![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhbkoe1hnNRCTswIqoHNBTe5oNs7vfYSrMPVnHWqq-BcmzkCKBvvs6LShhBeMo2DafeQj3Ht6kanX2oJevqLzR0ZUy7L74-d-XfoNPMLBGQeJ4XwW_TXLgdF2tUjMFfGYsSAoUQUSLBPkg/w440-h640/godzilla_king_of_the_monsters_ver11.jpg)
Godzilla: King of the Monsters (2019) | ก็อดซิลล่า 2: ราชันแห่งมอนสเตอร์
Director: Michael Dougherty
Genres: Action | Adventure | Fantasy | Sci-Fi
Grade: B+
"เสมือนได้ดูภาคเก่าๆของโกจิร่าที่รวมไว้ที่ภาคนี้ที่เดียว"
ตอนดู Godzilla (2014) ค่อนข้างประทับใจอยู่หลายส่วน โดยเฉพาะการทำให้ก็อดซิลล่าเป็นที่น่าจดจำด้วยรูปลักษณ์และความหมายที่ต่างจากเดิม เดิมทีก็อดซิลล่าคือสิ่งมีชีวิตที่โดนลูกหลงจากระเบิดนิวเคลียร์ ประหนึ่งสัญลักษณ์ที่น่ากลัวของชาวญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ครั้งนี้ทำให้ดูผิดจากเดิมเพราะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดำรงอยู่มาก่อนในอดีตกาล ระเบิดนิวเคลียร์จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อฆ่าก็อดซิลล่า แม้ในความเป็นไปได้จะชอบฉบับญี่ปุ่นมากกว่า แต่อย่างน้อยก็หลุดจากเค้าโครงเดิมๆสักที
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg-MmYaFYEraPBIZ7JG9zLzyG8biQZLULvoEBqnKmDFn-kt-H66cfhayQYGNF1o6AB3Pmelpl0PwA4JX0_bbLOd-5GGCJfdLwq1-ui2LO_b-V8ktnRIUrVnamdDhCtPcC9PiSnJ2h3oNfY/w640-h280/GKM-FP-180r.jpg)
เสียงบ่นในภาคแรกเกี่ยวกับก็อดซิลล่าที่ปรากฏตัวน้อยเหลือเกิน มีไม่กี่วินาทีก็จากไปแบบนี้หลายฉาก แต่มองในแง่การเผชิญหน้าเป็นครั้งแรกเป็นสิ่งที่น่ากลัว ราวกับฝันร้ายได้เกิดขึ้นจริงต่อหน้าต่อตา ซึ่งหลังจากนั้นจะเป็นยังไงไม่อยากเห็นอีก ดังนั้นทุกฉากจะจบลงด้วยสภาพบ้านเมืองเสียหาย ทุกอย่างพังพินาศเพราะการปรากฏตัวไม่กี่อึดใจ เห็นได้ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเพียงชั่วขณะยังร้ายแรงขนาดนี้ ถ้าอยู่นานกว่านั้นจะขนาดไหน คำถามนี้จึงเสมือนสร้างมาเพื่อให้ภาคนี้ให้คำตอบ
เทียบกับภาคแรกที่เห็นชัดคือการที่ทั้งโลกไม่ได้มีเพียงสัตว์ประหลาดร่างยักษ์เพียงแค่ตัวหรือสองตัว หากมีมากกว่านั้นนับสิบๆตัว ซึ่งทุกตัวอยู่ในสภาพจำศีลและได้รับการดูแลจากหน่วยงานที่ชื่อ"โมนาร์ช" ทว่าการดูแลก็ไม่อาจมั่นคงได้เสมอไป เมื่อ โจนาห์ อลัน (Charles Dance) หัวหน้าผู้ก่อการร้ายเข้ามายึดอุปกรณ์ที่ชื่อ"ออการ์" ซึ่งอุปกรณ์ชิ้นนี้สามารถปรับคลื่นความถี่เพื่อใช้สื่อสารกับสัตว์ประหลาด อีกทั้งจับตัว ดร.เอ็มมา (Vera Farmiga) กับ เมดิสัน (Millie Bobby Brown) ลูกสาวไปด้วย
