Flight of the Phoenix (2004) เหินฟ้าแหวกวิกฤติระอุ

Flight of the Phoenix (2004)
เหินฟ้าแหวกวิกฤติระอุ
Director: John Moore
Genres: Action Adventure Drama Romance Thriller
Grade: B-

รีเมคมาอีกทีกับต้นฉบับ The Flight of the Phoenix (1965) ที่กล่าวถึงกลุ่มพนักงานของบริษัทที่ปิดตัวลง ทำให้ต้องเดินทางกลับบ้านโดยเครื่องบิน ซึ่งระยะทางต้องข้ามทะเลทรายมองโกเลีย แต่เกิดปัญหาเจอพายุทะเลทรายทำให้เครื่องบินขัดข้องและตกท่ามกลางทะเลทราย ทำให้ทุกคนต้องเอาตัวรอดในสภาพภูมิประเทศที่ร้อนจัดและไร้อาหาร


หลังจากเครื่องบินตกทำให้รู้ว่าตัวละครมีความสำคัญยังไงบ้าง ดูได้จากการคิดวิเคราะห์และแสดงความเห็นเกี่ยวกับทะเลทราย ทำให้เห็นภาพที่เกิดจากการลองเอาตัวรอดด้วยวิธีต่างๆ ซึ่งแต่ละวิธีล้วนไม่อาจไปรอดตลอดฝั่ง ทว่านั้นเป็นช่วงแรกเท่านั้นที่ดูจะเกิดบทสนทนาประชันความคิด หลังจากแทบจะปล่อยไปตามกรรมเพราะรู้ว่าไม่อาจทำอะไรได้ นอกจากรอให้มีคนคิดว่าพวกเขาหายไปแล้วจะมีคนมาช่วย แต่มีคนผุดความคิดสร้างเครื่องบินจากชิ้นส่วนที่เหลืออยู่

เห็นได้ชัดคือการคัดนักแสดงผู้ชายหุ่นดีมีกล้ามเพื่อเซอร์วิสโดยเฉพาะ แม้จะไม่ทุกคนก็ดูออกตอนช่วยกันซ่อมแซ่มเครื่องบิน ใครหุ่นดีพอมีกล้ามจะต้องถอดเสื้อโชว์ สภาพอากาศร้อนแรงแค่ไหนไม่สนใจ จะหลังไหม้หรือปวดแสบปวดร้อนเป็นเรื่องที่ถูกมองข้าม ฉะนั้นสิ่งที่เคยพูดเอาไว้ถึงความโหดร้ายของทะเลทรายตอนกลางวันแทบไม่มีผล


มีนักแสดงมากหน้าหลายตา แต่คนที่โดดเด่นที่สุดและพอจะมีมิติคือ Dennis Quaid ในบท กัปตันแฟรงก์ ทาว์นส ซึ่งในเรื่องเป็นคนมั่นใจตัวเองสูง ไม่ยอมฟังหรือปลอบใจใคร ต่างคนต่างอยู่เลยก็ว่าได้ แต่เพราะความหัวแข็งทำให้มีบททดสอบอยู่เรื่อยๆ ทำให้ใจที่แข็งกระด้างเริ่มอ่อนโยนจนมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี อีกคนคือ Giovanni Ribisi รับบทผู้ร่วมโดยสารเครื่องบิน ซึ่งทำตัวลึกลับซ่อนเงื่อน แปลกแยกกว่าทุกคน แต่กลับเป็นคนที่สำคัญที่สุดในการเอาชีวิตรอดจากทะเลทราย

ส่วนคนอื่นๆไม่น่าสนใจทั้งที่ควรจะมีความหลากหลายมากกว่านี้ รวมไปถึงประเด็นต่างๆที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ที่เลวร้าย ทุกอย่างดูธรรมดาทั้งที่เหมือนมีมากกว่านี้ แต่สุดท้ายไม่มีอย่างหวัง ในทางกลับกันถึงจะมีก็ถูกแก้สถานการณ์โดยง่าย ไม่กดดันหรือน่าหดหู่สักเท่าไร ความยากลำบากไปไม่สุดและเห็นว่ายังไหวกันทุกคน ฉะนั้นสิ่งที่เป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวตอนท้ายเรื่องจึงไม่มีพลังเท่าที่ควร ในแง่การเอาชีวิตด้านพล็อตดูลำบากยากเข็ญ แต่หนังเล่าได้สบายไม่เหน็ดเหนื่อยสักเท่าไร


Flight of the Phoenix น่าดูช่วงแรกๆที่ต้องตกมาอยู่ในสถานการณ์บีบคั้นเอาตัวรอด แต่ความยากลำบากแทบจับอารมณ์ในส่วนนี้ได้น้อย แม้จะแสดงความสามัคคีทำให้สิ่งที่ทำราบรื่น กระนั้นไม่อาจฟังขึ้นเมื่อบางช่วงบางตอนรวบรัด สิ่งที่ชอบอยู่ในข้อเสียที่ทำให้ดูง่ายและเน้นบันเทิง มีสถานการณ์ตึงเครียดบ้างเพียงเล็กน้อยให้ชวนลุ้น แม้จะลงเอยกันแบบง่ายๆก็ตามที

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)