Tomboy (2011) ทอมบอย

Tomboy (2011)
ทอมบอย
Director: Celine Sciamma
Genres: Drama

เด็กน้อยคนหนึ่งที่ปลูกฝังการเลี้ยงดูอย่างใกล้ชิดจากคุณพ่อมากกว่าคุณแม่ เด็กคนนั้นชื่อลอรา (Zoe Heran) ครอบครัวนี้ได้ย้ายบ้านมาใหม่ๆประกอบด้วยพ่อ (Mathieu Demy) แม่ (Sophie Cattani) และน้องสาว โดยแม่อยู่ในช่วงท้องแก่ใกล้คลอด ด้วยสภาพที่ไม่ชินกับพื้นที่การอยู่กับนอกสถานที่จึงเป็นความแปลกใหม่อยู่มาก และลอราก็ต้องการแสวงหาบางสิ่งที่น่าจะช่วยให้มีความสุขมากกว่าการนั่งดูแลน้องภายในห้อง มีอยู่วันนึงได้มองเห็นเด็กๆอีกหลายคนที่เล่นกันอย่างสนุกสนานมีความสุขกันมาก เธอมองไปข้างนอกเห็นแต่พวกผู้ชายทั้งกลุ่ม แต่เธอคือผู้หญิงที่อยากได้สิ่งใหม่เข้ามา นั้นคือเพื่อนสักกลุ่มที่รับเข้าไป ลอราจึงเริ่มตีสนิทคนภายในทีละเล็กละน้อยด้วยภาพลักษณ์ที่แตกต่างจากตัวตนจริงๆของเธอที่เป็นผู้ชาย ลอราไม่ได้บอกใครเรื่องชื่อจริง เพียงบอกไปว่าตัวเองชื่อไมเคิล ไม่มีใครเห็นความแตกต่างนี้จนกระทั่งเพื่อนผู้หญิงชื่อลิซา (Jeanne Disson) หลงใหลในตัวไมเคอล และมาบอกรัก


ธรรมชาติของเด็กคือการแสดงออกถึงอารมณ์รู้สึกจากก้นบึ้งของหัวใจ และนักแสดง Zoe Heran มีแววตาที่ถ่ายทอดถึงผู้ชมได้อย่างสบายตา ถ้าว่ากันโดยรวมของตัวหนังที่มีอยู่เกี่ยวกับตัวละครเหล่านี้ ทุกๆคนที่แสดงสามารถเรียกร้องความสนใจจนไม่คิดว่านี่เป็นการแสดงภายใต้การบังคับของบทบาท เพราะสิ่งที่เห็นเป็นมากกว่าอารมณ์การแสดง เป็นเรื่องเป็นราวที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างพอดี กลับมาที่ตัวละครลอราที่มีวัย 10 ขวบ มีประสบการณ์มามากต่อนักจากที่อื่นๆจนเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ต้องย้ายบ้านใหม่ ลอรามีเพื่อนอยู่เพียงคนเดียวที่ใกล้ตัว เป็นน้องสาวตัวเองที่มักจะมีความสุขที่ได้อยู่เล่นกับพี่ และนั้นเป็นเหตุของความเบื่อหรือเปล่า พิจารณาจากการเริ่มวิถีชีวิตใหม่ที่ตัวเองได้เพื่อน ทุกครั้งที่ได้เวลาลอราจะออกจากบ้านเพื่อไปเล่นกับเพื่อนข้างนอกปล่อยน้องตัวเองเอาไว้คนเดียวเป็นบางครั้ง แต่ทั้งนี้น้องของลอรากลับไม่คิดน้อยใจแต่อย่างใด เพราะมีความเคารพในตัวอยู่แล้วส่วนหนึ่ง เนื่องจากการย้ายบ้านมาจากประวัติที่ค่อนข้างไม่ดีกับลอราที่มักจะใช้ความรุนแรงด้วยดำลังตัดสิน หรือบางทีเข้าไปช่วยน้องตัวเองจากการถูกรังแก แต่เดี๋ยวก่อนลอราคือเด็กผู้หญิงไม่ใช่หรอกรึ การใช้กำลังนั้นไม่ใช่วิสัยทัศน์ของผู้หญิงที่ใจกล้าขนาดนั้นด้วยซ้ำ ทว่าความจริงที่ปลูกฝังตัวตนของเด็กได้มากที่สุดเป็นการเรียนรู้จากผู้สอน และผู้สอนคือพ่อที่ให้ทำในสิ่งที่อาจไม่เหมาะกับผู้หญิง หรืออาจจะเร็วเกินไปเพราะยังเด็ก อย่างเช่นการสอนขับรถ แม้ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จำเป็นต้องห้ามนัก ทว่าการให้เด็กขับจับพวงมาลัยอาจเป็นเรื่องที่เสี่ยงพอตัว รวมถึงการให้ชิมเบียร์โดยไม่ว่าอะไร จุดประเด็นสำคัญเหล่าเดินทางด้วยการปลูกฝังความคิดผ่านการอยากลองสัมผัส และลอราต้องการสัมผัสเรื่องที่ตรงข้ามกับเพศตัวเองด้วยการเป็นชายขึ้นมาจริงๆ


