บุญชู 2 น้องใหม่ (2532)
Director: บัณฑิต ฤทธิ์ถกล
Genres: Comedy
Grade: A+
"เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ"
บางก็บอกว่าภาคนี้ดีกว่าภาคแรก บางก็ว่าดีที่สุดในหลายๆภาค แต่โดยส่วนตัวคิดว่าจะภาคไหนก็ล้วนดีกันทั้งหมด ถ้าจะคัดความโดดเด่นของภาคนี้คงไม่พ้นการเล่าเรื่องได้กระชับกว่าภาคแรกรวมถึงการยิงมุขที่นับว่าเด็ดพอตัว แต่อะไรนั้นตัวหนังยังคงคอนเซ็ปต์เดิมในการเล่าเรื่องสไตล์ธรรมดาไม่หวือหวาเกินกว่าจะเหมาะสำหรับเฉพาะกลุ่มจนเรียกได้ว่าดูสบายอารมณ์ไม่เครียดจนเกินไปและไม่แฮปปี้จนเกินตัว หลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับเนื้อหาต่างล้วนสะท้อนถึงสังคมและปรุงแต่งด้วยข้อคิดสอนคนมิใช่น้อย จากหนก่อนเรื่องราวหนุ่มเลือดสุพรรณนามว่าบุญชู (สันติสุข พรหมศิริ) จากบ้านมากรุงเทพฯเพื่อมาสอบเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย แต่สุดท้ายกลับพลาดไม่ติดดังฝันจนแม่บุญล้อม (จุรี โอศิริ) แม่ของบุญชูต้องไหว้วานคนที่มีประสบการณ์เชี่ยวชาญมาช่วย ซึ่งก็คือคุณแจ่มใส (ท่าน ส. อาสนจินดา) บรรณารักษ์ห้องสมุดอดีตมหาเก่ามาช่วยอบรมขัดเกลาเสริมความรู้ให้สอบติดสู้กับคนอื่นได้ โดยแม่บุญล้อมก็ตั้งเป้าไว้สูงว่าถ้าสอบไม่ติดอีกต้องกลับสุพรรณทำไร่ทำนากลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม ดังนั้นมีรึที่บุญชูจะยอมแพ้ถูกทำลายความฝันที่อยากจะเข้าเรียนเกษตร โดยงานนี้ก็ได้กำลังใจอย่างล้นเปี่ยมจากเพื่อนก๊วนคราวก่อนที่ตอนนี้ได้เรียนมหาวิทยาลัยกันไปก่อนแล้วจากการภาคแรกที่ต่างคนต่างมาสอบแข่งขันเข้าคณะโน้นมหาวิทยาลัยนี้ตามความชอบของตัวเองแล้วสอบติด(น่าเสียดายบุญชูที่สอบไม่ติดแต่ก็ไม่มีใครสมหวังเสมอไป คนเราต้องล้มกันบ้างเพื่อเรียนรู้ในการลุก) ในที่นี้จะมีหยอย (เกียรติ กิจเจริญ) อารมณ์ดีตลอดเวลาเป็นคนเสียงนำเสมอ , คำมูล (กฤษณ์ ศุกระมงคล) เจ้าแห่งปลากระป๋อง , นรา (อรุณ ภาวิไล) เรื่องการเมืองยกให้คนนี้ , ไวยากรณ์ (วัชระ ปานเอี่ยม) คนนี้ได้แพทย์แต่ไม่รักษาคนเพราะได้สัตว์แพทย์ , เฉื่อย (นฤพนธ์ ไชยยศ) ใครคุยกับคนนี้รับรองยาว ไม่ใช่เรื่องยาวพูดเยอะนะ แต่การออกเสียงแต่ละทีนี้ย๊าวยาว และขาดไม่ได้สำหรับบุญชูคือโมลี (จินตหรา สุขพัฒน์) ได้ต่อทางด้านวารสารเพื่อไปช่วยมานี (ญาณี จงวิสุทธิ์) พี่สาวทำงานในอนาคต