Monty Python and the Holy Grail (1975) มอนตี้ ไพธอน ป่วนจอกศักดิ์สิทธิ์

Monty Python and the Holy Grail (1975) | มอนตี้ ไพธอน ป่วนจอกศักดิ์สิทธิ์
Director: Terry Gilliam,Terry Jones
Genres: Adventure | Comedy | Fantasy
Grade: A

เห็นว่าเป็นหนังตลกที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่ง แต่การจะให้มาส่งเสียงหัวเราะตามไปด้วยอาจจะต้องยกสมองออกจากหัวกันก่อน หรือไม่ต้องยกไปไหนแค่เอามาปรับทัศนะคติกันนิดนึงเกี่ยวกับมุขต่างๆที่ต้องเจอแต่ละครั้ง เพราะอย่างแรกคือไม่เน้นเอาฮา แล้วมันจะตลกได้ยังไง? อันนี้แหละที่คิดว่าทำให้หนังเรื่องนี้ตลกโดยที่ไม่ต้องใช้มุขตลก แค่ทำให้เหมือนเป็นหนังตลกก็เท่านั้น ไม่เชื่อเดี๋ยวอธิบายให้ฟังในย่อหน้าถัดไป ส่วนอีกอย่างคือความไม่ปกติ เดี๋ยวดูไปเรื่อยๆไม่กี่วินาทีจะพบความกวน ซึ่งกวนแบบไม่มีใครที่ไหนเล่นกันและออกมาเจ๋งมากๆ


ที่บอกไม่เน้นฮาเพราะมุขแต่ละอย่างค่อนข้างฉลาดและใช้หัวคิด การจะมาบอกว่านี่คือมุขที่ต้องขำอาจจะพบเห็นได้ทั่วไป แต่ไม่ใช่เรื่องนี้เพราะถ้าจะหัวเราะต้องคิดตามไปด้วยว่าตัวละครกำลังพูดถึงอะไร ซึ่งมีครบเครื่องตั้งแต่ชนชั้นรากหญ้าไปถึงกษัตริย์และไปไกลกว่านั้นด้วยการแซวเศรษฐกิจที่ไม่น่าเป็นประเด็นสำคัญในยุคนั้น กระนั้นด้วยยุคสมัยที่นับถืออัศวินชุดเกราะและความเชื่อได้กลายเป็นมุขจี้เส้นที่นำมาแซวกันอย่างสนุกสนาน

กษัตริย์คือบุคคลสำคัญที่ปกครองประเทศ ซึ่งนั้นจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรถ้าไม่ใช่หนังเรื่องนี้หยิบประเด็นการเมืองมาล้อจนไม่เหลือภาพพจน์ ถ้าจำไม่ผิดเรื่องกษัตริย์อาเธอร์ได้ขึ้นครองบัลลังค์เพราะดาบที่ทรงพลัง


แต่ดาบนี้ได้มาอย่างไร?

แน่นอนได้อธิบายว่าดาบนี้ได้จากหญิงนางหนึ่งที่มอบให้จากในน้ำ พอหลังจากนั้นอาเธอร์ถึงได้เป็นกษัตริย์ปกครองชาวอังกฤษ แต่แล้วยังไงถ้าชาวบ้านบอกว่าท่านได้กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่เพียงเพราะมีผู้หญิงที่อยู่ในน้ำมอบดาบให้เนี่ยนะ ซึ่งไม่สมเหตุสมผลเลยเพราะใครจะมีดาบก็ได้ แล้วดาบที่ผู้หญิงให้เท่ากับเป็นกษัตริย์คือเหตุผลที่งี่เง่าสิ้นดี

