The Call of the Wild (2020) เสียงเพรียกจากพงไพร

The Call of the Wild (2020) | เสียงเพรียกจากพงไพร
Director: Chris Sanders
Genres: Adventure | Drama | Family
Grade: B

เรื่องราวการผจญภัยเป็นของสุนัขพันธุ์เซนต์เบอร์นาร์ด ชื่อว่า"บั๊ก" เริ่มตั้งแต่อยู่บ้านหลังใหญ่ในครอบครัวที่อบอุ่นจนไปถึงแดนหิมะที่หนาวเย็น สิ่งเห็นในช่วงแรกคือการเป็นสุนัขที่เอาแต่ใจรักสนุก เป็นที่รักใครหลายคน แต่ความขี้เล่นเกินขอบเขตสร้างความลำบากใจบ่อยครั้ง ซึ่งนั้นทำให้โดนทำโทษนอนนอกบ้านก่อนจะถูกจับไปขาย แล้วส่งต่อไปเรื่อยๆจนกลายเป็นสุนัขลากเลื่อนส่งจดหมาย


มีความรู้สึกแปลกในตอนแรกเพราะสุนัขที่ใช้เป็น CGI ต่อให้แนบเนียนแค่ไหนก็ยังไม่เหมือนของจริงอยู่ดี แต่พอได้ดูไปสักพักเกิดอาการชินในความปลอม เริ่มรู้สึกสนุกในสิ่งที่เกิดขึ้นจริงได้ยาก หรือไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลย โดยเฉพาะกิริยาท่าทางที่เหมือนหลุดมาจากการ์ตูน มีความทะเล้น น่าสงสัย ตื่นตัว และอื่นๆ แต่ทั้งหมดไม่ถึงกับหลุดเกินหน้าเกินตาความเป็นจริงที่ต้องประกบคู่กับคนจริงๆ

การเล่าเรื่องจะใช้วิธีการบรรยาย ซึ่งหนังบางเรื่องเลือกวิธีแปลภาษาสัตว์หรือให้สัตว์พูดได้ ซึ่งคงไม่เหมาะเท่าไรหากเป็นเช่นนั้น เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ละอย่างล้วนมีความหดหู่และน่าสงสาร ต้องเผชิญชะตากรรมหลายอย่างที่เจ็บปวด การที่ไม่รู้ว่าคิดอะไรจึงเป็นคนเล่าที่คุมเรื่องทั้งหมด ทำให้มุมมองที่เครียดและกดดันกลายเป็นนิทานสอนใจให้รู้จักกับชะตากรรม ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแย่ๆจะเกิดขึ้นทุกครั้งเสมอไป


"บั๊ก"มีมิติที่ด้านเดียวมากไปหน่อย ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่หลากหลาย จากนิสัยรักสนุกไม่หยุดนิ่งกลายเป็นประเภทนิ่งเฉย มีความอดทนอดกลั้น การปรับตัวเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเหมือนสะสมประสบการณ์มานักต่อนัก ความไม่ประติดประต่อข้ามฉากไปอย่างรวดเร็วทำให้บางจุดดูหละหลวม คงไว้เพียงแก่นเรื่องหลักที่ขาดปลีกย่อยหลายประเด็น

สงสัยเกี่ยวกับนักแสดง Harrison Ford ที่ดูจะเป็นตัวละครสำคัญ ทว่ากว่าจะมีบทบาทชัดเจนก็เข้าสู่องค์สุดท้ายของหนังแล้ว แล้วดูจากปมที่มีอยู่ในใจจึงเห็นว่าตัวละครนี้มีหลายอย่างซ่อนอยู่ แน่นอนว่าปมนั้นได้อธิบายถึงการสูญเสียคนรัก กระนั้นขาดความหนักแน่นที่พอจะเชื่อว่าการมาอยู่คนเดียวมีแค่นี้ ดังนั้นจึงไม่รู้สึกคล้อยตามกับตัวละครนี้สักเท่าไร เผลอๆตามสูตรสำเร็จด้วยสิ


The Call of the Wild (2020) ดูแบบสนุกก็คือสนุกและได้ข้อคิดไม่น้อย แต่ด้วยความที่ข้ามประเด็นหลายอย่างไปจำนวนมาก ทำให้เกิดข้อสงสัยในสิ่งที่ไม่กระจ่างหลายข้อ โดยเฉพาะวิญญาณหมาป่าสีดำปรากฏกายเฉพาะเวลาคับขันหรือจุดเปลี่ยนของชีวิต นัยยะที่ชัดเจนคงไม่ต่างกับบรรพบุรุษที่มาชี้นำวิถีชีวิต แต่หากจะจัดเต็มในรายละเอียดจริงๆคงลากยาวไม่ต่ำกว่า 2 หรือ3 ภาค บางทีคิดว่าดูเอาพอผ่อนคลายให้ตัวเองรู้สึก Feel Good ก็ใช้ได้อยู่นะ

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)