Crawl (2019)
คลานขย้ำ
Director: Alexandre Aja
Genres: Action | Horror | Thriller
Grade: A-
"พายุเข้าน้ำท่วม จระเข้จึงหลุดเข้าบ้าน"
ไม่ต้องคิดพล็อตให้ยุ่งยาก ใส่สถานการณ์สร้างพายุหนักๆขนาดที่ต้องอพยพคนออกจากเมือง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะหนี เพราะยังมีคนห่วงบ้าน ทำให้ เฮลี่ย์ (Kaya Scodelario) ต้องกลับบ้านไปตามพ่อ (Barry Pepper) ที่ติดต่อกลับไม่ได้ แต่เกิดเรื่องไม่นึกฝันเมื่อพบว่ามีจระเข้แอบอยู่ในบ้าน
เบาสมอง แต่หนักใจ เพราะเนื้อเรื่องแทบไม่มีเลยด้วยซ้ำ มาถึงทำให้เกิดพายุหนักขนาดที่เกิดน้ำท่วมได้ แต่ใครจะคิดถึงความรุนแรงของพายุที่ต่อเนื่องจนน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้านตัวละครไม่มีใครคิดผลร้ายที่ตามมาจะรุนแรงขนาดนี้ กระนั้นสิ่งที่คนดูเห็นคือป้ายเตือนจระเข้ ซึ่งดูจากพายุที่ถาโถมขนาดนี้ย่อมมีจระเข้ตามหลังมาแน่นอน ส่วนจะมายังไงและทำไมถึงอันตรายต่อคน เหตุผลคือหลุดมาตามท่อระบายที่เผอิญหลงมาใต้ถุนบ้าน คนอยู่บ้านก็ซวยรับเคราะห์ไปตามระเบียบ
เริ่มแรกจะน่าอึดอัดเพราะต้องเล่นวิ่งไล่จับจระเข้ใต้ถุนบ้านที่ดักหน้าดักหลัง แต่ยิ่งอยู่นานยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ เพราะตัวการคือพายุที่ไม่ยอมหยุดและหนักขึ้นจนน้ำท่วม จากที่ไม่รีบร้อนต้องเร่งหาทางเอาตัวรอดจากน้ำที่เพิ่มเข้าบ้าน ทำให้ความน่ากลัวของจระเข้ยิ่งทวีคูณขึ้น ความตึงเครียดเริ่มเป็นความบ้าบิ่นพร้อมลุยกับจระเข้ ทำให้ยิ่งดูยิ่งมันส์กับสถานการณ์ที่แปรเปลี่ยนและไม่หยุดนิ่ง แม้จะสูตรสำเร็จ
มากก็ตาม แต่นี่แหละเต็มสูตรยิ่งเต็มที่
ภาระหนักตกไปที่ Kaya Scodelario ต้องเล่นบทนำคนเดียวเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งยอมในความบ้าเลือดบางฉากที่ไม่เกรงกลัวความดุร้ายของจระเข้ ถ้าต่อยจระเข้แบบพอฟัดพอเหวี่ยงคงอัดไม่ยั้งมือแน่ๆ ทำให้หนังที่ดูเครียดเปลี่ยนเป็นลุ้นตื่นเต้น จะกลัวก็ว่ากลัว แต่อดยอมในความห้าวที่พร้อมเสี่ยงไม่ได้จริงๆ ส่วนอีกคนที่เล่นประกบคู่คือ Barry Pepper ในบทพ่อที่ทำให้เชื่อว่า ลูกได้เชื้อมาจากใครถึงได้เป็นสาวแกร่งขนาดนี้ บทส่งไม่มาก แต่ความสำคัญช่วยพลิกแพลงสถานการณ์ได้ดี
ความสัมพันธ์พ่อลูกอาจจะไม่ถึงกับซาบซึ้งหรือกินใจมากเท่าไร อาจด้วยพยายามรีบเล่าเรื่องไม่ให้หยุดพักจากจระเข้จึงไม่มีโอกาสเล่าความสัมพันธ์ของทั้งสอง กระนั้นยังสอดแทรกความเป็นห่วงและการประสานงานช่วยกันได้เป็นอย่างดี ต่อให้ไม่อธิบายความเป็นพ่อลูกที่ก่อนหน้านี้เป็นมายังไงก็รู้สึกผูกพันจากการช่วยเหลือกันและกัน ซึ่งเป็นข้อดีเพราะหนังสยองขวัญชอบปล่อยให้ตัวใครตัวมัน แต่
กับเรื่องนี้ไม่เป็นเช่นนั้น
ต้องชื่นชมในการดัดแปลงสร้างสถานการณ์ซวยซ้ำซวยซ้อนที่ไม่เป็นการยัดเยียดมากเกินไป ทำให้ไม่ดูล้นหรือแก้ปัญหาแบบลวกๆ แต่ต้องยอมในความอึดที่ต่างคนต่างยังมีแรงเหลือทั้งที่น่าจะหมดแรงไปตั้งนานแล้ว ตรงนี้จึงดูเวอร์ไปสักหน่อย เนื่องจากสถานการณ์แต่ละอย่างพาเหนื่อยเสียเหลือเกิน กว่าหนังจะจบทำเอาเพลียทั้งตัวละครและคนดูทั้งที่ยาวเพียงชั่วโมงเกือบครึ่ง อยากจะแนะนำทันที แม้
จะสั้นแต่สนุกและลุ้นมาก
นานๆจะมีหนังจระเข้กินคนเข้ามาให้น่าสนใจและทำได้ดี เพราะส่วนใหญ่จะเป็นหนังสยองขวัญเกรดทั่วไป ไม่มีความสดใหม่หรือรู้สึกแปลกไปกว่าสัตว์กินคน สำหรับหนังจระเข้กินคนเรื่องอื่นที่ชื่นชอบจะมี Lake Placid (1999), Black Water (2007) และ Rogue (2007) ซึ่งอยากจะแนะนำเช่นกัน ส่วนจะสนุกมากน้อยแค่น้อยขอไม่ตัดสินเท่าลองดูด้วยตัวเองก่อน