ลอรามีทรงผมที่ไม่ได้ปล่อยยาว การแต่งกายที่ค่อนอิสระเหมือนผู้ชาย รวมถึงความนึกคิดบางประการที่ตรงข้ามความเป็นหญิง สิ่งเหล่านี้เป็นข้อเท็จจริงเล็กที่ปรากฏต่อรูปโฉมของการเป็นชาย แต่ต่อให้เปลี่ยนแปลงอะไรมากแค่ไหนสุดท้ายการปรับเปลี่ยนในสิ่งที่ผู้ชายมีแต่ผู้หญิงไม่มีก็ทำไม่ได้ ซึ่งคืออวัยวะเพศที่แตกต่าง ฟังดูแรงกับหนังที่มีเด็กเป็นตัวละครเด่นทั้งเรื่อง แต่เกิดขึ้นได้อย่างทะนุถนอมแถมยังรู้สึกว่าเด็กก็ไร้เดียงสาแบบนี้แหละ ก่อนหน้านี้ลอราอยู่ใกล้ชิดกับคุณพ่อพอมาตอนนี้หลังจากได้เพื่อนกลุ่มใหม่ก็กลายเป็นว่าติดเพื่อนจนอยากเล่นไปทุกอย่างรวมถึงฟุตบอลอีกด้วย ลืมกันหรือยังว่าลอราคือผู้หญิง ตอนแรกเพื่อนๆของลอราเล่นฟุตบอลกันอย่างสนุกสนานในขณะที่ลอราได้แต่จ้องลูกฟุตบอลถูกเตะไปมาจากเพื่อนๆของเธอ ช่วงแรกความกล้าเป็นต้องบอกถึงความลังเลถึงใจของลอราว่าควรทำยังไงดีถึงจะได้เล่นกับเพื่อนๆอย่างมีความสุข อีกทางมุมมองของผู้ชายเป็นตัวแบ่งระหว่างเพศอีกด้วย ลิซาเป็นผู้หญิงที่ดูจะเลือกเล่นเป็นบางสิ่ง และเธอไม่เล่นฟุตบอล กีฬาอย่างฟุตบอลมักถูกมองด้วยภาพลักษณ์ของผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เพราะมันไม่ต้องเหนื่อยเกินไป แต่ความคิดของลอราคือการเอาใจให้ทุกคนยอมรับได้ และเมื่อยอมรับได้ การจะมีเรื่องสงสัยในตัวเธอจะถูกลืมไปทันที นั้นเป็นเหตุที่ได้เข้าร่วมเล่นฟุตบอลไปด้วย แต่ระหว่างเล่นฟุตบอลก็ใช่ว่าเป็นการบอกถึงการยอมรับในหมู่สังคมอย่างเดียว เพราะการถูกทำให้ยอมรับมาจากการเลียนแบบ ซึ่งลอราได้ทำให้ตัวเองเป็นผู้ชายมากขึ้นเรื่อยๆจนถอดเสื้อผ้าตามคนอื่นๆเพื่อเล่นฟุตบอลอย่างเนียนๆ

