The Guilty (2018)

The Guilty (2018)
Director: Gustav Möller
Genres: Crime / Drama / Thriller
Grade: A+

ทั้งเรื่องไม่ต้องคาดหวังเห็นอย่างอื่น มีแต่ตำรวจคอยรับสายจากผู้ร้องทุกข์ บางครั้งและเกือบทุกครั้งต้องสื่อสารด้วยความใจเย็น จะถามจะคุยแต่ละครั้งต้องรองรับอารมณ์ที่ไม่แน่นอน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายมากเสียงหลากนิสัย สำหรับอาชีพหรือตำแหน่งทาง Emergency Call ถือเป็นอาชีพใช้ความอดทนและไหวพริบพอสมควร ซึ่งหนังเรื่องนี้จัดว่าเครียดและอึดอัด เพราะนอกจากสื่อสารผ่านเสียงแล้วทำอย่างอื่นไม่ได้เลย มีแต่คุยมาคุยกลับโดยไม่รู้สิ่งที่เกิดขึ้นข้างนอก


Jakob Cedergren รับบทเป็นตำรวจที่คอยรับสายผู้ร้องทุกข์ที่ติดต่อเข้ามาผ่านเบอร์ฉุกเฉินสากล 112 ซึ่งการแสดงค่อนข้างนิ่งและใจเย็นสมกับอาชีพของตัวละครที่ต้องใช้ความอดทนสูง ทว่าระหว่างที่เห็นการคุมอารมณ์ให้ตัวเองคงที่ สิ่งที่รู้สึกจะกลายเป็นตรงกันข้ามเกือบตลอด ทุกครั้งที่ต้องอดทนจะยิ่งรู้สึกกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วยิ่งเจออะไรที่ไม่ได้ดังใจจะยิ่งเก็บกด ชอบการแสดงที่พาเครียดและอึดอัดทั้งที่เห็นพูดอยู่คนเดียวแทบทั้งเรื่อง

Emergency Call เป็นอาชีพที่เหนื่อยตรงที่ต้องสอบสวนคนที่ไม่ได้อยู่ต่อหน้า ต้องซักถามเพื่อข้อมูลที่ระบุตำแหน่งและสิ่งที่เกิดขึ้นให้ชัดเจน เพราะต้องส่งต่อให้กับตำรวจภาคสนามที่รอรับเรื่องอีกที ฉะนั้นสิ่งที่สำคัญคือข้อมูลที่จริงหรือเท็จ ทุกครั้งที่มีคนโทรเข้ามาขอความช่วยเหลือจะระบุสถานที่ให้โดยโปรแกรม ทว่าเป็นเพียงบริเวณรัศมีโดยรอบเท่านั้น สิ่งที่ต้องทำต่อคือหาสถานที่เกิดเหตุใกล้เคียงหรือแน่ชัดให้ได้ ซึ่งบางครั้งง่ายบางครั้งยาก รวมไปถึงบางครั้งยังย้อนถามเพราะคิดว่าต้องรู้แล้วรีบๆมาช่วย ซึ่งใครจะไปรู้ว่าโทรจากจุดไหน


ยิ่งดูยิ่งรู้สึกกดดันกับลักษณะงาน เนื่องจากไม่รู้ว่าเหตุการณ์จริงเป็นลักษณะไหน ทำได้แค่รับฟังแล้วส่งต่อเท่านั้น ซึ่งบางครั้งต้องนั่งจับใจความและคัดกรองความถูกต้องของข้อมูลเพื่อประหยัดเวลาค้นหา ถ้าเรื่องไหนไม่ชัดเจนจับต้นชนปลายไม่ถูกจะส่งผลต่อภาคสนาม ทำให้บทสนาแต่ละครั้งจะเน้นตรงประเด็นไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลา เพราะอย่างหนึ่งที่จำเป็นคือเวลาที่รวดเร็ว ถ้าช้าอาจทำให้สถานการณ์ยิ่งแย่หรือแก้ไขช่วยไม่ทัน การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยทักษะและการวิเคราะห์เป็นสิ่งที่เฉียบคมเอามากๆ

ทั้งเรื่องเห็นห้องทำงานเล็กๆกับตัวละครไม่กี่คนในที่ทำงาน ทว่าภาระงานนั้นใหญ่ที่เป็นคนรับเรื่อง ทำหน้าที่เป็นตัวกลางผสานงานหน่วยงานนั้นหน่วยงานนี้ เป็นตำแหน่งที่สำคัญเพราะเป็นด่านแรกที่รับมือก่อนใครเพื่อน สำหรับหนังเรื่องนี้ทำได้ถึงอารมณ์หลายส่วนโดยที่ไม่ต้องทำอะไร แค่อยู่กับงานก็น่ากลัวและลุ้นระทึกมากพอแล้ว นอกจากงานที่เป็นส่วนสำคัญแล้วยังมีเสริมปมตัวละครให้ดูมีมิติมากกว่าแค่เรื่องงาน ทำให้เห็นภาวะเครียดสะสม ที่ยังทำงานต่อไปได้เพราะสติและความอดทน ถ้าไม่อดทนคงไม่มาไกลขนาดนี้

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)