ทว่านั้นยังไม่รู้สึกจุกเท่ากับการนำประชาธิปไตยมาพูดในยุคที่กษัตริย์ปกครอง หรือนี้ต้องการบอกว่าระบอบนี้ไม่ต่างกับเผด็จการ ไม่มีใครอยากให้กษัตริย์ปกครองพวกเขาถ้าไม่ได้มาจากการคัดเลือกจากประชาชน ต้องประชาชนเป็นคนตัดสินใจเลือกผู้นำ ไม่ใช่ผู้หญิงที่มอบดาบจากในน้ำแล้วให้เป็นกษัตริย์น่าตาเฉย ไม่มีเลยที่จะย้อนมาถามประชาชนว่าท่านเหมาะสมหรือไม่ ก็แค่ดาบเล่มหนึ่งจะสู้อะไรได้กับประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ แค่นั้นไม่พอเมื่อคิดใช้คำสั่งให้เชื่อฟังก็กลายเหมือนใช้กำลังบังคับ สุดท้ายใครจะเหนือกว่าประชาชน(ถ้ากล้าคิดกล้าทำ)


โดยส่วนตัวเป็นหนังตลกที่มีมุขไม่ตลก แต่บางทีดันตลกมาซะดื้อๆจนกลายเป็นหนังเบาสมองลอยไปไหนแล้วไม่รู้ ในทางกลับกันความตลกได้แสดงความจริงจังด้วยการล้อเลียนต่างๆนาๆในแบบที่ไม่มีการเล่นมุขซ้ำ อะไรหลายอย่างจึงดูสดใหม่ ซึ่งไม่แปลกใจที่ได้มือเขียนบท อันได้แก่ Graham Chapman,John Cleese,Eric Idle,Terry Gilliam,Terry Jones และ Michael Palin โดยพวกเขาทั้งหมดมาร่วมเล่นในหนังที่ไม่ซ้ำบทบาท บางคนพากย์ บางคนตัวประกอบ บางคนเป็นตัวหลัก ไม่รู้ว่าแบ่งหน้าที่กันยังไงแต่ลงตัวเหลือเชื่อ

ตัวละครมีความเพี้ยนอยู่ตลอดเวลา แต่พอเป็นคนปกติจะจริงจังเกินเหตุ แถมบางตัวพูดมากใส่คำหยาบคายรัวเป็นชุด ที่เซอร์ไพรส์คือการสอดแทรกฉากแอนิเมชันในจังหวะเล่นท่ายากให้ออกมาดูง่ายและสนุกแปลกใหม่ และเซอร์ไพรส์ไปอีกขั้นด้วยการใส่องค์ประกอบที่ไม่เข้าพวกแต่เนียนตามเนื้อกันไป เช่น กระต่ายที่แสนน่ารัก แต่สามารถกระโดดฆ่าคนได้อย่างน่าสยดสยอง อัศวินชุดดำเฝ้าทางเดินที่ไม่ยอมให้ใครผ่านไปง่ายๆยกเว้นต่อสู้ชนะเสียก่อน ซึ่งผลลัพธ์ช่างเกินคำบรรยายกับอัศวินคนนี้จริงๆ และอีกหลายอย่างที่ขยันคิดขยันทำชวนหลุดโลกเสียนี่กระไร


Monty Python and the Holy Grail คือหนังตลกที่ยอมว่าตลกจริง แต่จะให้ตลกแบบยิงมุขแล้วฮาในทันทีคงไม่ใช่ มีหลายอย่างต้องคิดต้องวิเคราะห์เพราะมุขบางอย่างทำเพื่อล้อเลียนบ้างแซวบ้างและแต่สถานการณ์ ในทางกลับกันด้วยมุขต่างๆที่ค่อนข้างซับซ้อนมีการพูดถึงนู้นนี้นั้น ทำให้ไม่สามารถดูเพื่อความบันเทิงโดยไม่คิดมากหรือไม่เข้าใจในมุขว่าตลกอย่างไรย่อมเกิดขึ้นแน่นอน เช่นเดียวกันบางครั้งดูง่ายเกินไปจนไม่สมเหตุสมผลเพียงพอให้หัวเราะ ทั้งนี้ทั้งนั้นยอมรับในความกวนที่นำไปสู่มุขทีเด็ดมากมายที่สุดแล้วแต่ผู้ชมจะรับได้หรือไม่ได้ ถ้าเข้าใจคือตลกแน่นอน แต่ถ้าไม่เข้าใจจะกลายเป็นหนังปัญญาอ่อนทันที(นี่พูดจริง ไม่งั้นจะมีลูกบ้าขนาดนี้เลยเหรอ)

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)