![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiIctCFpVMMdKRO8RcIN9rqRjI_OK5nyWLEmMa8El_SkLREl8_I3zbmVuCqyBT6HuZgEtcq90YkdsDuEfmWaACWWsu5KcGy0Ue4eP8U_T-EifjUfAOEf-1Et9yfB-Hd6h4Wn6CxT6_dqPQ/w432-h640/Gemini-Man-2019-Will-Smith-Movie-Poster-1.jpg)
Gemini Man (2019) | เจมิไน แมน | C+
Director: Ang Lee
Genres: Action | Drama | Sci-Fi | Thriller
อารมณ์เหมือนตอนดู Billy Lynn's Long Halftime Walk (2016) ที่คาดหวัง แต่ไม่ได้อย่างที่หวัง แถมยังให้ความรู้สึกกลางๆแปลกๆทั้งที่ไม่ดีมาก ขณะเดียวกันไม่ได้แย่ด้วยซ้ำ ทำให้ดูจบแล้วรู้สึกเคว้งคว้างล่องลอยอย่างบอกไม่ถูก เว้นที่แน่นอนที่สุดคือมีแอ็คชั่นจริงๆไม่กี่ฉากเท่านั้น
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjIQnh0Cbk5tErdweU39NKWlbOAZ-itya7cVGhZf2kVHQ1_vbyt6fUYNJuxJKs5fVsO_r9nmWyEByIj92-D9tVAgHgfswG18M8Z7YTntkoeZalrBeSFSXi3swk3HBlKzVSx_OI0UdYrPFY/w640-h360/gemini-b100__v-epg__small__16__9_-b30663deff5630f32a0208e3ad4f8215ecfed184.jpg)
ได้เห็น Will Smith เล่นบทวัยหนุ่มเป็นเรื่องธรรมดา อาจเพราะเห็นบ่อยครั้งจากหนังหลายเรื่องที่ตัดแต่งหน้านักแสดงให้อ่อนกว่าวัย แต่ที่แตกต่างไปกว่านั้นคือเล่นเหมารวมวัยหนุ่มและวัยแก่ในเรื่องเดียวกัน แสดงให้เห็นเทคโนโลยีการทำ CGI ในยุคนี้ว่าทำแบบนี้ได้ดีเหมือนกัน จะจริงหรือปลอมสามารถเข้ากันได้เนียนเหมือนคนเดียวกัน ซึ่งเข้ากับพล็อตหนังเกี่ยวกับการโคลนนิ่งที่ไม่ต้องสลับบทเปลี่ยนนักแสดงไปมาหรือใช้มุมกล้องหลบจุดจับผิด
Gemini Man (2019) เป็นหนังแอ็คชั่นที่ดูมีหลายอย่าง แต่เล่าไปเรื่อยๆไม่เห็นความเพิ่มเติมตรงไหน เสมือนทุกอย่างดูเป็นความลับที่แสดงออกไม่กี่เรื่อง ทำให้เรื่องที่ดูใหญ่กลับมีสเกลเล็ก มิหนำซ้ำไม่ใหม่กับประเด็นศีลธรรมความเป็นมนุษย์เกี่ยวกับโคลนนิ่ง ซึ่งดูแล้วเป็นหนังทำยามว่างของผู้กำกับ Ang Lee ที่ยังไม่รู้จะหาอะไรใหม่ๆทำ
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjrORqrhIAC717rFXnX98Te6gd4_KCV5xRk9vbhp3F5faxOfl7TCu0t2oRZh3EhJNi343TUSYTyOkA-6arO7u31zHmin1y3HwtBx3fHziSHNB0g3S4MgApr6kg3fT4x7Smth_pUVade6QI/w640-h332/g7_1574139397_5435.jpg)
แม้พล็อตเรื่องจะไม่น่าสนใจ แต่วิธีถ่ายทอดอารมณ์ผ่านมุมกล้องกลายเป็นที่สะดุดตาบ่อยครั้งมาก เพราะแต่ละฉากที่ตัวละครคุยกันจะโฟกัสจับใบหน้าแบบเน้นๆ แทนที่จะมีกิริยาท่าทางประกอบก็กลายเป็นแสดงอารมณ์ผ่านสีหน้า ซึ่งบางทีรู้สึกอึดอัดบางทีรู้สึกโล่งอย่างบอกไม่ถูก เหมือนตอนดู Billy Lynn's Long Halftime Walk (2016) ที่ต้องการถ่ายทอดความสมจริงเวลาคุย ซึ่งคงไม่ดีแน่ๆหากมองไปทางอื่นแทนที่จะมองหน้า
Will Smith ยังคงรับบทแอ็คชั่นได้สนุกและคล่องแคล้ว ต่อให้หนังมีฉากต่อสู้น้อยซะเหลือเกิน แต่ปฏิเสธไม่ได้ถึงอรรถรสความบันเทิงที่ถึงอารมณ์ แล้วยิ่งเป็นการปะทะกับตัวเองแล้วยิ่งเพิ่มความสนุกมากกว่าเดิม เพราะไม่รู้จะเชียร์ใครให้ชนะ ต่อให้รู้อยู่ก่อนว่าใครดีใครร้ายก็ตาม (ซึ่งประเด็นนี้จะค่อยๆเล่าความเป็นสีเทาว่าทำไม)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEghwWPLrnOANFpVAdAQ190kQrK0Z7KslvmpdqaQe0OQLEYPhc1A-P8aCoFG-aloKeoSqDTRSmn0juJFpgrOaqMWSm5zLOnUonShm_tdmkgNq6gtwLGEa_Xu9M0zBFoPM1nzIfigB0DZN_g/w640-h346/6a0168ea36d6b2970c0240a4dd3f7f200d.jpg)
ตัวร้ายในเรื่องคือ Clive Owen ที่เหมือนเก่ง แต่เอาเข้าจริงมีจุดประมาทหลายอย่างมาก ความคาดหวังเห็นสิ่งเด็ดจึงไม่ตรงตามปากที่พูดไว้ ทำให้ไร้เสน่ห์ทั้งที่มิติปูให้เห็นความคิดต่อโลกต่อสังคมในทางลบ การโคลนนิ่งคนเก่งมีทักษะเพื่อเป็นอาวุธจึงราบเรียบ เป็นความคิดเก่าๆที่เห็นบ่อยจนเบื่อแล้ว
Gemini Man (2019) โดยรวมน่าเบื่อสำหรับใครหลายคน แต่ด้วยเสน่ห์การถ่ายทอดอารมณ์ของผู้กำกับ Ang Lee ทำให้ดูได้จนจบอย่างไม่มีเบื่อ (ทั้งที่อยากจะละสายตาบ่อยครั้ง แต่มีแรงดึงดูดให้ดูต่อได้เรื่อยๆ) การได้เห็น Will Smith ต่อยตีกับตัวเองเป็นสิ่งที่ดูสนุกและเห็นชัดว่าพระเอกไม่ได้เก่งกาจเสมอไป แม้ร่างกายจะชราตามวัย แต่ประสบการณ์การอยู่รอดไม่ลดลงไปเลย
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj-IvY-sraoTiW-gjTaSKuQeH80XymuTnWYjROAwlETmCCfY6QNnK4XogpEYzF2WsoCgcFSFk0lelRmypmw3x0vR7J3PWeolETY9DFU4TdXGnyaYYo-pC2koY3f6KJhvjz4N0VkRZHmy3A/w470-h640/gemini_man_ver5_xlg.jpg)