมากๆก็ได้

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)