Short Circuit (1986) คนครับ ผมเป็นคน

Short Circuit (1986) | คนครับ ผมเป็นคน
Director: John Badham
Genres: Comedy | Family | Sci-Fi
Grade: C+

เครื่องจักรที่สร้างมาเพื่อเป็นอาวุธไม่ได้เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป เมื่อหุ่นยนต์ตัวหนึ่งหมายเลข 5 ถูกฟ้าผ่าแล้วทำให้มีความคิดของตัวเอง แต่ความคิดนั้นไม่ใช่เพื่อทำลายอย่างที่ตัวเองเป็นในฐานะอาวุธสงคราม แต่เป็นความสงบที่ไม่อยากทำร้ายใครเพราะไม่ใช่เครื่องจักรไร้ชีวิต ซึ่งเขาได้พิสูจน์ว่าตัวเองมีชีวิตและไม่ต่างไปจากคนเราๆที่หาความสุขใส่ตัว ทว่าไม่มีใครเชื่อนอกจาก สเตฟานี สเปค (Ally Sheedy) หญิงสาวที่ไปพบเข้าโดยบังเอิญและเริ่มเห็นสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็นในหุ่นยนต์ตัวนี้


คอนเซ็ปต์หุ่นยนต์มีหัวใจที่ไม่ได้เกิดมาเป็นอาวุธสงครามเสมอไป ถ้ามีชีวิตขึ้นมาจริงและมีทางเลือกอาจไม่ใช่เพื่อทำลาย แต่เป็นสร้างสรรค์เสียมากกว่า ซึ่งเนื้อเรื่องก็เหมือนตอกหน้าเกี่ยวกับอำนาจที่คนสร้างขึ้น ทั้งที่จริงแล้วการเชิดชูต่อพลังการทำลายล้างเพื่อยกว่าตัวเองเหนือกว่าประเทศอื่นคือการแก้ปัญหาที่มีแต่ความรุนแรง การปรองดองคือวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดเพราะไม่ต้องสูญเสียหรือความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายหลัง แน่นอนว่าความคิดนี้ใช้ไม่ได้กับทุกสถานการณ์ แต่อย่างน้อยทุกคนก็ล้วนมีชีวิตต้องใช้ไม่ต่างกัน

หนังเกี่ยวกับหุ่นยนต์ที่ทำให้ดูเกินกว่านั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะถ่ายทอดอารมณ์มาได้ ซึ่งจุดลักษณะเด่นไม่ใช่เรื่องของรูปร่างหรือการขยับที่ต้องใกล้เคียงกับคน แต่เป็นแววตาที่ต้องการบอกว่าตัวเองคิดอะไรและทำอะไรอยู่ นั่นเองทำให้ในส่วนของตาจึงมีลูกเล่นและแสดงอารมณ์ได้ชัดเจนราวกับมีชีวิตจริงๆ แต่กว่าจะเป็นรูปเป็นร่างอย่างที่เห็นในหนังนั้นต้องใช้งบกันไปไม่น้อย โดย 15$ ล้านของงบสร้างได้แบ่งเป็นส่วนของพระเอกหุ่นยนต์หมายเลข 5 ถึง 1.4$ ล้าน ฉะนั้นไม่ว่าจะท่าทางหรือการขยับสัดส่วนต่างๆก็ล้วนสมจริงเหมือนเคลื่อนไหวได้เอง


บทบาทของหุ่นยนต์หมายเลข 5 ทำได้ดีพอสมควร ไม่ว่าจะเบื้องหน้าหรือเบื้องหลังก็ล้วนเก็บรายละเอียดใส่ใจจนไม่รู้สึกว่ายุคสมัยกับเทคนิคพิเศษแบบนี้จะดูไม่สมจริง ดังนั้นเรื่องเอฟเฟคหายห่วงเพราะใช้ CGI ค่อนข้างน้อย ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นมือทำเองเกือบหมดและทำดีเสียด้วย ส่วนมิติตัวละครในฐานะที่เป็นหุ่นยนต์ก็น่าสนใจไม่น้อย เกิดมาในสังคมที่มีทัศนะอคติที่เป็นอย่างอื่นอยู่ก่อนแล้ว การจะมาบอกว่าหุ่นยนต์มีชีวิตคงไม่มีใครเชื่อ ที่มองกันเป็นเรื่องของระบบที่มีปัญหาจนต้องระแวงระวังเพราะเป็นถึงอาวุธสงครามร้ายแรง แต่ถามว่าหมายเลข 5 เคยคิดถึงอำนาจในจุดนี้ที่ตัวเองมีไหม คำตอบคือไม่และพยายามหลีกเลี่ยงการใช้กำลังเพื่อพิสูจน์ความเป็นคน

ขณะที่เรื่องราวฝ่ายคนนั้นไม่ถึงกับน่าสนใจเท่าที่ควร ออกจะธรรมดาไปถึงน่าเบื่อเสียด้วยซ้ำ โดยเฉพาะเรื่องราวของสเตฟานีที่แทบไม่มีน้ำหนักเคียงคู่กับหุ่นยนต์หมายเลข 5 ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับหุ่นยนต์ไม่หนักแน่น ที่เห็นๆกันอยู่คือ นิวตัน ครอสบี (Steve Guttenberg) ในฐานะผู้สร้างที่พยายามตามหาหมายเลข 5 ให้เจอโดยเร็วก่อนที่จะเกิดความวุ่นวาย ซึ่งความพยายามตามหุ่นยนต์นั้นก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยเฉพาะการแทรกแซงทางทหารที่มองเป็นเพียงอาวุธเท่านั้น ทั้งที่ความจริงสามารถแก้ไขให้จบลงได้อย่างสันติ


Short Circuit พยายามทำให้หนังออกมาโทนดูสบายและพร้อมด้วยมุขขำขันจนบางครั้งก็ง่ายเกินไป หลายอย่างตามสูตรสำเร็จที่หุ่นยนต์ต้องหนีไปเรียนรู้ด้วยตัวเองในโลกกว้างก่อนจะพบว่าตัวเองเป็นมากกว่าเครื่องจักร แต่ประเด็นคือใครจะเชื่อ ซึ่งก็คงมีแต่คนที่บังเอิญไปพบและปรับความสัมพันธ์เข้าหากันจนเกิดเรื่องราวซาบซึ้งระหว่างคนกับหุ่นยนต์ ที่เซอร์ไพรส์คือไคล์แม็กซ์ที่แสดงให้เห็นถึงความหัวแข็งของทหารที่ไม่อาจเปลี่ยนทัศนะคติของตัวเองลงได้ อาวุธก็คืออาวุธที่ต้องกำจัดก่อนจะเป็นอันตรายต่อประเทศ ทำให้ตอนจบไม่ออกมาตามสูตรหนังที่เดี๋ยวจบด้วยดี แต่กลายเป็นช่วงเวลาที่ลุ้นในชะตากรรมของหมายเลข 5 ที่อาจทำให้เสียใจเคล้าน้ำตาเลยทีเดียว

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)