You're Next (2011) คืนหอน คนโหด

You're Next (2011)
คืนหอน คนโหด
Director: Adam Wingard
Genres: Horror | Thriller
Grade: B

มันจะเป็นอะไรที่พีคมากกับคนที่ดูหนังสยองขวัญแล้วพบแต่สูตรเดิมๆเดี๋ยวอย่างงั้นอย่างงี้จนอธิบายได้ล่วงหน้าว่าเกิดอะไรขึ้นต่อไป ซึ่งความจำเจในหนังสยองขวัญมักมาทำนองอยู่บ่อยครั้งเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เสี่ยงมากแค่ไหนยังทำให้แย่ลงยิ่งขึ้นได้หรือตัวละครที่จะโชว์ความงี่เง่าจนน่าเบื่อ แน่นอนว่าในเรื่องของสถานการณ์จะปรุงแต่งยังไงก็ได้แม้จะมีความคล้ายกันก็จริงแต่ยังมีความสดใหม่แล้วแต่บทหนัง กระนั้นเรื่องตัวละครยังคงเป็นที่ซ้ำซากที่ต้องมีพฤติกรรมให้ตัวเองพาไปตายอยู่เสมอ ไม่ว่าจะชอบแยกทางไม่เกาะเป็นกลุ่ม อวดเก่งมากเกินไป เรื่องของเพศอย่างเซ็กซ์หรือโชว์นม และที่ประจำคือพวกชอบหนีแล้วกรี้ดไม่ทำอะไรจนถูกฆ่าได้ง่าย ถึงตัวละครจะเปลี่ยนหน้าตาหรืออะไรก็แล้วแต่ สุดท้ายยังเป็นตัวละครที่ดูออกถึงความเป็นตายเพราะขาดความฉลาดในการเผชิญหน้า ที่เห็นที่เป็นอยู่มักจะเอาแต่หนีกันอย่างเดียวซะส่วนใหญ่ เมื่อเป็นเช่นนั้นจะไม่ให้ถูกฆ่ากันได้อย่างไรเล่า


พล็อตเรื่องคล้ายๆ The Strangers (2008) ที่วันดีคืนดีอยู่บ้านแล้วมีใครที่ไหนไม่รู้บุกเข้าบ้านโดยไม่รู้ว่าเป็นใครเพราะใส่หน้ากาก เรื่องนี้ก็เช่นเดียวกันที่มีความคล้ายคลึงในส่วนของคนแปลกหน้าใส่หน้ากากที่จู่โจมคนในบ้านแบบไม่ถามหรือบอกวัตถุประสงค์การโจมตีว่าเพราะอะไร มิหนำซ้ำยังวางกับดักรอคนในบ้านเป็นเหยื่อจากความกลัวที่หนีเอาตัวรอด แต่จะหนีไปไหนได้เพราะไม่มีอะไรพร้อมป้องกันทั้งที่มาเลี้ยงฉลองครบรอบงานแต่งงานที่ยกมาทั้งครอบครัวเพื่อความสุขเพียงแค่นั้น ช่วงแรกจะเต็มไปด้วยตัวละครที่มากหน้าหลายตาจนต้องรู้สึกเบื่อเล็กน้อย เนื่องจากจะปูทางให้ตัวละครแต่ละตัวมีลักษณะอย่างไรตั้งแต่รุ่นพ่อแม่จนถึงหลานสะใภ้แบบไม่พลาดสักตัวละคร ทว่าก่อนจะเข้าเรื่องของครอบครัวแสนดวงอับจะเป็นการเปิดตัวที่เข้าตำราสูตรหนังสยองขวัญที่อยากให้ชิมความสยองแบบอุ่นเครื่องกับเหยื่อชุดแรกที่เห็นเท่านั้นก็รู้ไม่ธรรมดาแม้จะเชยสักหน่อย

