Fear Street: Part Three - 1666 (2021) ถนนอาถรรพ์ ภาค 3 : 1666

Fear Street: Part Three - 1666 (2021) | ถนนอาถรรพ์ ภาค 3 : 1666 | B+
Director: Leigh Janiak
Genres: Horror | Mystery

ผสานรอยต่อระหว่าง Fear Street: Part One - 1994 (2021),Street: Part Two - 1978 (2021) และ Fear Street: Part Three - 1666 (2021) ให้เชื่อมเข้าหากันอย่างแนบเนียนเพื่อสรุปสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบ โดยใช้วิธีเล่าเรื่องจากปัจจุบันไปสู่อดีต แล้วอดีตมาสู่ปัจจุบัน


ปกติแล้วภาคแรกจบแค่ไหนก็มีแค่นั้น มีเพียงภาคต่อที่มักสร้างเรื่องราวให้เชื่อมกับภาคแรก ทำให้ภาคแรกมีเนื้อหาน้อยที่สุดเพราะไม่ได้ถูกขยายให้ซับซ้อน แต่กับไตรภาค Fear Street จะใช้ภาคแรกทั้งหมดเป็นตัวหาทางเชื่อมกับภาคอื่นๆ ทำให้ไม่ต่างกับดูหนังยาวที่ถูกพักเบรกแบ่งตามยุคสมัย หากคิดลำดับเวลาเหตุการณ์ในหนังจะได้ 1994 > 1978 > 1994 > 1666 > 1994 

เหตุการณ์ต่อเนื่องและใกล้ได้คำตอบ เมื่อ ดีน่า (Kiana Madeira) ได้กลับไปที่กระดูกปริศนาที่น่าจะเคยเป็นต้นเหตุคำสาปอีกครั้ง ทว่าได้เกิดเหตุการณ์บางอย่างทำให้เกิดย้อนภาพในอดีตไปปี 1666 ซึ่งเป็นหมู่บ้านดังเดิมก่อนจะกลายเป็นเมืองเซดี้ไซด์ ที่นั้นเองทำให้พบกับ"ซาร่าเฟียร์"ก่อนจะกลายเป็นแม่มดตามคำเล่าขาน


อารมณ์มาคนละทางกับภาคก่อนทั้งหมดและให้ความจริงจังและหม่นหมองยิ่งกว่าเดิม โดยเน้นไปที่วิถีชีวิตสังคมที่ยังดำเนินไปตามความเชื่อคำสอนในศาสนา ทำให้ทุกอย่างดำเนินไปตามคำสอนและความเชื่อในกรอบที่วางเอาไว้ โดยเฉพาะสิ่งที่ภาคแรกแสดงให้เห็นเกี่ยวกับ LGBTQ ที่ยังไม่ได้เป็นที่ยอมรับของสังคมและถูกมองเป็นเรื่องผิดศีลธรรม

นอกจากนี้ในยุคที่วิทยาศาสตร์ยังไม่เฟื่องฟูและถูกครอบงำด้วยศาสนาจึงเกิดปรากฏการณ์ล่าแม่มด (Witch Hunting) ใครทำในสิ่งที่แปลกแยกจากสังคมจะถูกตีตราเป็นแม่มด ซึ่งแม่มดจะมีด้านเดียวคือผู้รับใช้ซาตาน เช่นเดียวกันกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องด้านลบ เช่น มีคนตายเพิ่มขึ้น เกิดโรคระบาด พืชพรรณไม่เจริญเติบโต ภัยธรรมชาติ สิ่งเหล่านี้จะถูกมองว่าต้องมีใครทำเรื่องผิดจารีตอยู่แน่ๆ


"เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ"

ตลอดผ่านมาจะเห็นว่า"ซาร่าเฟียร์"คือแม่มดผู้ชั่วร้าย ปลุกนักฆ่าหรือทำให้คนธรรมดากลายเป็นฆาตกรเพื่อสังเวยให้กับพิธีกรรมมืด ทว่าไม่มีสาเหตุของการเป็นแม่มดว่าเริ่มมาจากอะไร จริงๆแล้วเป็นแม่มดตั้งแต่ต้นหรือเป็นเพียงคนธรรมดา เนื้อหาในภาคนี้จะเป็นการเข้าถึงประเด็นความจริงที่ถูกบิดเบือนไปจากที่รู้มาก่อน

