![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhd-zfhVdLgInNybOM1293M__pGi-6ro8l05vH_uxgZIp5NbOcjhqkSBamlvZSQhd05lV5s1t6APw7wT5Cxl0jLsU1OpDNWLHXs3_uflJh1nDR_qxiM9XT-AlPkNMmkS94-qBaN0becKWNln-Nmgoj_xwyS2TlaRYslBDNjEG953vecsoqMgF9U00594b8/w404-h640/20211124111243_The-Black-Phone-Poster.jpg)
The Black Phone (2021) | สายหลอน ซ่อนวิญญาณ | A
Director: Scott Derrickson
Genres: Horror | Thriller
แค่พล็อตก็ซื้อความอยากดูอย่างมาก เมื่อ ฟินนีย์ (Mason Thames) ถูกชายปริศนาจับตัวขังไว้สถานที่แห่งหนึ่งพร้อมกับโทรศัพท์บ้านสีดำที่พังแล้ว ทว่ามีเสียงโทรเข้าและคุยกับเขา ก่อนจะรู้ว่าคือเหล่าวิญญาณที่ถูกจับมาก่อนหน้านี้ ซึ่งกำลังสอนให้หาวิธีเอาตัวรอดและสู้กับคนที่เคยฆ่าพวกเขา
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhubRbTQc9s0-seO-AJC7fY1gvt--S09O3zi0ImNJKwObPojs22loxa9M3kgbRfW8KALQfnCRdeLfGyb8LhRwitcm8zFosdQRwaZ4WHCB0LrYQtSMzBgeF9pUkryalbTC1OC6DBhsdfa2kuYbTEO5MfsEsIM2PeeUf5K09mz_gA8AbkXbUQ7F_O8wcWw3Q/w640-h266/giphy.gif)
อาจจะหาความสมเหตุสมผลไม่เจอจากการมีผี แต่สิ่งที่เล่าคือบนโลกนี้อาจมีพลังเหนือธรรมชาติซ่อนอยู่ รวมไปถึงความศรัทธาในพระเจ้าที่อาจมอบพลังบางอย่างเพื่อช่วยแก้ปัญหาและเป็นที่พึ่งทางใจ เช่น เกว็น (Madeleine McGraw) น้องสาวของฟินนีย์ที่อยู่เคียงข้างพี่ชายเสมอ มีความเชื่อในฝันของตัวเองที่มักเกิดขึ้นจริง ทำให้ภาวนาขอพระเจ้าให้ฝันถึงพี่ชาย
ก่อนจะเกิดเรื่องลักพาตัวจะเกริ่นถึงชีวิตของเด็กที่ต้องก้าวไปเป็นวัยรุ่นและผู้ใหญ่ตามลำดับ สำหรับฟินนีย์คือลูกคนโตที่เผชิญปัญหา Coming of Age จากความกลัวที่ไม่กล้าสู้และขาดความมั่นใจ ทำให้ถูกกลั่นแกล้งอยู่เสมอ แต่โชคยังเข้าข้างที่มีเพื่อนใจสู้คอยสกัด รวมไปถึงน้องสาวที่กล้าตัดสินใจสู้กับคนที่แกล้งพี่ชายอย่างไม่สนใจความเป็นเด็กสาวตัวน้อย
การให้คนอื่นคอยช่วยเหลืออาจไม่ใช่ทุกครั้งที่โชคเข้าข้าง เมื่อเริ่มมีข่าวเด็กถูกลักพาตัวเพิ่มขึ้น จนกระทั่งในวันที่ฟินนีย์ถูกจับอย่างไม่อาจหนีรอด วันนั้นเองที่ต้องพึ่งตัวเองอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgerWSsMsfPQWg_5RgNHMkaMMo7Vlsvz9QuETUnxwFUb3ibL2zY9NO1h24T_XyCisqLdxBwVs7oU-sFs327soPW1E7ollTMnBWvfI1WXy3d-7D3TbtI3t19AgeKDhMGH258eVX1hqop9jQ24Gs-nhbXe9CcpiTqR1lD8KP9uYT325lgaxX_qJnFuwe_Ri8/w640-h266/sub-buzz-2151-1656098494-11.jpg)
“เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ”
หลังจากฟินนีย์ถูกจับคือช่วงเวลาที่หนังเล่าลุ้นระทึกเพิ่มขึ้น แต่ระหว่างนั้นได้สร้างความประหลาดจากเสียงโทรศัพท์ ซึ่งแต่ละคนที่โทรเข้ามาคือเด็กที่หายตัวและจำชื่อตัวเองไม่ได้ สิ่งที่พูดคุยคือช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต โดยเฉพาะความพยายามที่จะเอาตัวรอดของแต่ละคน
คล้ายหนังผีเพราะบรรยากาศน่ากลัว ทว่าสิ่งที่เห็นไม่ต่างจากพลังงานแฝงหรือสำนึกสุดท้ายที่ถูกขังไว้ในห้อง ทุกคนที่ตายมีความแค้นและอยากให้คนที่มีชีวิตสามารถรอดกลับไปได้ ทำให้เลือกโทรหาฟินนีย์ให้สานต่อสิ่งที่ตัวเองทำค้างไว้ ตั้งแต่ขุดรูเพื่อทะลุไปอีกฝั่ง ปีนกำแพงด้วยสายไฟเพื่อออกทางหน้าต่าง ทุบผนังที่เปราะบางเพื่อออกทางตู้เย็น เตือนภัยอันตรายจากกลอุบายที่หลอกล่อไปทำร้าย และฝึกทักษะต่อสู้ให้เข้มแข็งทั้งกายและใจ
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjxVK5eOEk6pPBdI6vCkZTiuzNWnZaZUdmk885rWO_y5RsMa_z_PLf47yTCaLeGIsPaPCCucDG2PHsZWn4Kfpn4f1mk5L-P8CJYAuiDztJMgThMP6U1BymfOyMRBj_Xyr0XZsIza-_hPpYaPyecC1B-35LUlnBUimr7h0gFnBseN0QaxfZ9HBU9WOuUNTE/w640-h268/02%20-%20O%20Telefone%20Preto%20(The%20Black%20Phone,%202021).jpg)
แม้มีผีชี้แนะวิธีหนีในรูปแบบต่างๆก็ไม่อาจสำเร็จได้ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง ทำให้สิ่งที่เห็นในไคล์แม็กซ์คือการประยุกต์ทุกอย่างมาใช้ร่วมกัน ซึ่งขอบอกว่าฉากนี้ทำได้ถึงอารมณ์และสุดขีดอย่างมาก จากเด็กขี้กลัวค่อยๆมีความกล้ามากขึ้น ก้าวข้ามขีดจำกัดตัวเองเพื่อเผชิญหน้าสิ่งที่ตัวเองหลีกเลี่ยง ช่วงเวลานั้นคือได้กำลังใจพร้อมสู้มาก
แม้บทบาทของ Ethan Hawke จะแสดงไม่มากนัก แต่ทุกครั้งที่ปรากฏกายจะมาพร้อมลีลาความโรคจิตที่ดูดี แต่หน้ากากที่ใส่สวนทางเหมือนแอบบอกเป็นนัยที่ร้ายกาจ น่าเสียดายที่มิติตัวละครไม่ลึกเท่าไรนัก กระนั้นเป็นภาพสะท้อนอย่างหนึ่งเกี่ยวกับครอบครัวของฟินนีย์และเกว็นที่ได้รับการเลี้ยงดูด้วยความรุนแรงจากการแสดงความรักผิดๆ
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgP7JPFnKKcLTEmgrh5uvtGbD7GjlBG_BESM5f14jSZJuzXWxryTV5Ohvad3EQNq0Jx8a__b2Q5rqoBtT2idQ7CNUUNKKRjycZNPj1vfIYVkU0fmDQvWKak6GJaOMO4OkDA9Dw82yMOt0dDC0ZmWv5ZdelRdskQie_n-5GJtTOcnCNk0NyL9ef55nMKhy8/w640-h266/the-black-phone-movie-stills_Vfea1JE.jpg)