เอริน (Sharni Vinson) เป็นตัวละครเดียวที่อยากโฟกัสเท่านั้น ส่วนตัวละครอื่นก็แล้วแต่ความต้องการ เหตุที่เลือกเอรินเพราะมีจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครเลยในเรื่องนี้และกับหนังสยองขวัญในหลายๆเรื่องเกี่ยวกับตัวละครเจอแล้วหนีไม่คิดสู้เพราะกลัวตายหรือไม่กลัวตายแต่สู้ไม่เป็นเข้าหาไม่ถูกและสุดท้ายคือตายตามระเบียบ สำหรับเอรินมีความแตกต่างกว่าทุกคนในเรื่องตรงที่มีหัวคิดเรื่องการเอาตัวรอด โดยเฉพาะการเอาตัวรอดแบบมีชั้นเชิง จะไม่ปุ๊ปปั๊ปคิดว่าต้องเป็นเช่นนั้นเช่นนี้เสมอไป จะมีการวางแผนที่ละเอียดและรอบคอบกว่านั้น แม้การวางแผนของเอรินจะมีให้เห็นเพียงฉากสั้นตอนทำกับดักตามบ้าน เช่น ประตูหน้าบ้านหรือตามหน้าต่าง แต่อย่างน้อยสิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นศักยภาพการเอาตัวรอดที่ดูสนุกกว่าการให้ตัวละครวิ่งหนีหลบๆซ่อนๆชวนน่าหงุดหงิด


แรกเดิมบทหนังเป็นหน้ากากเสือ แต่พอเป็นฉบับลงหนังได้เปลี่ยนเป็นหน้ากากของสุนัขจิ้งจอกที่ให้อารมณ์ซับซ้อนยิ่งกว่าตรงที่ไม่ได้รู้สึกโหดหรือน่าเกรงขามแต่เป็นความรู้สึกเจ้าเล่ห์เจ้าอุบายที่เข้ากับตัวหนังตรงที่วิธีการฆ่าในช่วงแรกเป็นการซุ่มโจมตีพร้อมกับวางกับดักรอเหยื่อให้มาตายเองโดยไม่ต้องเปลืองแรงเหนื่อย แน่นอนว่าสไตล์หนังฆ่าที่เป็นแนวนักฆ่าไล่เชือดยังคงคอนเซ็ปต์เหมือนเดิมที่ทำให้ดูแกร่งกว่าเหยื่อในหลายๆด้าน ทว่าเรื่องนี้ทำได้ตกใจตรงที่สามารถเซอร์ไพรส์พลิกสถานการณ์จากผู้ถูกล่าเป็นผู้ล่าได้ กระนั้นไม่ถึงกับว่าการพลิกบทบาทจะโดดพลิกแพลงไปซะทั้งหมดทีเดียว อารมณ์ประมาณดูหนังสยองขวัญเรื่อง Scream ที่ให้นัยยะคนร้ายใต้หน้ากากเป็นคนธรรมดาสามัญที่เก่งเพราะใช้ความหวาดกลัวกับอาวุธที่เหยื่อไม่มี ซึ่งบางทีการจะฆ่าใครสักคนจะต้องหกล้มลุกวิ่งจนมีมุมมองแอบขำในความทุ่มเทในการฆ่าที่ต้องเอาให้ได้ เช่นเดียวกับ You're Next ที่ต้องฆ่าให้ได้แต่ประเด็นคือเหยื่อที่จะฆ่าไม่ได้กลัวหรืออยู่ให้ฆ่ากันง่ายๆเสมอไปน่ะสิ

ในด้านความสยองคงไม่ต้องบอกอะไรมากเพราะจัดเต็มที่กันอยู่แล้ว บางซีนยังทำกันต่อหน้าต่อตาจนรู้สึกไม่น่าเลยหรือ"ร้องเฮ้ย!"ยังได้ แต่จะสยองนองเลือดมากน้อยเพียงใดยังไม่เท่าการไล่ล่าในพื้นที่จำกัดที่มีแค่อาณาเขตบ้านกับข้างนอกไม่กี่ฉากให้ออกมากว้างไม่ชวนจำเจ โดยส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ภายในบ้านกับครอบครัวเอรินที่อยู่ในช่วงวิฤกติชุลมุนว่าจะรับยังไงต่อไปในเมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย สิ่งแรกคือการประเมินสถานการณ์ที่บอกไม่ได้ว่าทำไมต้องเจอแบบนี้แต่เหตุผลเดียวที่คิดได้คือทำยังไงให้ตัวเองปลอดภัยที่สุด การหลบหลีกรวมถึงการเลี่ยงเผชิญหน้าทำให้ตัวละครต่างมีชีวิตที่ยาวนานยิ่งขึ้นจากที่มองว่าเดี๋ยวก็ตายหมดแล้ว ซึ่งการตัดสินใจมาจากเอรินที่พยายามเสนอความคิดความปลอดภัยของแต่ในคนภายในบ้าน กระนั้นความปลอดภัยที่รอดอันตรายจากนอกบ้านไม่ได้แปลว่าในบ้านจะไม่มี