"ซาร่าเฟียร์"คือผู้หญิงวัยสาวธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น อาจมีความคิดที่แตกต่างอยู่บ้างก็ไม่ถึงกับประหลาดซะทีเดียว แต่สิ่งที่ไม่อาจเปิดเผยแก่คนอื่นให้รับรู้ได้คือความสัมพันธ์ทางเพศที่ชอบเพศเดียวกัน ซึ่งความลับนี้ก็ไม่อาจเก็บไว้ได้ตลอด จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์สยองขวัญที่ต้องมีคนล้มตายและวิกฤติของหมู่บ้านที่มืดบอดลงเรื่อยๆ ทำให้ถูกนำมาเล่าเป็นประเด็นเชื่อมโยงถึงความผิดศีลธรรมและซาตาน


เมื่อมีสิ่งใดเกิดขึ้นสิ่งนั้นจะต้องมีที่มา ทำให้เกิดประเด็นว่าอาจเกิดจากมนต์ดำที่จองทำร้ายหมู่บ้าน เมื่อเป็นเช่นนั้นทำให้คนเชื่อเป็นตุเป็นตะเพราะสมเหตุผลมากที่สุด ดังนั้นจึงเกิดปรากฏการณ์ล่าแม่มดหรือการหาคนมารับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น แม้จะเป็นแพะที่ไม่รู้เรื่องเลยสักนิด แต่ที่สุดต้องมีคนหาเรื่องโยงประเด็นให้เข้าจนได้

เมื่อโดนโจมตีว่าเป็นแม่มดทั้งที่ไม่ใช่ ทำให้"ซาร่าเฟียร์"ที่ควรเป็นแม่มดได้กลายเป็นผู้บริสุทธิ์ ทว่าตัวหนังเองก็ฉลาดพอจะเขียนแรงกดดันให้หนักเพื่อให้เป็นแม่มดที่เครียดแค้นคนในหมู่บ้านที่โจมตีอย่างรุนแรง กระนั้นสถานการณ์ไม่ง่ายเช่นนั้น เพราะความจริงมีผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด อีกทั้งเป็นคนที่คาดไม่ถึงจากเพศสภาพจนเป็นข้อเปรียบเทียบระหว่างชายและหญิง เนื่องจากแม่มดมักเป็นเพศหญิง ขณะที่เพศชายแทบไม่มีการกล่าวถึง


การพลิกแพลงความจริงของเรื่องเล่าที่ถูกบิดเบือนทำให้"ซาร่าเฟียร์"คือแพะของสังคมที่ถูกตีตราเป็นแม่มดจอมโฉด ทั้งที่คือผู้ได้รับผลกระทบจากเรื่องที่ยังไม่เป็นที่ยอมรับในสังคมขณะนั้น การสอดแทรกประเด็นรสนิยมทางเพศและความเชื่อทำให้เห็นสภาพสังคมของคนสมัยก่อน ซึ่งยังเต็มไปด้วยการยึดติดและขาดความตระหนักวิจารณญาณ หากตั้งสติและเปิดความคิดให้กว้างก็คงไม่มีใครต้องเสียชีวิตโดยเปล่าประโยชน์

ครบไตรภาคและครบรสเนื้อหาที่หลากหลาย ทำให้หนังสยองขวัญที่มีพล็อตไล่เชือดมีระดับมากกว่าสนองความบันเทิงเพียงด้านเดียว แต่สะท้อนไปถึงสังคมและวิถีชีวิตตามยุคตามสมัยที่มีทั้งดีและไม่ดีซ่อนอยู่ แนะนำจริงๆกับหนังสยองขวัญทั้งสามภาคนี้และจะเยี่ยมยอดกับการดูมาราธอนเพราะอารมณ์กับเนื้อเรื่องต่อเนื่องไม่มีสะดุด

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)