The Funhouse (1981)
Director: Tobe Hooper
Genres: Horror
Grade: C+
มองในแง่ความสนุกคงไม่แนะนำสักเท่าไร อย่างแรกคือเดินเรื่องช้าพอสมควร กว่าจะฆ่ากว่าจะตายต้องทนรอเกือบชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งส่วนใหญ่หมดเวลาไปกับการเที่ยวเล่น เช่นเดียวกันอย่างที่สองคือพล็อตไม่มีเนื้อหาเท่าไรด้วย แค่กลุ่มวัยรุ่น 4 คน ได้แก่ เอมี่ ฮาเปอร์ (Elizabeth Berridge),บัซ ดอว์สัน (Cooper Huckabee),ลิซ ดันแคน (Largo Woodruff) และ ริชชี อัทเทอร์เบอรี่ (Miles Chapin) ที่เข้าไปในสวนสนุกก่อนจะเจอเรื่องสยองขวัญเข้า
The Funhouse คือหนังสยองขวัญที่ดูผิวเผินธรรมดาและชวนเซ็ง แต่ภายใต้ความน่าเบื่อระหว่างเดินเที่ยวสวนสนุกจะพบสัญลักษณ์มากมายเกี่ยวกับหนังสยองขวัญ บางอันแอบล้อเลียน บางอันเป็นเรื่องจริง และบางอันตั้งใจให้ดูตลก ถ้าไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นคงเห็นเป็นเพียงองค์ประกอบหนังที่มากเหลือล้น อยากโชว์อยากให้เห็นสิ่งใดก็งัดออกมาเรื่อยๆ แต่นั้นเองที่ทำให้ถูกใจนักวิจารณ์และคอหนังสยองขวัญแบบจริงจังไม่น้อย เนื่องจากเดากันไม่ถูกว่าจะเป็นหนังสยองขวัญประเภทไหนกันแน่
ระหว่างรอก็นึกเดาทิศทางหนังไปพลางๆว่าจะมาแบบไหน จะเป็นฆาตกรโรคจิตตามหนังบอกเป็นนัยๆ หรือเป็นหนังผีเพราะมีคนตาย หรือแม่มดที่สาปแช่งเอาไว้ มีทฤษฎีความน่าจะเป็นเต็มไปหมดทั้งเรื่อง จนกระทั่งหนังเลือกจะบอกต้นเหตุของความสยองขวัญที่แท้จริงด้วยการหักมุม แน่นอนว่าดูเป็นการหักหน้าเสียด้วยซ้ำ เพราะความจริงไม่มีเรื่องสยองขวัญอยู่ก่อนเลยสักนิด แต่เป็นเรื่องบังเอิญที่หลงไปอยู่ผิดที่ผิดเวลาเท่านั้น ทำให้เรื่องบานปลายและเลวร้ายลงเรื่อยๆ
ได้ดูหนังของผู้กำกับ Tobe Hooper ทำ The Texas Chain Saw Massacre (1974) คือหนังสยองขวัญที่คัลท์และแปลกในความรู้สึก เป็นหนังที่รุนแรงแต่ไม่มีกลิ่นคาวเลือด เช่นเดียวกับเรื่องนี้ที่มีความไม่น่าไว้วางใจเต็มไปหมด แต่แล้วยังไง ทุกอย่างทำมาเพื่อหลอกคนดูโดยเฉพาะ สิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับความรู้สึกมันคนละทางกันเลย ยิ่งตอนเฉลยตัวละครบางตัวที่ปิดบังใบหน้าตัวเองยิ่งเซอร์ไพรส์เข้าไปใหญ่ ทำให้อุทาน"นี่คือหนังอะไรกันแน่"
ไม่รู้ว่าโดนผู้กำกับ Steven Spielberg ปั่นสมาธิในการทำงานหรือเปล่า ทำให้บางอย่างดูอ่อนปวกเปียก เพราะระหว่างทำหนังเรื่องนี้ก็ถูกให้มากำกับ E.T. the Extra-Terrestrial (1982) ซึ่ง Tobe Hooper ไม่ว่างตามคำขอ(ส่วนตัวมองว่าดี ไม่งั้นหนังเอเลี่ยนคงไม่ออกมาน่าจดจำและน่าประทับใจถึงเพียงนี้) แต่สุดท้ายมาร่วมมือกันทำ Poltergeist (1982) ที่กลายเป็นหนังผีเฮี้ยนที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่ง แม้เนื้อแท้จะไม่ใช่แนวที่ถนัดและไม่ได้ทำเองหมดอย่างที่เห็นในเครดิตผู้กำกับก็ตาม