ก้าวแรกของการยอมรับอาจเริ่มที่การแสดงความมั่นใจ ส่วนก้าวที่สองคงเป็นเรื่องที่ทำให้ดูเหมือนผู้ชายเรื่องเพศเข้าไปอีก เมื่อมีการชวนไปเล่นน้ำ ลอราต้องหาชุดว่ายน้ำที่ทำด้วยเองกับมือจากเสื้อผ้าที่เก็บเอาไว้ แต่มันคงไม่ดีถ้าใครมองที่กางเกงในแล้วเกิดสงสัยในรูปลักษณ์ที่เหมือนหญิง ลอราจึงมีการตัดสินในการปลอมแปลงให้ตัวเองมีของผู้ชายด้วยดินน้ำมัน เราจะเห็นว่าลอราพยายามทดลองจากกระจกเพื่อพิสูจน์ถึงการปลอมตัวว่าเนียนแค่ไหน จนกระทั่งในวันที่ได้เล่นน้ำลอราสามารถทำได้ดีมากกว่านั้นหลายเท่า และเธอกลายเป็นเขาในสายตาเพื่อนๆอีกหลายคน ซึ่งลิซาก็มองว่าเป็นเช่นนั้นเสมอมา แต่ใครจะรู้ว่าความรักในวัยเด็กจะมีกับลอราที่มีคนรู้จักในนามไมเคิลจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในฐานะคนพิเศษที่ลึกลับมากกว่าสายตาที่เห็นอยู่


ความสัมพันธ์ที่ดูเป็นเพื่อนเล่นในกลุ่มได้เปลี่ยนไปจากการจูบเพียงหนึ่งครั้งที่ไม่ต้องอธิบายเลยว่าทั้งคู่เจอเรื่องอะไร เหตุการณ์นี้เป็นปรากฏการณ์ความรักในวัยเด็กที่ไม่คิดอะไรมากนอกจากความรู้สึกลึกๆในใจของลิซาที่มีต่อไมเคิล ซึ่งแน่นอนว่าการกระทำของลอราไม่ได้เป็นที่รู้กันว่าความจริงแล้วไมเคิลคือเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องการยอมรับจากโลกภายนอก ดังนั้นความรักที่มีเส้นกั้นได้เริ่มขึ้น แล้วลอราจะทำยังไงกับตัวตนไมเคิล และถ้าลอรารู้ความจริงขึ้นมาอะไรจะเกิดขึ้น ทั้งหมดนี้ผู้ชมจะได้ลุ้นอมยิ้มไปตามๆกันถึงวัยเด็กที่ปรารถนาสักครั้งหนึ่ง ได้เล่นได้สนุก มีน้องที่ร่วมหรรษา มีเพื่อนบ้านเข้ามาเล่นกันอย่างเพลิดเพลิน ได้แตะฟุตบอลโชว์ความเท่ของตัวเอง ได้เล่นสาดน้ำจากขวดน้ำที่ละเลงน้ำลงอย่างมีความสุข จนกระทั่งความสัมพันธ์ที่น่าจดจำมากมาย บางทีการมองสังคมจากภายนอกอาจเป็นการเริ่มเข้าสู่สังคมภายในที่เริ่มๆเปลี่ยนแปลงไปตามความคิดของตัวเอง ถ้าผู้ชมเป็นลอราจะเลือกเข้าหาเพื่อนใหม่หรือไม่ และจะไปในรูปลักษณ์ของตัวเองด้านใด ถ้าเลือกระหว่างตัดสินใจเลือกกับเลือกตัดสินใจจะเอาแบบไหน


