Jumanji: The Next Level (2019) เกมดูดโลก ตะลุยด่านมหัศจรรย์

Jumanji: The Next Level (2019) | เกมดูดโลก ตะลุยด่านมหัศจรรย์
Director: Jake Kasdan
Genres: Action | Adventure | Comedy | Fantasy
Grade: B+

ความบันเทิงที่ได้ใน Jumanji: Welcome to the Jungle (2017) คือความสนุกที่ส่งตรงถึงผู้ชมได้อย่างถึงอารมณ์ มีการจำลองเกม ตัวละคร และรูปแบบต่างๆที่เข้ากับยุคสมัย ทำให้ Jumanji (1995) ที่ทำเอาไว้ในภาคแรกได้ฟื้นคืนชีพอีกครั้งในรอบ 27 ปี แล้วเมื่อความสำเร็จทุกอย่างพร้อมใจก็ไม่ลังเลทำภาคต่อ ซึ่งแน่นอนยังสนุกและประทับใจเช่นเคย


สำหรับเนื้อเรื่องยังใช้ตัวละครเดิมที่เคยหลงเข้าไปในเกมจูแมนจี้ ทว่าตอนนั้นเป็นความบังเอิญเพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังกด Play game ประเด็นการสานต่อให้กลับสู่โลกจูแมนจี้อีกครั้งจึงมาพร้อมกับปมตัวละคร ซึ่งปมดังกล่าวถูกนำมาเปรียบเทียบระหว่างโลกความเป็นจริงกับโลกของเกม เมื่อใครคนหนึ่งเริ่มรู้สึกชีวิตจริงนั้นอ่อนแอ แต่ในเกมนั้นสามารถทำได้ทุกอย่าง ทำให้อยากกลับไปสัมผัสความรู้สึกนั้นอีกครั้งเพื่อชดเชยสิ่งที่ตัวเองขาดหาย ภาคที่แล้วการวางปมจะไม่จริงจังเท่าภาคนี้ เนื่องจากมีการวางตัวละครผู้ใหญ่เพิ่มเข้ามาร่วมผจญภัย แต่ปัญหาอยู่ที่ความสุ่มเสี่ยงต่อความน่าเบื่อของตัวละครที่ไม่ทันสถานการณ์ คือสิ่งที่เห็นได้ชัดระหว่างคนแก่กับวัยรุ่นเป็นยังไง ซึ่ง Danny DeVito และ Danny Glover คือนักแสดงที่อายุมากทั้งคู่ ต้องรับบทเป็นคนแก่ที่ใช้ชีวิตในบั้นปลายสุดท้ายที่น่าเบื่อ โดยทั้งคู่มีเรื่องบาดหมางบางอย่างจนแยกทางจากกัน แต่กลายเป็นว่าต้องเจอกันด้วยเหตุผลบางอย่าง


Jumanji: Welcome to the Jungle (2017) ได้สร้างรูปแบบโลกของจูแมนจี้ให้เป็นเกมที่ทันสมัย มี Life point และ Skill ไม่ใช่เกมกระดานลุ้นเสี่ยงโชคด้วยการหยิบการ์ดหรือเดินไปที่ช่องพิเศษที่พร้อมจะให้โชคดีและร้ายได้ นับเป็นความสดใหม่เลยก็ว่าได้ แล้ว Jumanji: The Next Level (2019) จะทำยังไงให้ต่างเพื่อเรียกความสดใหม่อีกครั้ง อันที่จริงการเข้าสู่โลกของเกมไม่ใช่เรื่องที่ใหม่ซะทีเดียว ไม่ต่างกับการข้ามมิติหรือข้ามเวลา ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ของจริง ฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างจึงเกิดมาเพื่อขัดแย้งเพื่อห่างจากโลกความเป็นจริง เดี๋ยวสถานที่นี้เป็นป่า อีกเดี๋ยวเป็นทะเลทราย อีกหน่อยเป็นหมู่บ้าน มีหลากหลายฉากราวกับเล่นเกมที่จบด่านใหญ่จะเปลี่ยนเป็นอีกสถานที่หนึ่ง ซึ่งในแง่ความคิดสร้างสรรค์ไม่ถึงกับใหม่เพราะมีกลิ่นอายภาคก่อนพอสมควร


เช่นเดียวกันกับนักแสดงที่ใช้คนเดิมชุดเดิม ซึ่งคงจะดีกว่าหน่อยถ้ามีการปรับปรุงชุดตัวละคร (แต่ชุดผจญภัยเดินป่าจะมีสักกี่แบบกันเชียว) แม้หลายสิ่งจะเหมือนเดิมจนดูซ้ำอยู่บ้าง ทว่าคาแรกเตอร์ไม่เหมือนกัน เนื่องจากคนที่สวมบทบาทตัวละครในเกมจูแมนจี้ไม่ใช่คนเดิม ทำให้เห็นบุคลิกที่ผิดจากภาคก่อน สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นจึงเป็นการตัดสินใจที่มีมิติคนละแบบ การเลือกนักแสดงมาเป็นตัวละครเกมจูแมนจี้ยังเป็นที่ชื่นชอบเช่นเคย ไม่ว่าจะ Dwayne Johnson, Kevin Hart, Jack Black และ Karen Gillan ซึ่งต่างคนต่างมีทีเด็ดและเอกลักษณ์ของตัวเองต่อให้คนสวมบทบาทจะไม่ใช่คนเดิมก็ตาม และที่เพิ่มมาคือ Awkwafina รับบทเป็นตัวละครใหม่ในเกมที่ไม่ใช่ทีมสำรวจผจญภัย แต่เป็นตีนแมวนักย่องเบาพร้อมงัดแงะได้ทุกสิ่ง


คอนเซ็ปต์เหมือนเดิมเกือบทุกอย่าง มีเปลี่ยนไปคือการผจญภัยที่แตกต่างจากเดิมและเติมแต่งเรื่องราวให้เป็นเกมวางแผนมากกว่าลุยเพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะฉากสนทนาที่ต้องคิดดีๆว่าจะตอบยังไง เพราะสิ่งที่ตอบไปนั้นจะแทนด้วยฉากที่เกิดขึ้นในลำดับถัดไป หากตอบไม่ดีสามารถทำให้เกมโอเวอร์เพราะตอบคำถามผิด เป็นช่วงชิงไหวพริบของคนที่เล่นเกมแบบมีตัวเลือกที่ต้องระมัดระวังในคำตอบ

นอกนั้นไม่มีอะไรสักเท่าไร มีความบันเทิงที่สนุกกันอยู่แล้ว มีลูกเล่นปรับเพิ่มนิดหน่อยเพื่อไม่ให้ซ้ำกับภาคก่อนมากเกินไป หากจะให้ดูข้อเสียเห็นจะเป็นเรื่องของคนเล่มเกมที่ไม่รู้ว่านี่คือโลกของเกม มิหนำซ้ำยังเป็นคนแก่ที่มีความเข้าใจในเทคโนโลยีต่ำ ดังนั้นการฟังตัวละครบ่นและพยายามปรับความเข้าใจแบบผิดๆจึงน่ารำคาญพอดู (แต่บางทีฮาเหมือนกันนะ สไตล์ความคิดคนแก่ที่เหมือนจะเข้าใจ) แต่พอทุกอย่างเข้าที่เข้าทางจึงเป็นช่วงที่เคลียร์จากผู้เล่นฝึกหัดมาเป็นผู้เล่นโปร

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)