Legend (1985) ตำนานรักล้างคำสาป

Legend (1985) | ตำนานรักล้างคำสาป
Director: Ridley Scott
Genres: Adventure | Fantasy | Romance
Grade: B-

ถ้าไม่เคยดูหนังเรื่องนี้อาจต้องพลาดความหล่อเหลาของ Tom Cruise สมัยละอ่อน โดยเฉพาะในแบบไว้ผมยาวตามธรรมชาติอย่างที่เห็นกันในหนัง(สาเหตุที่ผมยาวเพราะเจ้าตัวไม่ยอมตัด) มารับบทเป็นเด็กหนุ่มที่อาศัยอยู่ในป่า(คล้ายทาร์ซาน)นามว่า แจ็ค แล้วก็มี Mia Sara ในบทเจ้าหญิงลิลลี่ที่ออกมาเดินเล่นกับแจ็คก่อนจะไปเจอกับม้ายูนิคอร์นและเรื่องแสนเศร้าที่ถูกปีศาจตัดเขาออกไป ทำให้ต้องร่วมมือตามหาเขาของม้ายูนิคอร์นที่หายไปกลับคืนมา


ชื่อเดิมคือ Legend of Darkness ที่ดั้งเดิมไม่ใช่แฟนตาซีที่เด็กธรรมดาดูแล้วรู้สึกสดใสหรือโลกสวยอย่างที่เด็กๆควรดู เนื่องจากอันที่จริงแล้วมีส่วนผสมที่ดาร์คพอสมควร เนื่องจากเป็นการพูดถึงบาปของมนุษย์หรือสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ โดยแจ็คจะเป็นความต้องการหรือตัณหาของลิลลี่ในช่วงแรกของหนัง(จะว่าไปในหนังก็พอมีเค้าอยู่ไม่น้อยที่ให้บทบาทเจ้าหญิงมีความซับซ้อนมากกว่าแจ็ค) แต่ในที่สุดก็รักกันอย่างแท้จริง แม้จบตามสูตร Happy Ending แต่เจ้าหญิงลิลลี่มักแสดงความโลภตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งสาเหตุของเรื่องราวทั้งหมดก็เกือบมาจากเจ้าหญิงเพียงคนเดียว

นอกจากนี้กว่าหนังจะสร้างเสร็จต้องประสบปัญหาหลายอย่าง ไม่ว่าจะสตูดิโอถูกไฟไหม้ หรือความเสียใจของนักแสดง Tom Cruise ขณะนั้นที่ต้องมาเสียพ่ออันเป็นที่รักไป รวมไปถึงเบื้องหลังการตัดต่อจากเดิม 150 นาทีมาเป็นเป็น 94 นาที และฉบับโรงภาพยนตร์ 89 นาที แล้วยังมีฉบับ Director's cut เป็น 114 นาที ซึ่งหลังจากได้รับชมฉบับนี้ก็เหมือนได้เห็นมุมมองของตัวละครที่ไม่ดีหรือขาวสะอาดซะทีเดียว


สิ่งที่ชื่นชมและโดดเด่นยิ่งกว่าทุกตัวละครหรือนักแสดงทุกคนในเรื่องคือจ้าวแห่งความมืดที่เล่นโดย Tim Curry เป็นปีศาจที่เดาใจยาก แม้จะตามสูตรสำเร็จคิดยึดครองโลกด้วยอำนาจชั่วร้าย ทว่าเต็มไปด้วยเล่ห์เลี่ยมทางคำพูดที่ฟังแล้วร้ายเสียยิ่งกว่าร้ายเพราะน้ำเสียงหนักแน่น แล้วยิ่งการเมคอัพที่บอกได้ถึงความไม่ธรรมดาจนกลายเป็นที่จดจำมาโดยตลอดในฐานะตัวร้ายที่น่ากลัวทางรูปร่างหน้าตาอย่างมาก ซึ่งกว่าจะเป็นหน้าเป็นตาและสัดส่วนรูปร่างทั้งหมดต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 ชม.ครึ่งกันเลยทีเดียวเชียว

