Feast (2005) พันธุ์ขย้ำเขี้ยวเขมือบโลก

Feast (2005) | พันธุ์ขย้ำเขี้ยวเขมือบโลก
Director: John Gulager
Genres: Action | Comedy | Horror| Thriller

ประเด็นแรกคือลูกบ้ามันเยอะจนรับประกันได้เลยว่านี้คือหนังสยองขวัญนอกกระแสที่สร้างความสะใจได้เข้าถึงความมันส์แน่ๆ เห็นกล่าวประโยคนี้ขึ้นมาอย่าหลงคิดว่าเป็นระดับหนังตำนานคลาสลิคเชียวล่ะ เพราะว่าหนังเรื่องนี้ต้องมองด้วยมุมมองใหม่ที่แปลกและแหวกแนวเอากว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดาที่ต้องตัดออกไปว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ตามสูตร ซึ่งอันที่จริงการเดาส่งอาจเป็นไปตามนั้นแต่นี่มันนอกตำรา มีที่ไหนหนังสยองขวัญที่ตายกันแบบไม่สนใจวุฒิหรือจังหวะ มีโอกาสช่องว่างนิดช่องว่างหน่อยใช้กันกระจุยกระจายแม้แต่เด็กยังเลือดท่วมได้ ฉะนั้นเมื่อบอกว่ามีเลือดท่วมแบบนี้คงไม่ใช่หนังสยองขวัญธรรมดาแล้วกระมั้ง และอย่างยิ่งประเภทไม่ใช่ทุนสูงแต่เป็นทุนต่ำบ้าเนื้อบ้าเลือดที่ต้องให้อารมณ์โหดทำนองคัลท์ เอาเป็นว่านับจากนี้ให้เริ่มพิจารณาตัวเองแล้วว่าจะหยิบเรื่องนี้มาชมต่อหรือปล่อยไปให้หาหนังเรื่องอื่นที่เข้ากับแนวตัวเองดีกว่า


ก็ไม่รู้จะว่าไงกับเรื่องย่อของหนังดี คือมันสั้นและง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยซะอีก ประมาณว่ามีคนอยู่ในบาร์กันและมีชายปริศนา(Balthazar Getty)ที่ไหนไม่รู้วิ่งเข้าประตูพร้อมปืนกระบอกโตแล้วบอกให้รีบระวังตัวซะ ปิดหน้าต่างล็อคประตูให้หมด เพราะมีบางอย่างมาที่นี้มันกำลังล่า แหม่ทำแบบนั้นใครจะเชื่อจริงหรือไม่ ก็จู่ๆบุกเข้าร้านแบบไม่ทันตั้งตัวยังไม่พอยังพกปืนมาอีก แค่นั้นยังไม่พอมืออีกข้างได้ถือบางอย่างติดมาด้วย และนั้นคือหัวของสิ่งมีชีวิตน่าตาประหลาด ส่วนมันคืออะไรไม่มีใครอธิบายบอกได้นอกจากหลังจากนั้นที่พวกมันบุกมาที่ร้านแล้ว พวกเขาทั้งหมดในร้านต่างลนลานเพราะความไม่รู้ว่าคือตัวอะไร แต่จะอะไรยิ่งกว่าเมื่อพวกมันที่อยู่ข้างนอกยังเหลืออีกสามและกำลังพังบาร์เพื่อเข้าไปข้างในให้ได้ ทำให้พวกเขาและเธอต่างรีบจัดการทุกอย่างและพร้อมสู้กับตัวประหลาดก่อนจะกลายเป็นอาหารอันโอชะ

ประเด็นที่สองคือเจ้าตัวประหลาดพวกนี้คืออะไร มายังไง อันนี้ก็ไม่มีใครทราบอีก ฟังจากเรื่องย่อยิ่งแล้วกันใหญ่เหมือนวิถีการเอาตัวรอดในกรอบยังไงอย่างนั้นที่เกิดมีตัวประหลาดดักคอยข้างนอก เมื่อไม่รู้ว่ามาจากไหนและมาทำไมงั้นลองสมมติเอาคร่าวๆเลยล่ะกัน เริ่มจากเป็นพวกกินเนื้อ(ดูจากเหยื่อแต่ละราย แต่ไม่มีรายไหนเห็นว่าโดนกิน) มีลักษณะเหมือนคนยืนได้สองขา หน้าตาประหลาด(โครต) มีฟันยาวเห็นชัด ตัวใหญ่และบ้าพลัง ถ้าโดยทั่วไปคงบอกว่าเป็นผลมาจากการทดลองผิดพลาดอะไรประมาณนั้น ถ้าเป็นงั้นจริงทำไมไม่มีพวกรัฐบาลมาช่วยเลยล่ะ สรุปมันโผล่และมาเพื่อฆ่า ในขณะเดียวกันเจ้าตัวประหลาดนี้เองที่ทำให้หนังมันส์ขึ้นมาได้อย่างมหาศาลที่รับอารมณ์สะใจเป็นหลัก มีความพิสดารในตัวสูง อ้วกเป็นสีเขียวมีหนอนปะปนมาด้วย ใครดูเรื่องนี้มีหยะแหยงกันแน่นอน ที่สำคัญคือความวิปริตผิดกามของเจ้าพวกตัวประหลาดเหล่านี้ที่แสดงได้น่าทุเรศมาก ไม่รู้ได้ไงแต่บางทีเจ้าพวกนี้ชอบแสดงอารมณ์ทางเพศมาเป็นครั้งคราว หรือจะเป็นความสะใจอีกหนึ่งอย่างกันแน่