ฟินนีย์และเกว็นคือสองพี่น้องที่อยู่กับพ่อ (Jeremy Davies) ซึ่งมีระเบียบค่อนข้างสูง แม้จะปล่อยให้เล่นตามประสาเด็ก ทว่าเมื่อทำผิดหรือแปลกไปจากเดิมจะคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ ฉากที่แสดงถึงการสั่งสอนด้วยความรุนแรงคือการใช้เข็มขัดฟาดไปที่หลังของเกว็น สาเหตุจากการเล่ารายละเอียดการหายตัวไปของเด็กคนอื่นเพราะมีอยู่ในความฝัน ซึ่งตรงกับข้อมูลที่ตำรวจมี เมื่อพ่อรู้เรื่องจึงห้ามพูดถึงความฝันเพราะไม่ใช่เรื่องจริง ฝันคือฝันเท่านั้น ห้ามเพราะกลัวเหมือนภรรยาที่ทำตามความฝันจนฆ่าตัวตาย
การแสดงถึงความรักด้วยความรุนแรงผ่านการฟาดเข็มขัด ไม่ต่างกับการดักรอฟินนีย์ที่หนีเมื่อไรจะโดนจับฟาดเมื่อนั้น ถ้าอยู่ในกรอบถึงจะรอด แต่ใครจะอยู่ในกรอบที่น่าอึดอัดได้ ดังนั้นเกว็นจึงเหมือนอีกด้านของฟินนีย์ที่พร้อมกล้าลุยกล้าเสี่ยง แม้จะเจ็บก็พร้อมรับแต่โดยดี
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjQi7QGInj1qjGyOhgf7E1X14TUmrFZEvmebm4Iz9kW84x9RRLhl_1_xAN7m9JRI4_VjmR6jgxfQpdvE5rUF2v-zAKfrKDMa3MdCqdncrILqRAt23KGuDPzbeyUPk0MQDP5azJiQKCWiROh5r7UZ532-IPZsoWODAtGurokYMh-jr0Ewj_hXpzxMNVb-Vs/w640-h266/The-Black-Phone.png)
การดักรอให้ฟินนีย์หนีคือความต้องการหาความสนุกและหาข้ออ้างใช้ความรุนแรง ซึ่งจับมาทรมานทันทีคงกระทำอย่างไร้อารมณ์ แต่ถ้าจัดการตอนที่เหยื่อดิ้นรนจะถึงใจที่ได้ลงมือมากกว่า กระนั้นมองย้อนกลับไปแล้วยังไม่มีฉากไหนรุนแรงเท่าพ่อตีลูกด้วยเข็มขัด มีทั้งความเจ็บปวดและสับสน รุนแรงที่สุดของเรื่องทั้งที่ไม่ใช่ผู้ร้ายให้ตำรวจไล่จับ
สำหรับ The Black Phone (2021) ใช้บรรยากาศยุค 70’s ที่ไม่ได้เห็นบ่อยเท่าไรนัก พอเป็นยุคที่ไม่คุ้นเคยจึงรู้สึกแปลกบรรยากาศ ชอบการทำภาพให้ดูเก่าชวนหลอนในบางจังหวะ ความไม่คุ้นเคยทำให้ทุกอย่างน่าติดตาม คงไม่แนะนำอะไรไปมากกว่าต้องดูให้ได้นะ
ปล. คนร้ายในหนังได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Ted Bundy, John Wayne Gacy และ Jeffrey Dahmer ซึ่งทั้งหมดเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่สร้างชื่อเสียงสะเทือนขวัญไปทั้งประเทศ
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjWiBbdnpJbJU5Er6f0LeytYiqQq4YypaVykkyFX4Amm1JjKE-q5ukIZENGIzVqwpkvWeX6_bigo0yWKo6ingpF592QqdddM_cQBJBuYf-YrXcQF0tp89L8L7bFFfnYmaAdQyUNS4LJ6bty5zdX1Y-Noqe0bK8N1nQUG_I3Rhv24bJKFA4Sj1C0CvsUpo8/w426-h640/the-black-phone-2021-01.jpg)