![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhTECUmsfrYT7EVbKPbxZ7_ZJw2F8tJ2EOhH0i65rtLckfwZ-NmSHJLYVz9th4K38lkqClUFWFd6VMgnKn5uCHf_xn3NnRpElL99yBOIfSAxvpcA8NMLqibWyb4v_0uhRngeZzpnyyrDic/s640/MV5BMjI0NzcyMjM5Ml5BMl5BanBnXkFtZTgwMzk2NzAyNTM%2540._V1_.jpg)
Upgrade (2018)
Director: Leigh Whannell
Genres: Action | Sci-Fi | Thriller
Grade: A-
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhhEm63PuUfPLYK7f9dpCSSu35_gRIC6PDeirtQG1SI5E5oqXjjbqWtZiC05yn-FLBNKu8ze76_kliOSt8pWMZvAFdzWLslvvmHO9ODli5yRyubccZ4Js66Wy40j1Apo2ufrBRrjBNNIPA/w640-h265/tumblr_pe3o95bSLY1rlzc08o2_500.gif)
งานกำกับชิ้นที่ 2 ของผู้กำกับ Leigh Whannell ที่แสดงถึงความแตกต่างจากงานชิ้นแรกอย่าง Insidious: Chapter 3 (2015) ที่ดีขึ้นกว่าเดิมมาก ซึ่งนี่อาจเป็นสไตล์ที่ตัวเองถนัดในอีกรูปแบบหนึ่ง เนื่องจากคลุกคลีกับ James Wan ในฐานะคนเขียนบทเป็นส่วนใหญ่ พอหลุดพ้นจากหนังผีมาทำไซไฟก็รู้เลยว่าเป็นงานที่เต็มไปด้วยการปลดปล่อย ทุกอย่างดูเต็มที่กับสิ่งใหม่ๆตั้งแต่เขียนบทจนกำกับเอง
เห็นเป็นหนังไซไฟ แต่งานสยองขวัญไม่ทิ้งไปไหน ทำให้ฉากแอ็คชั่นไม่ได้เตะต่อยเอามันส์อย่างเดียว แต่โหดระดับปากฉีกหัวเบะอีกด้วย ซึ่งไม่แปลกใจในความรุนแรงเหล่านี้จะได้มาจากการร่วมทำหนังตระกูล Saw ดังนั้นการเห็นเลือดเนื้อต่อหน้าต่อตาโดยไม่หลบมุมกล้องถือเป็นความสะใจไม่น้อยทีเดียว โดยเฉพาะฉากผ่าตัดที่ลงมีดกรีดเนื้อแสดงความสมจริงและชัดเจนอย่างมาก เหมาะกับคนชอบดูหนังสาย Gore ระดับหนึ่ง
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg2yTDQtVEv8-JwopEjPa8AJ-POHNoAQeLJ9b-gDpmyyjKbCq87jh03rvPtwFJxVVsmcb1ICYy3Jq6ovgLQkPpvmZKJlWb3H2EOPsgd-8RRN-NjZ-V3sF95-vSRQ0-e5cYYKu9FjVRxH8U/s640/MV5BMGZiNTliMzMtZDg5Ni00Y2YwLTk3YTMtODg4YjY3NWU1ZjYxXkEyXkFqcGdeQXVyNzYwNzAxMjM%2540._V1_SX1777_CR0%252C0%252C1777%252C748_AL_.jpg)
การที่หนัง Gore ได้สมจริงและรุนแรงถึงเลือดถึงเนื้อเพราะฉากแอ็คชั่นล้วนๆ แต่ละฉากเนรมิตรได้สดใหม่ทั้งเรื่อง มีความแปลกตาไปกับการต่อสู้ที่ไม่ซ้ำกัน แต่ที่ได้อารมณ์จริงๆคือมุมกล้องที่เหวี่ยงหมุนกันสนุกมือ ทว่ามุมกล้องที่เป็นข้อดีชวนให้ตื่นเต้นกลายเป็นข้อเสียในตอนหลัง เนื่องจากใช้บ่อยจนรู้สึกทันทีว่าเป็นจังหวะเดิมๆ ความรู้สึกชอบในตอนแรกจะกลายเป็นความจำเจไปเสียก่อน โดยรวมในแง่แอ็คชั่นถือว่าสนุกพอตัว แม้ทุนสร้างไม่สูง แต่ความมันส์เกินราคา
ในส่วนที่ชอบมากคือการผูกเนื้อเรื่องที่ไม่ซับซ้อนให้ดูมีมิติ อย่างพวกคนร้ายที่ดูธรรมดาแต่มีความพิเศษบางอย่างอยู่กับตัว ซึ่งไม่ต่างกับพระเอกที่ผสานตัวเองเข้ากับไมโครชิพ แม้เพียงเล็กน้อยก็ไม่ต่างกับชีวจักรกล การให้เทคโนโลยีเข้ามาควบคู่ชีวิตประจำวันเป็นสิ่งที่มากแล้ว แต่การรวมเป็นหนึ่งเข้ากับร่างกายเป็นสิ่งที่เหมาะสมมากเพียงใด การให้คำถามเกี่ยวกับ AI หรือปัญญาประดิษฐ์มีความปลอดภัยจริงหรือ? คำตอบที่ได้มักจะคลุมเครือ บทจะดีก็ดีเสมือนผู้สร้าง บทจะร้ายก็ร้ายเหมือนผู้ทำลาย ดังนั้นบทสรุปของหนังจะเป็นคำตอบที่ดีอย่างหนึ่ง
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgbYt-Ax7atLWjSRWlZfCDE9QPqRpfDynqz6vpWVQ-7aRpyjtEREpPqbu2CLPbEhTQblPxTfdifdTslhOgsK9tSz5rX3Q1kJlULPsLTALJFNCoZogqN8Mi-5-gm01Mf3hsZmK4vZcjVlPA/s640/p-upgrade9.jpg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgOOXU4anghrAS45GuuvpVBXNwJ_OhW8SNJidmhbCwzb_wefjbjT4SHTVJGMqg5IdnvQevePGOONGk8mZvkpN0spFRQn9bOseq5coS8nX-c-8M7nsoQ75-vGcK_d8boG8u_6URderANjXI/w427-h640/upgrade.120234.jpg)