![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgZs3JT3jb17XaMU6QilQjyC4OcOg78ZBmWMx1y_el-EYqgT4P-bZKLptyVArMurn149Y_iAke-wiN289Kf1USAj5cW3f8QDUNukO0uC1X7keGHd8GAIlt4CqrDmGkMFJkZvYESgToxabE/s640/11964710_1300x1733.jpg)
The Negotiator (1998) | คู่เจรจาฟอกนรก
Director: F. Gary Gray
Genres: Action | Crime | Drama | Mystery | Thriller
Grade: A
นี่คือหนังเกี่ยวกับตำรวจที่ต้องหยิบมาดูซ้ำ โดยเฉพาะสิ่งที่เป็นจุดขายด้าน"การเจรจาต่อรอง"ที่เชือดเฉือนตลอดทั้งเรื่องด้วยคำพูดที่ต่างไม่มีใครยอม โดยต้นเหตุมาจากการโกงกินเงินกองทุนจนนำไปสู่การฆ่าปิดปากคนในหน่วยงาน แล้วเพื่อเป็นการปิดคดีจึงต้องจัดหาแพะมารับเคราะห์ในคดีดังกล่าว ซึ่งไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก แดนนี่ (Samuel L. Jackson) ตำรวจนักเจรจาที่พึ่งโดนตั้งข้อหาพร้อมหลักฐานทั้งที่เขาไม่มีส่วนรู้เรื่องอะไรเลย นั่นจึงนำไปสู่การต่อสู้ด้วยวิธีของนักเจรจาที่ไม่รู้ความจริงหรือเปิดโปงคนร้ายได้ก่อนก็ไม่มีวันยอม แต่คนที่เขาไว้ใจได้มีเพียง เซเบียน (Kevin Spacey) ตำรวจนักเจรจาอีกคนที่มาจากเขตอื่นเท่านั้น
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgqvSQilNrpMmwgJslfFZusxj-cVfvx5sDSkgxZmct63P2x6oKHWG0emg18B_I34lUwoGdCtanICudXWbR0wHPg9AWsVlAbiLW9YebauYIrb8d1R0NfK-FYEaKfDiDKUUtxLDT74XdPIDs/w640-h269/600full-the-negotiator-%25281998%2529-screenshot+%25281%2529.jpg)
Samuel L. Jackson แสดงได้ดุเดือดและหนักหน่วงอย่างมาก โดยเฉพาะท่าทางและสีหน้าที่ส่อถึงอารมณ์โกรธพร้อมจะระเบิดตลอดเวลา แต่ในฐานะนักเจรจาทำให้เป็นตัวละครที่เหมือนจะใจร้อนแต่การตัดสินใจตรงกันข้าม จึงไม่แปลกถ้าจะบอกว่าคือตัวละครที่เดาใจยากสมกับนักเจรจาที่มีพื้นฐานเรื่องจิตวิทยาในการดูบุคลิกคน อะไรที่เคยใช้กับคนร้ายแล้วจะต้องเป็นฝ่ายโดนซะเองจึงอ่านแผนออกว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ถือเป็นความฉลาดของตัวละครที่สมเหตุสมผลและเข้ากับคาแรกเตอร์อย่างที่สุด
แต่ในหนังนั้น Samuel L. Jackson ไม่ใช่นักแสดงนำที่เป็นฝ่ายโชว์พลังการแสดงเพียงคนเดียว เมื่อเวลาผ่านไปจนทุกอย่างเข้าที่ก็ถึงคราวปล่อย Kevin Spacey มารวมแสดงในเวลาต่อมา ราวกับเป็นการเปิดตัวละครลับที่หากไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับหนัง(รวมถึงโปสเตอร์หรือข้อมูลนักแสดง)อาจเป็นการเซอร์ไพรส์อย่างหนึ่งก็ว่าได้ ซึ่งการประชันของทั้งสองชวนให้รู้สึกดุเดือดเลือดพล่าน ยิ่งบทสนทนายิ่งชวนให้เข้มข้นกับน้ำเสียงที่จริงจังขนาดที่ว่าคุยกันนานแค่ไหนก็ไม่มีเบื่อ
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiPaayq8E1BA05v5gpic3wdBW_u3gzF7oMFTST2Vq16v9de1TC_NWtrxcjo1Y_PsrwJjjrrS2oDK_T_GfCa8XELq3ttUXgjEuVi5kmUgHZDsR9ERRdJMf1wGxiWuVEWkJIyci70uO6_JF4/w640-h269/600full-the-negotiator-%25281998%2529-screenshot.jpg)
