The Princess Bride (1987) นิทานเจ้าหญิงทะลุตำนาน

The Princess Bride (1987) | นิทานเจ้าหญิงทะลุตำนาน
Director: Rob Reiner
Genres: Adventure | Family | Fantasy | Romance
Grade: B-

ต้องโทษตัวเองอย่างหนึ่งเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ที่ไม่สอดคล้องกับอายุของตัวเอง ขณะที่ดูเรื่องนี้ก็อายุ 24 ปีเข้าไปแล้ว ความรู้สึกที่ต้องนั่งดูหนังแฟนตาซีแล้วว้าวคงไม่เหมือนแต่ก่อน โดยเฉพาะแนวโลกสดใส เริ่มต้นยังไงจบแบบไหนล้วนรู้หมด ทุกอย่างเหมือนจะไม่สนุกเพราะไม่ตื่นเต้นอย่างที่หวัง


"เหมาะสำหรับเด็กมากกว่า" ไม่ปฏิเสธหากดูจบแล้วรู้สึกเช่นนั้น เพราะตลอดทั้งเรื่องเป็นไปแบบง่ายๆสไตล์เด็กดูแล้วเข้าใจทันที ไม่ยุ่งยากซับซ้อนถึงความเป็นมาให้เสียเวลา รวมถึงตัวละครที่แบ่งแยกขาวดำชัดเจน(มีเทาๆบ้างเล็กน้อย) ไม่มีสิ่งไหนที่ดูเป็นผู้ใหญ่ นอกจากนั่งจับผิดดูประเด็นบางสิ่งที่ขอให้สังเกตแล้วจะพบว่าเล่าง่ายแต่สนุกเป็นยังไง เนื้อเรื่องจะแบ่งเป็นโลกความจริงกับโลกนิทาน ซึ่งโลกความจริงคือปู่ (Peter Falk) นั่งเล่านิทานให้หลาน (Fred Savage) ฟังก่อนนอน ประเด็นคือมีอะไรให้น่าสนใจกับการเห็นคนสองคนในห้องนอน คำตอบอยู่ที่คำถามและความต้องการของหลาน อาทิ นิทานมักสวยหรูมีพระเอกนางเอกคู่กัน ทั้งสองมีความรักและมักลงเอยด้วยการจูบเพื่อแสดงสัญลักษณ์ความรักที่มอบให้แก่กัน ทว่านั้นไม่ใช่สิ่งที่หลานอยากได้ยินเพราะมันซ้ำซากจำเจ แล้วปู่จะเล่านิทานยังไงให้หลานฟัง


สไตล์ดูเป็นหนังแฟนตาซีเด็กที่ไม่มีพิษมีภัย บางอย่างดูหลุดออกมาจากการ์ตูนเด็กอนุบาล แต่ภายใต้ความไร้เดียงสากับแฝงไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมกลโกง แต่ละอย่างถูกแซะจากคนที่กำลังนั่งฟัง เพราะมองว่าบางฉากไม่สมเหตุสมผล ซึ่งจังหวะโดนขัดนี้เองคือความแปลกเหมือนทลายโลกจินตนาการ จะเป็นแบบนี้ได้ยังไงแบบนั้นได้อย่างไร ทำเอาคนเล่านิทานไปไม่เป็นเหมือนกัน กระนั้นคนเล่านิทานแสดงทักษะอธิบายได้อย่างดี จึงดูเป็นการประชันระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ไปในตัว The Princess Bride จะไม่มีฉากยิ่งใหญ่หรือดูมีทุนสูง รายละเอียดหลายอย่างดูง่ายและธรรมดา เน้นไปที่ตัวละครในการสร้างความสัมพันธ์แก่คนดู ทำให้ง่ายแก่การจดจำจากเอกลักษณ์ที่แตกต่าง อีกทั้งยังตีบทแตกตีเนียนไปกับมุขตลก ซึ่งมีระดับตั้งแต่ง่ายจนไปถึงยาก มีทั้งมุขตื้นแบบเข้าใจทันทีและมุขลึกต้องคิดตาม ชวนให้นึกถึง Monty Python and the Holy Grail (1975) ที่ไม่ฮาเว่อร์วังขนาดนั้น แต่จังหวะในบางครั้งดูกวนและเสียดสีพอสมควร


ดูผิวเผินคงเป็นหนังแฟนตาซีที่เดินทางตามสูตร ไม่สดใหม่แม้จะขนตัวละครและเรื่องราวให้ดูหลากหลายก็ตาม ทว่าความธรรมดาแฝงไปด้วยการกัดจิกตัวเองและสะท้อนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับนิทานหรือนิยายที่มีแต่แบบเดิมๆ ยอมรับว่าชอบการเสนอประเด็นเหล่านี้ ทำให้เห็นความแตกต่างและกล้าแซวตัวเองผ่านมุมมองโลกจริงและโลกนิทาน น่าเสียดายที่ประเด็นไม่เข้มข้นหรือนำมาต่อยอดได้อีก จึงจบแล้วจบกัน ยกเว้นชอบหรือหลงใหลจริงๆจะรู้สึกมีความสุขกับเรื่องนี้มาก

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)