You're Next เต็มไปด้วยการดักทางธรรมเนียมหนังสยองขวัญประเภทสถานที่ปิดตายกับนักฆ่าที่เป็นมนุษย์ การใช้ประโยชน์จากสถานที่ปิดตายด้วยข้าวของทำเป็นกับดัก ความฉลาดที่แม้แต่นักฆ่ายังจับต้นชนปลายไม่ถูก รวมถึงความบ้าดีเดือดที่แทบจะเปลี่ยนสถานะจากเหยื่อเป็นผู้ล่า ต้องยอมรับการเลือกนักแสดง Sharni Vinson ที่เอาอยู่กับบทหญิงแกร่งจากที่คุ้นหน้าใน Step Up 3D (2010) กับบทหญิงเท้าไฟเต้นสุดมันส์มาเป็นหญิงสุดโดนที่ควรค่าแก่การทลายกรอบสูตรหนังสยองขวัญที่ไม่ใช่นางเอกสวยและดวงดีถึงรอด แต่ต้องเก่งจริงทั้งใจและสมองอีกด้วย นอกจากความสยองสไตล์ไล่ฆ่าที่เอาโหดก็ยังยังแฝงเรื่องราวให้ชวนมีน้ำหนักจนน่าเชื่อถือและพาไปสู่ไคล์แม็กซ์ที่รู้สึกเข้าท่าเข้าทางกับบทสรุปว่าแท้จริงการล้างบางครอบครัวที่มาฉลองกันอย่างสนุกสนานไม่ใช่เพื่อความสะใจหรือนึกอยากฆ่าก็ฆ่า สิ่งที่เกิดขึ้นมีแรงจูงใจจนนำไปสู่การทรยศหักหลัง ซึ่งคืออะไรไม่ขอบอกเพราะบางทีการรู้เหตุผลนั้นอาจนำไปสู่ความจำเจสำหรับใครบางคนเลยทีเดียว

ไม่ปฏิเสธถ้าจะบอกว่าชอบนางเอกของเรื่องนี้ที่บทบู๊ก็ลุยได้ บทใช้สมองก็บุ๋นเป็น ถ้าไม่ใช่ตัวร้ายมีหน้ากากที่ดึงดูดความสนใจคงไม่มีใครนึกอยากมองแน่นอนเพราะเอาเข้าจริงแทบจะสู้นางเอกไม่ได้เสียด้วยซ้ำและไม่มีความโดดเด่นอะไรเท่าไรด้วย ที่ตลกร้ายไปกว่านั้นคือฉากเปิดตัวร้ายที่กระโจนใส่นางเอกจากหน้าต่างพร้อมกับฉากเท่ๆจนน่ากลัวกลายเป็นจุดหักมุมที่เกินคาดจนนำไปสู่การปรับเปลี่ยนโทนหนังจากนักฆ่าแสนลึกลับและน่ากลัวเป็นเพียงคนธรรมดาติดอาวุธที่ถูกฆ่าได้เช่นกัน การพลิกอารมณ์ของหนังจัดว่าลื่นไหลและเนียนอย่างมากจนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าสถานะของตัวละครเริ่มเปลี่ยนไป ที่ชอบมากคือไคล์แม็กซ์ของเรื่องที่ปล่อยของกันเต็มที่ทั้งดนตรีอันแสนแหวกแนว การเอาคืนที่ยิ่งกว่าผู้ล่า และตอนจบที่สุดแสนกวนโอ้ยจนน่าไม่เชื่อจะสร้างเสียงหัวเราะด้วยคาบเลือดในตอนจบได้ จัดว่าคุ้มค่าและมันส์กับหนังสยองขวัญเรื่องนี้ที่ช่วยชี้แนะเรื่องตัวละครที่อยากรอดจะต้องเก่ง และการดำเนินเรื่องที่ไม่ต้องรีรอเพราะไม่ว่าฝ่ายไหนก็รีบเร่งให้จบจนนำไปสู่ความตื่นเต้นไม่พักเหนื่อยแบบยาวๆม้วนเดียวจบ

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)