Tomboy เป็นหนังที่ให้อารมณ์ได้อย่างเพลิดเพลินจากโทนที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติจากสิ่งแวดล้อมที่มากด้วยบรรยากาศของสุนทรีวัยเด็ก การดำเนินเรื่องไม่มีอะไรเกินความซับซ้อน มีมุมมองของการตีความคิดเด็กที่พยายามเอาใจตัวเองจากสังคมเล็กๆ เหมาะกับผู้ชมที่อยากได้อารมณ์ง่ายๆสนุกมีความสุข และความปรารถนาที่ดีมากมายกับแนวคิดความมั่นใจในตัวเอง เคยคิดกันไหมว่าวัยที่กล้าแสดงออกมาที่สุดอาจไม่ใช่วัยที่สมบูรณ์พร้อมทุกอย่าง แต่เป็นวัยของการริเริ่มที่ให้เวลาอีกหน่อยจะพัฒนาจนเป็นตัวเอง เช่นลอราที่กล้าแสดงออกถึงความอยากเป็นชายจนลงทุนปลอมแปลงใส่ดินน้ำมัน หรือจะอีกหลายพฤติกรรมที่มาจากความมั่นใจตัวเองทั้งสิ้น แถมไม่ได้เกิดจากความคิดของใครเป็นต้นแบบ ซึ่งนอกจากลอรายังมีลิซาที่เปิดเผยความรักตัวเองให้เห็น โดยส่วนตัวเป็นหนังที่ค่อนข้างประทับในความเป็นจริง เหมือนบทจะถูกส่งเขียนมาง่ายๆ ไม่มีอะไรที่บอกถึงความเซอร์ไพรส์ได้ แต่ที่แน่คือมันเป็นเรื่องของเด็ก มีใครบ้างที่ไม่ชอบเด็ก และใครบ้างที่ชอบเด็ก สำหรับเรื่องนี้เป็นเสมือนไดอารี่สั้นๆเรื่องหนึ่งที่เขียนอย่างบรรจง มีเว้นวรรคด้วยเรื่องราวของตัวเองกับครอบครัว เต็มไปด้วยความจริงต่อหน้าพวกเรา อะไรที่ปิดบังเราจะเห็นก่อน อะไรที่ยังไม่เกิดเราจะยังไม่รู้ก่อน อะไรที่กำลังก็จะเกิดไปพร้อมกับตัวละครเหล่านั้นอย่างชัดเจน เป็นอีกเรื่องที่สนุกแบบอมยิ้มไปกับพวกเขาและเธอเหล่านั้นอย่างเพิลดเพลิน สรุปได้ว่าเป็นอีกเรื่องที่อยากจะแนะนำให้หลายคนได้ชมกันอย่างใกล้ๆแล้วจะรสัมผัสได้ถึงความสุขจากเด็กๆเหล่านั้นได้ดี

ความมั่นใจนั้นจะเป็นเรื่องเกินตัวมากแค่ไหน ถ้าเรามองว่าเป็นเรื่องที่อยากจะบอกก็ไม่ได้หมายความเราจะกลัว ยิ่งเราอยากให้ทุกคนยอมรับตัวเรามากแค่ไหนต้องให้พวกเขายอมรับตัวเราเสียก่อน การเริ่มหามิตรร่วมโลกจำเป็นต้องเชื่อใจกันมากกว่าการเอาความเชื่อมาบังหน้าตัวเอง ถ้าเรารู้ว่าตัวเองมั่นใจจะบอกก็ไม่ต้องกลัวอีกต่อไป การกุมความลับเป็นปัจจัยของการซ่อนเร้น ถ้าอยากได้ความจริงออกมาต้องกล้าๆกันหน่อย และแน่นอนว่าความจริงไม่เคยทำร้ายใครมากกว่าการโกหก

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)