The Siege (1998)
เดอะ ซีจจ์ ยุทธการวินาศกรรมข้ามแผ่นดิน
Director: Edward Zwick
Genres: Action | Thriller
เกิดการก่อร้ายด้วยระเบิด สถานการณ์เกิดขึ้นท่ามกลางเมืองที่มีผู้คนมากมาย ทำให้หน่วยงานที่รับผิดชอบอย่างเอฟบีไอ (FBI) ต้องเข้ามาจัดการอย่างเร่งด่วน แต่ด้วยเบาะแสที่น้อยทำให้ การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก การสืบหาต้นตอจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ที่สำคัญคือวัตถุประสงค์การก่อการร้ายที่เกี่ยวโยงถึงศาสนาและเชื้อชาติกลายเป็นเรื่องละเอียดอ่อนของสังคม
เสมือนดูหนังจำลองเหตุการณ์ก่อการร้ายที่มีแต่เบื้องหน้า ขณะที่เบื้องหลังมีการลงรายละเอียดที่น้อยมาก จะหาข้อมูลชวนวิเคราะห์เชิงลึกไม่ค่อยได้สักเท่าไร สิ่งที่ได้คือการเล่าเรื่องชวนลุ้นระทึก หาแรงกดดันจากสถานการณ์ที่ยิ่งปล่อยไว้นานยิ่งส่งผลลบต่อประชาชนและต่อประเทศชาติ โดยเฉพาะการนำกฎอัยการศึกมาใช้ควบคุมประชาชนที่เปลี่ยนจากประชาธิปไตยเป็นเผด็จการอย่างไม่รู้ตัว
ถ้าไม่มี Denzel Washington ความสนุกจะลดลงไปอีกระดับหนึ่งเลย เพราะความตึงเครียดของหนังยังไม่หนักแน่นเท่าการแสดงที่เครียดและกดดันตลอดเวลา ซึ่งว่าตามสถานการณ์ก็น่าวิตกอยู่น้อยสำหรับประชาชนที่ต้องใช้ชีวิตเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ใครจะระเบิดตรงไหนก็ไม่รู้ หน่วยงานรัฐเองก็ใช่จะหาคำตอบที่แน่ชัดได้ มิหนำซ้ำต่างฝ่ายต่างกุมความลับของตัวเอง ไม่มีใครยอมใครเพราะกลัวอีกฝ่ายจะยึดผลงานไป
FBI และ CIA หน่วยงานรัฐบาลที่ต่างมีบทบาทของตัวเอง แต่ไม่ยอมร่วมมือกันง่ายๆเพราะกลัวก้าวก่ายผลงาน สิ่งนี้เป็นการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานที่ควรจะร่วมมือกันแก้ปัญหาตั้งแต่แรก กระนั้นปล่อยปละจนเป็นเรื่องใหญ่ถึงยอมร่วมมือกัน ซึ่งเป็นเรื่องสายเกินแก้พอสมควรที่กฎอัยการศึกเข้ามาปกครองประเทศ ทหารกลายเป็นกฎหมายที่มีจุดยืนสูงสุด จะทำอะไรก็ได้โดยไม่สนไม่แคร์
Bruce Willis รับบทเป็นนายพลที่พูดอย่างใจอย่าง ไม่ต้องการอำนาจจนได้เป็นจุดสูงสุดถึงเป็นอีกคน (เห็นแล้วลบภาพมาดพระเอกจากที่คุ้นเคยโดยสิ้นเชิง) วิธีการทหารไม่สามารถใช้กับประชาชนได้ เนื่องจากไม่ใช่ทุกคนคือคนร้าย ต่อให้มีศาสนาหรือเชื้อชาติเดียวกันควรจะแยกแยะให้มากกว่านี้ การเหมารวมว่าทุกคนคือคนร้ายเสมือนดาบสองคมที่ฆ่าจิตใจประชาชนให้หวาดกลัวมากกว่า
เดิม