นับเป็นหนังที่ไม่ค่อยเห็นในงานผู้กำกับ Ridley Scott ที่ทำหนังแฟนตาซีขายกลุ่มคนดูประเภทเด็ก(แม้ความจริงจะไม่ใช่ก็ตามที) ซึ่งช่วงแรกเป็นอะไรที่จืดชืดและธรรมดาเอามากๆในการพูดถึงตัวละคร โดยเฉพาะระหว่างเจ้าหญิงลิลลี่กับแจ็คที่ให้มิติคู่รักต่างสถานะเพียงหยาบๆไม่ลงรายละเอียดปูมหลังอะไรมาก มีเพียงแจ็คต้องไปผจญภัยเพื่อไปช่วยเจ้าหญิงลิลลี่ ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆจนนำไปสู่ความสัมพันธ์แบบพระเอกนางเอก แน่นอนว่าทุกอย่างลงตัวเกือบหมด กระนั้นยังมีความแปลกคอยพลิกแพลงมาเป็นระยะ จะว่าเป็นหนังที่เฉยๆแต่ก็พอมีความน่าสนใจไม่น้อย


พล็อตเรื่องธรรมดา แต่งานองค์ประกอบไม่ธรรมดา หลายฉากทำได้ค่อนข้างสวยและเต็มไปด้วยโลกของจินตนาการ ทว่าไม่ได้ดูมีสีสันหรือฉากที่ใหญ่โตสักเท่าไร มิหนำซ้ำยังรู้สึกคับแคบต่อการผจญภัยที่เอาเข้าจริงไม่มีอะไรเลย ทุกอย่างคลี่คลายโดยง่ายเกือบหมดจนไม่แน่ใจในสิ่งที่ตัวละครทำด้วยความกล้าหาญเพื่อช่วยเจ้าหญิง ทว่าอย่างน้อยมาช่วงครึ่งหลังเริ่มเข้าที่เข้าทางเล่าเรื่องน่าติดตามมากขึ้น ซึ่งโดยส่วนตัวเป็นผลมาจาก Tom Cruise ที่เล่นเป็นจ้าวแห่งความมืดที่สามารถเรียกความน่าสนใจตลอดเวลาที่เข้าฉาก

ข้อเสียของ Legend คือความธรรมดาที่ไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่และการดึงอารมณ์เข้าร่วมที่ยังขาดความน่าตื่นเต้น ทำให้หลายจังหวะขาดความน่าดึงดูดทั้งที่เป็นหนังแฟนตาซีมีของอยู่ในตัว แต่อย่างน้อยสิ่งที่แตกต่างและไม่จำเจคือบทบาทของเจ้าหญิงหรือนางเอกในเรื่อง เนื่องจากมีการแสดงด้านที่ชั่วร้ายจนภาพลักษณ์เจ้าหญิงที่บริสุทธิ์เชื่อมั่นในความดีต้องเปลี่ยนทัศนะคติทันที นับเป็นความพลิกแพลงที่ช่วยให้เป็นหนังแฟนตาซีพล็อตซ้ำๆมีความสดใหม่น่าติดตาม


Legend คือหนังแฟนตาซีที่มีฉากสวยไม่น้อย แต่ท้ายที่สุดต้องยกให้กับการเมคอัพแต่งหน้าแต่งตาที่ดูดีและน่ากลัวเกินคาด รวมไปถึงเทคนิคต่างๆที่สมจริงจนไม่แปลกใจถ้ารางวัลส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับเมคอัพแทบทั้งสิ้น สำหรับใครที่ติดตาม Tom Cruise อาจจะผิดหวังเรื่องการแสดงอยู่บ้างเพราะนิ่งแทบทั้งเรื่อง แต่จะว่าแสดงไม่สมบทบาทก็ไม่ใช่เพราะคาแรกเตอร์ตัวละครเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว ประมาณว่าเป็นวัยรุ่นที่ยังไม่ประสีประสาเท่าไรนัก มีเพียงความมุ่งมั่นกอบกู้ความสงบคืนมา ถือเป็นหนังที่พอดูเพลินๆไม่สนุกมากแต่แฝงนัยยะผ่านตัวละครหลายอย่างไม่น้อยจนมีจุดที่น่าสนใจก็ห้ามพลาดทันที

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)