Project Power (2020) โปรเจคท์ พาวเวอร์ พลังลับพลังฮีโร่

Project Power (2020) | โปรเจคท์ พาวเวอร์ พลังลับพลังฮีโร่
Directors: Henry Joost, Ariel Schulman
Genres: Action | Crime | Sci-Fi | Thriller
Grade: B-

หนังที่ผสมไอเดียระหว่างยาเสพติดกับพลังเหนือมนุษย์ เพื่อตอบโจทย์ให้ทันยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยหนังซูเปอร์ฮีโร่หรือคนที่มีพลังพิเศษ ขณะที่หนังแนวตำรวจตามจับคนร้ายที่มียาเสพติดดูเก่าและธรรมดาไปเสียแล้ว ดังนั้นจึงเกิดพล็อตยาที่มอบพลังให้ผู้กินเป็นเวลา 5 นาที โดยพลังจะเป็นยังไงแล้วแต่คนนั้น


เปลี่ยนจากยาเสพติดที่ทำได้แค่เสพสุขเพียงชั่วขณะ มาเป็นมอบพลังเหนือมนุษย์ ซึ่งความสามารถนั้นจะใช้ได้แค่ 5 นาที โดยพลังของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน ทำให้หนังจะเล่นอะไรจะใส่อะไรก็ได้ ไม่ต่างกับหนังรวมพลังซูเปอร์ฮีโร่ เช่น เปลี่ยนสีผิวหนังตามสภาพแวดล้อม พละกำลังมหาศาล หนังเหนียวฟันแทงไม่เข้า รักษาบาดแผล และอื่นๆที่ใส่ให้เห็นไม่ซ้ำรูปแบบ

ส่วนที่มาที่ไปของพลังมีการให้เหตุผลว่าอ้างอิงมาจากสัตว์ โดยการดึงจุดเด่นออกมาใช้ แน่นอนว่าบางอย่างค่อนข้างเว่อร์ไปสักหน่อย ขณะที่บางอันธรรมดาซะเหลือเกิน ทำให้สเกลหนังไม่ได้ยิ่งใหญ่หรืออลังการ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นมุมหนึ่งในเมืองเล็กๆ อารมณ์คล้ายหนังซูเปอร์ฮีโร่ปุถุชนที่ไม่ได้เก่งหรือมีพลังมากมายมหาศาล สิ่งที่พอฟัดพอเหวี่ยงคือทักษะการต่อสู้และไหวพริบที่ใครมีก็สู้ได้ ใครไม่มีก็ไม่ต่างกับตัวประกอบที่มาโชว์และจากไปอย่างรวดเร็ว


ในส่วนของพลังไม่มีความเห็นมากสักเท่าไร ที่เน้นหน่อยคือการเล่าเรื่องที่เข้าทางคู่หูตำรวจ (ไม่เชิงว่าต้องเป็นตำรวจหมดซะทีเดียว) โดยหลักเกี่ยวกับ อาร์ท (Jamie Foxx) ที่พยายามตามหาลูกสาวที่ถูกจับตัวไป ซึ่งเกี่ยวโยงถึงยาที่ให้พลังเหนือมนุษย์ ก่อนที่ภายหลังจะร่วมมือกับ โรบิน (Dominique Fishback) เด็กสาวส่งยาที่ขี้กลัวที่มีความฝันอยากเป็นแร็ปเปอร์ และ แฟรงค์ (Joseph Gordon-Levitt) ตำรวจที่พยายามสู้กับกลุ่มคนใช้ยาเพื่อให้เมืองกลับมาสงบอีกครั้ง

เนื้อเรื่องไม่ค่อยอธิบายอะไรมาก ทำให้บางอย่างดูโหว่ขาดความเข้าใจ แต่หลักๆแล้วเข้าใจได้ง่ายและเดินเรื่องไวมาก พอมารู้เหตุผลที่สร้างยาขึ้นมาและที่มาของยาจึงรู้สึกธรรมดา ไม่ได้สะท้อนสังคมอย่างลึกซึ้ง อันที่จริงมีความคล้าย X-Men อยู่บ้างเรื่องการใช้พลังในทางที่ผิด คงจะดีไม่น้อยที่จะทำให้เนื้อเรื่องให้จริงจังและกว้างกว่านี้


เนื้อเรื่องไม่เท่าไร แอ็คชั่นก็ไม่เท่าไรเช่นกัน หลายอย่างดูเร้าอารมณ์ด้วยมุมกล้องที่เหมือนจะทดลองถ่ายแบบนั้นแบบนี้ ความสนุกจึงไม่สุดเพราะพยายามหาลูกเล่นให้เป็นจุดขายตัวเอง แต่สุดท้ายไม่ได้อะไรกลับมานอกจากพล็อตที่ดูเข้าท่าที่สุด น่าเสียดายความมันส์ที่น้อยไปหน่อย ถ้าไม่รีบตัดบทบางตัวละครคงได้บู๊ยาวๆและลุ้นกว่านี้

ปล.ไคล์แม็กซ์ปล่อยพลังเดือดมาก ใครจะคิดว่าพลังแบบนี้มาจากสัตว์ตัวเล็กที่สร้างพลังอลังการแบบนี้ได้

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)