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi8cJXG7wibEEcUnzNruNsYNMKckj3zO4Em8VuvSz2tgCWTLcMIRZ1HWsQinB89dG8t0lIu6ghiPS1ui5OZzE0_VjpEhuLr9mCoZSYvx5C_kE6nJefgou6D-Zq30y2yC_8wqd9_Va1JM9c/w640-h282/tumblr_pc916chEbr1s4x6ylo8_500.gif)
พล็อตเรื่องดูไม่ยากและพยายามใส่ความเข้มข้นตลอดทั้งเรื่อง จับประเด็นตีโจทย์มากมายให้มีสาระ พยายามเชื่อมทุกอย่างที่ภาคแรกพูดเพียงน้อยนิดให้มากขึ้นอีกหลายระดับ โดยเฉพาะเรื่องของก็อดซิลล่าที่เริ่มจะมีต้นกำเนิด รวมไปถึงการตีความและให้ความหมายกับสัตว์ประหลาดตัวอื่นๆ เช่น คิงกิโดร่า ม็อธร่า และโรดัน ฉะนั้นทั้งชื่อและประวัติจะไม่ใช่สิ่งที่ตั้งกันมาลอยๆ แต่มีตำนานที่อ้างอิงถึงอยู่จริง ประเด็นเหล่านี้เองทำให้เรื่องราวดูยิ่งใหญ่และไปไกลมากขึ้น
มีหลายอย่างทำได้ผิดคาดอยู่ไม่น้อย ซึ่งคำว่าผิดคาดอย่างแรกคือความเพลิดเพลินของแฟนๆที่ติดตามหนังก็อดซิลล่าตั้งแต่ภาคแรกฉบับญี่ปุ่นปี 1954 ตลอดจนเรื่อยมา ซึ่งคนทั่วไปดูไปจะมองไม่เห็นรายละเอียดที่หนังใส่ หรือเห็นก็มองเป็นส่วนหนึ่งของภาคนี้เท่านั้น แต่แท้จริงอัดแน่นไปด้วยการระลึกถึงภาคก่อนๆเอาไว้มากมาย ในที่นี่ขอเน้นคิงกิโดร่า เนื่องจากเป็นตัวร้ายหลักและแข็งแกร่งที่สุดของเรื่อง
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg56X8OAb2aoYzvGaIPyy0WiWDS1Wg0WrZnrbII-IjYgJi2x9LVv_8EAjqVV4pVcoMcSZaYxF9cOClQsfkeg0r9VdnuaSK1F-MVj7LVz9bSD3TW5ooCs7FjqHv5zf4OyMYwH6uj9PX1pDA/w640-h268/ghidorah.jpg)
คิงกิโดร่าในภาคนี้ถูกปูทางให้เป็นสัตว์ประหลาดถูกจำศีลในน้ำแข็งแถบขั้วโลก อีกทั้งก่อนจะมีชื่อของตัวเองก็มีนามแฝงว่า"ซีโร่" จากชื่อนี้เองทำให้นึกถึง Godzilla vs. Monster Zero (1965) อีกทั้งความแปลกของคิงกิโดร่าที่ไม่เหมือนสิ่งมีชีวิตอื่นบนโลก ทำให้เป็นเอเลี่ยนสปีชีส์ที่อาจมาจากนอกโลก ซึ่งดั้งเดิมตัวละครนี้ส่วนใหญ่อยู่คู่กับกลุ่มเอเลี่ยนที่หมายยึดครองโลกตามภาคต่างๆ เช่นเดียวกับการปรากฏตัวครั้งแรกใน Ghidorah, the Three-Headed Monster (1964)
นอกจากนี้ความร้ายกาจของคิงกิโดร่าที่หลายคนบอกว่าคือกระสอบทราย(แพ้บ่อย) อันที่จริงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ก็อดซิลล่าจะสู้แบบตัวต่อตัวแล้วชนะ ไม่ว่าภาคไหนก็ตามต้องมีมากกว่าหนึ่งอยู่เสมอถึงจะพอเอาชัยได้ ทำให้นึกถึง Destroy All Monsters (1968) ที่ต้องช่วยกันรุมต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายกว่าจะคว่ำคิงกิโดร่าลงได้สำเร็จ นอกจากนี้ยังเป็นภาคที่รวมเหล่าสัตว์ประหลาดเอาไว้มากที่สุดอีกด้วย
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjuNc_iaMGQgpY4kngEeJvosbUYjZRCkOHzyfXRrDxTTP8yTZOr30fRNVLQmaaC6OicRUENFBX1mM_cAiH8UEKlP4Xij7VPcH22ucUdiknI8RABr5qDldUoY7Rjc9EE5Hy_lYjPMNxwPpY/w640-h268/giphy.gif)