แต่เดิมหนังเรื่องนี้เขียนมาเพื่อ Sylvester Stallone กับ Kevin Spacey แสดงคู่กัน โดยเล่นเป็นคนจับตัวประกันและอีกคนเป็นตัวประกัน ทว่าบทโดนหั่นหลายส่วนทำให้ต้องกลับมาเขียนแก้ใหม่อีกครั้ง นั่นทำให้ Samuel L. Jackson เข้ามาแทนที่และเปลี่ยนบทตัวประกันเป็นตำรวจนักเจรจาอีกคน ซึ่งแบบนี้ดูสมเหตุสมผลมากกว่าเพราะเป็นการต่อสู้กันด้วยจิตวิทยาจากคนที่มีทักษะเดียวกันจึงดูต่างคนต่างรู้เท่าทันตลอดเวลา
ไม่ยอมกันง่ายๆคือทีเด็ดของหนังเรื่องนี้ที่แสดงให้เห็นถึงคำว่าไม่แพ้หรือยอมจำนานต่ออุปสรรคที่กดดันเพียงใดก็ตาม แม้สิ่งที่แดนนี่ทำจะไม่ใช่เรื่องถูกต้องในการจับตัวประกันเพื่อเข่นความจริงจนไม่ต่างกับผู้ร้ายคนหนึ่ง ทว่าเป็นการสะท้อนและเสียดสีเรื่องกระบวนการยุติธรรมไปพร้อมกับเรื่องตำรวจดีตำรวจเลวที่ตกอยู่สถานะตรงกันข้าม ฉะนั้นบางครั้งการลุกขึ้นสู้เพื่อทวงความยุติธรรมอาจไม่จำเป็นต้องทำถูกต้องตามกฎระเบียบเสมอไป เพราะอะไรนั้นให้ดูจากคนร้ายที่ยังใช้วิธีสกปรก แล้วตำรวจที่ใสซื่อจะใช้วิธีตรงๆเข้าสู้ได้อย่างไร บางทีความเสี่ยงอาจนำพาไปสู่ความจริงที่แน่นอนที่สุด
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhw9sQvLpImFisCFFILEWZQv9XG1x36M6e_cfhbJX733ZF5enVQ-nxUeRPV4ApadDwsgWaT0A3Bo4Ld0mahCXBNZ-5Ob0ZhWc4-qZWb-FBP0QMUrWU4lNpVvHaa3xWPA4GFQKb_ZfjgC30/w640-h267/scr-8.jpg)
The Negotiator ครบรสตามฉบับหนังทริลเลอร์ที่มากด้วยอารมณ์ลุ้นระทึกระหว่างสองฝ่ายอย่างไม่มีใครเหนือกว่าใคร อีกฝั่งคือตำรวจงานดีรับใช้ประชาชนและกำลังสืบการโกงกินเงินทุน แต่ต้องกลายเป็นแพะก่อนที่ความจริงจะถูกเปิดเผยไปมากกว่านี้ เมื่อต้องกลายเป็นคนร้ายโดยที่ตัวเองไม่ใช่ก็เหลือเพียงวิธีเดียวคือการหาความจริงที่ไม่มีใครกล้าทำ ขณะที่อีกฝั่งคือตำรวจจากไหนไม่รู้เพราะมาตามคำขอ แต่ใครจะไปรู้ว่าคนแปลกหน้าไว้ใจได้หรือไม่ ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นการกระทำที่บ้าเลือดดีเดือดและนอกตำรากับการพลิกแพลงสถานการณ์ที่มันส์หลายตลบ
หลายอย่างตื่นเต้นและตื่นตัวตลอดเวลา ยอมรับว่าดูจบแล้วรู้สึกเหนื่อยกับตัวละครที่พากันไปสุดทางการทำงานของตำรวจ ซึ่งมีสะท้อนวิถีการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่หากคุมสถานการณ์ไม่ไหวจริงๆจะมีเจ้าหน้าที่เอฟบีไอมาคุมงานเอง โดยการรับช่วงต่อก็ไม่ต่างกับยอมรับความพ่ายแพ้ที่ต้องโอนงานให้คนอื่นรับผลงานแทน แน่นอนว่าใครจะยอมเสียผลงานให้กับคนอื่น ฉะนั้นนอกจากเรื่องภายนอกก็ยังมีเรื่องภายในที่ต้องแข่งขันประลองปัญญาหาทางสงบเหตุการณ์ก่อนใช้วิธีขั้นเด็ดขาดด้วยกำลัง
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEilw8o8KCqndxaF6gOa3GvYpizhqsRrCIdiw0qnqiQXzpnpD5Y3VFD5YmUvlmBy0qJob8ear5NEHgqMNr7W3Ioc6oBjKxaVaYRIsv8NeJ7SRcSbFYhVZHYXAv6kdLOePWJ8Ly4H9ndgiUk/s640/9db779134ffb53dba29232d36ae9d7ae.jpg)