Ao oni ver. 2.0 (2015) | C+
Director: Hideaki Maekawa
Genres: Sci-Fi | Thriller
ภาคแรกไม่ได้ทำไว้ดีสักเท่าไร อาศัยว่าหนังยาวแค่ชั่วโมงเดียว ทำให้การทำเวลาค่อนข้างเร็วและต่อเนื่อง แต่เสียเรื่องปมตัวละครที่วางไว้จืดจางไปหน่อย ดังนั้นภาคต่อจึงทำการแก้ไขจุดนั้นด้วยการเติมความสัมพันธ์ของตัวละครให้ซาบซึ้งยิ่งขึ้น พร้อมกับอัพเดทแพทช์ให้มีความท้าทายยิ่งกว่าเก่า
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg2at0JPojupQ5IENDXl5yV5nivsYMiKc7rLr0LPB23dXSa2P3hhXBTuvzfZwEOfxoRuOuR8k1s6SFTxUoQiffWsFmgZj2M0giAWsk_1M-Ttzvno6KlbMR6etFlHmp-BBlAM4cnDmbOfmk16TmfI2K1XPEzDLoZKY83lVx1GBQRYHrgK3DHFWHMDIB6/w640-h360/AAAABV1wjNYJaqIc2jk621AHvwbiObHtiVY_dy7s0KY4iUeGZHCxN4y10vSeruCRbMskjwpQHCRdItoBz7mZqHc2qfiO48KC.jpg)
จะบอกว่าภาคต่อก็ไม่เชิง ในแง่ของศัพท์โปรแกรมเมอร์ที่เห็นในชื่อหนังที่ลงท้ายด้วย ver. 2.0 หมายถึงรุ่นที่ 2 หรือมีการปรับปรุงบางส่วนให้พัฒนาจากรุ่นแรก (ภาคแรก) ขณะที่บางอย่างยังคงเหมือนเดิม เช่น ชื่อตัวละครที่เหมือนภาคแรกหมด (ถ้านักแสดงคนเดิมด้วยคงคิดว่ารีบู้ทหนังใหม่แน่ๆ) สถานที่เดิม ปีศาจสีน้ำเงินตัวเดิม แต่ที่แตกต่างออกไปคือการเพิ่มขนาดของเกมที่ใหญ่ขึ้น
ภาคแรกคนสร้างเกมมาลุยในเกมเองแล้วไปต่อแบบตรงๆ ของอยู่ตรงไหนต้องไปต่อยังไงล้วนรู้หมด ขณะที่่ภาคนี้คนเขียนเกมไม่ได้เข้าร่วม แต่นั่งดูเปรียบเทียบระหว่างเหตุการณ์จริงกับในเกม (ชอบนะฉากนี้ เพราะเป็นการอธิบายว่าหนังสร้างมาจากเกม ซึ่งเกมมีลักษณะประมาณนี้แหละ) แต่เผอิญคนที่อยู่ในเกมเป็นเพื่อนสนิทกับคนเขียนเกม ทำให้พอรู้รายละเอียดต้องทำยังไงให้จบไวที่สุด ฉะนั้นวิธีเดียวคือการเล่นนอกบทหรือการโกงเกมนั้นเอง
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEit0SA6zeyI8PVx91rFJkzF-HQDfqr3VcOu6UAmkgVp36t6ctV2buvzuzdYAGkyu77EYWSEoTg6SQnsxpANWPLDbJXi79XVcRvmKD3toiqPwfvVoLnQ4am6RKnRySkgjOvyWvAspqhqtJTXagV3AANU-EIefzmh8q3LaKBD7dn1DR7MV8o123C_-ZmY/w640-h360/maxresdefault.jpg)
เอาจริงๆเนื้อเรื่องไม่เท่าไร แต่มาได้เรื่องการเพิ่มเติมในสิ่งที่ภาคแรกไม่มี ทำให้เหมือนได้เล่นเกมที่อัพเดทแล้วมีด่านใหม่ๆเข้ามา แต่ที่ต้องตบมือจริงๆคือการสร้างความสัมพันธ์ตัวละครในแบบสองแง่สองง่ามจนดูไปเกิดอาการคู่จิ้นไปแบบงงๆ (สาววายต้องชอบแน่ๆ) ทำให้ดูไม่ตึงเครียดแบบภาคแรกที่หนักไปทางสยองขวัญซะมาก
มีหลายอย่างที่ผิดถนัดจากภาคแรกจนรู้สึกว่าชอบในช่วงท้ายที่เหมือนเล่นเกมจริงๆ โดยเฉพาะการร่วมมือกันจัดการปีศาจสีน้ำเงินตัวเล็กที่กำลังขยายร่างใหญ่ขึ้น น่าเสียดายที่เวลาหนังกระชั้นชิดแค่ชั่วโมงเดียว พอลงตัวแล้วก็ไล่ไปตามสเต็ปได้ง่ายๆ หรือบางทีต้องรอ ver. 3.0 เพราะตอนจบหลัง End Credit มีเซอร์ไพรส์ที่คราวนี้แยกไม่ออกแล้วว่าอันไหนชีวิตจริง อันไหนเกมกันแน่