แต่คิงกิโดร่าไม่ใช่ตัวร้ายเสมอไปทุกภาค แต่จะมีอยู่ภาคหนึ่งที่มาพร้อมกับการตีความที่ต่างไปจากเดิม นั้นคือ Godzilla, Mothra and King Ghidorah: Giant Monsters All-Out Attack (2001) โดยเนื้อเรื่องจะเป็นภาคต่อของก็อดซิลล่าภาคแรกปี 1954 ที่พูดถึงก็อดซิลล่าอีกตัวที่ปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมความอาฆาตแค้นที่เชื่อว่าเกิดจากเหล่าทหารที่ตายในสงคราม ดังนั้นสถานะของก็อดซิลล่าจึงเป็นตัวร้ายโดยสมบูรณ์ ขณะที่คิงกิโดร่าคือเทพที่หลับใหลที่ออกมาปกป้องการทำลายบ้านเมือง
นอกจากนี้ยังมี Godzilla vs. King Ghidorah (1991) และ Godzilla: Final Wars (2004) ที่คิงกิโดร่าปรากฏตัวและเป็นคู่ปรับให้กับก็อดซิลล่า ซึ่งทั้งสองต่างมีพล็อตคล้ายกันและมาในลักษณะเดิมคือกลุ่มเอเลี่ยนต่างดาวที่หมายยึดครองหรือทำลายโลก
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEisi1pgkZD6_ckq7OgqR7hKWZS4mM-04h9Y3E8EWpYH56efMP0j6mebJ8xwFZe6HENiovP0XiZtN3_BI_4gZg7sbbWBwpg0LbiY3OMnVfI8hhitcJ2bUh5lj6N6FQc9zLbgoPVkPOVovgs/w640-h264/2756c1525195526c17fac8e1b246b0541027a8a6r1-800-330_hq.gif)
ต้องยอมรับว่า Godzilla: King of the Monsters หยิบเล็กผสมน้อยในทุกภาคที่มีมาตั้งแต่ต้นเกือบครบทุกภาค ย้ำว่าเกือบเอามาหมดจริงๆ แม้บางจังหวะจะใส่เข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัวก็ดูรู้ว่าอิงจากภาคไหน เช่น ระเบิดออกซิเจนที่เคยฆ่าก็อดซิลล่ามาแล้วใน Godzilla (1954) การแผ่รังสีนิวเคลียร์ที่เกินขีดจำกัดจนก็อดซิลล่าเปลี่ยนเป็นร่างสีแดงใน Godzilla vs. Destoroyah (1995) และภาคอื่นๆที่บอกเอาไว้ข้างต้นและอีกบางภาคที่ขอให้ค้นหากันเอาเอง(บอกหมดจะเป็นการสปอยล์)
การเข้าถึงแฟนๆก็อดซิลล่าจัดมาให้ครบจนบางครั้งก็ดูเน้นไปทางนั้นมากเกินไป ในส่วนของสัตว์ประหลาดทำได้อลังการและจัดเต็ม แต่ฝ่ายมนุษย์ที่เสมือ ลูกหลงทำอะไรไม่ได้นอกจากติดตามดูการต่อสู้ กระนั้นยังพยายามใส่บทสนทนาและปริศนาให้สถานการณ์ดูเครียดและลุ้นตลอดเวลา ที่เป็นปัญหาคือขาดมิติเรื่องครอบครัวที่พูดถึงความสัมพันธ์เพียงบอบบางและจบลงแบบง่ายๆ ฉะนั้นต่อให้นักแสดงช่วยแค่ไหนก็เป็นจุดอ่อนของหนังที่เห็นชัดเจนอยู่ดี หวังว่าใน Godzilla vs. Kong (2020) ภาคถัดไปที่หยิบคิงคองยักษ์ใน Kong: Skull Island (2017) มาร่วมในหนังจะให้ความสำคัญกับฝ่ายมนุษย์ให้มีมิติและสมเหตุสมผลมากกว่านี้
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgXsreqnP4l0i5Jy37iYbR2vYVJPgH0OxlkpVpOJX0nqeAgVxpApmKC1sPnWwpodk8uMHABuUIl-vJKgprhevCIkajhXT5PVNxZmkMA8FnRXeVsHyeet7CYwfcF6CXvD3h6h29u6m-fTKw/w426-h640/861ced3dc3fb027ed8839ae13f5b6dfe.jpg)