ลืมไปอย่างที่บอกว่ามี 3 ตัวคือตัวใหญ่ 2 ตัวและตัวเล็ก 2 ตัว สำหรับหัวในช่วงแรกของหนังคือตัวใหญ่ พิษสงระหว่างตัวเล็กกับตัวใหญ่จัดว่าอันตรายทั้งคู่ขึ้นกับโอกาสว่าจะปล่อยเอาไว้แล้วมันจะทำอะไรบ้าง อย่างเช่นตัวเล็กที่หลุกเข้าบาร์ตัวหนึ่ง แปปเดียวมีขาขาดกันแล้วขนาดวิ่งผ่านนะ เท่านั้นยังไม่หมด ความพิสดารอีกอย่างคือการรีไซเคิลพวกตัวเล็กได้อย่างเหลือเชื่อ ด้วยการนำซากกลับเข้าท้องแล้วก็จัดการอารมณ์ทางเพศกับอีกตัวกันอย่างจุใจแล้วผลิตลูกออกมา ตอนแรกมีตัวเดียวตอนนี้กลายเป็นสองไปแล้ว เท่ากับลูกจะตายยังไงขอเอาซากกลับมาก็สร้างใหม่ได้(ตัวไรว่ะเนี้ย)

หลังจากได้รู้รายละเอียดบางส่วนไปแล้วกับตัวประหลาดเยี่ยงนี้ก็ถึงคราวเหล่านักแสดงที่ไม่เป็นอันคุ้นหน้ากันเท่าไหร่นัก นอกจากฝีไม้ลายมือที่แสดงได้ซื่อสัตย์ต่อรูปแบบของตัวหนังที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายประมาณว่าการแสดงไม่ต้องไปเกร็งหรือจะโดนจับจุดมาก ขอแค่รู้จักผ่อนคลาย แต่ด้วยตอนแรกมีตัวละครหลายตัวเหมือนกันทำให้การแจกจ่ายบทยังกระจายไม่ดีพอ มิหนำซ้ำบางตัวละครมีเอาไว้ประดับเพื่อฆ่าก็ว่าได้ ในขณะที่จริงๆแล้วเนื้อเรื่องจะเดินกันไม่กี่คนส่วนคนอื่นๆทำหน้าที่เป็นพวกสติแตกหรือไม่ก็อยู่เงียบๆแล้วค่อยมาเด่นอีกที แต่ว่าหลายตัวละครยังมากด้วยมิติที่มีหลายมุมมอง ทั้งมีความกล้าอยากเอาตัวรอด หรืออยากจะรอดต้องกล้าด้าน ทั้งนี้ยังส่งเสริมเรื่องน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่ต่างช่วยกันแม้จะมีบางคนไม่กินเส้น หรือจะลองเทียบกับหนังบางเรื่องที่มีลักษณะอารมณ์คล้ายๆกันคือ From Dusk Till Dawn (1996) ที่เปลี่ยนจากจะออกเป็นไม่ให้เข้าแทน


ส่วนโทนโดยรอบของหนังมีสถานที่แห่งเดียวคือในบาร์นอกนั้นจะเป็นฉากประกอบเล็กๆน้อยๆที่ไม่น่าจดจำเท่าในบาร์ แม้จะจำเจในที่ตั้งมั่นเดิมก็ตามทีแต่ด้วยประสิทธิภาพความน่าตื่นเต้นจะช่วยให้ตัวละครกระวนกระวายกันตลอดเวลาและการดำเนินเรื่องยังต่อเนื่องไม่ขาดสาย แรกๆของหนังจะเป็นช่วงแนะนำตัวละครที่ไม่เสียเวลาหรือน่าตัดออกอย่างใดเพราะด้วยวิธีการนำเสนอที่กระชับชัดเจนแล้วยังแสดงถึงท่าทีกึ่งๆกวนเข้ามาจึงเดายากซะหน่อยว่าตัวละครเหล่านี้เป็นยังไง จนเจ้าตัวประหลาดพวกบุกบาร์นั้นแหละถึงรู้ว่าใครเป็นใคร ส่วนความสยองเป็นไปอย่างที่บอกคือคัลท์นั้นแหละ เลือดท่วมเนื้อกระจุย ไม่มีคำบรรยายกับความโหดที่ผสมความวิปริตไปด้วย(นิดๆ) ตามด้วยมุขตลกเฮฮาต่างๆที่ส่วนใหญ่เป็นตลกร้ายมากกว่า อย่างใครคนนั้นสามารถช่วยเหลือเราได้พาหนีได้แต่กลายเป็นตัวปัญหาให้พังบาร์เข้าซะแทน

ข้อดีสำหรับ Feast คือความโหดสะใจเอามันส์ที่ได้กลิ่นอายความสนุกสนานจนคอหนังสยองขวัญต้องชอบอีกเรื่องหนึ่ง แถมการเดินเองจัดว่ามีลีลาและลูกเล่นพอตัว และกับข้อเสียคือความคัลท์ที่รุนแรงแบบเลือดเยอะไปหน่อยจนเอาสะใจเกินจริง ซึ่งถ้าใครมองว่ามันโอเว่อร์เกินไปก็ไม่แปลก โดยเฉพาะตัวประหลาดทั้งหลายเหล่านั้นที่มีหน้าตาไม่ได้เตะตาอะไรอย่างที่คิด ที่ได้ดีเพราะตัวผู้กำกับที่ใส่ลูกเล่นเอาไว้ถึงน่าสนใจ และลูกเล่นเป็นปัญหาอีกอย่างหนึ่งคือจะมีผู้ชมเข้าใจไหมล่ะว่าเป็นความตั้งใจที่ต้องการทำให้ออกมาสนุกกับสะใจ ฉะนั้นใครคิดว่าเกินไปหรือยังไงอาจไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ยิ่งความสมจริงและเหตุผลแล้วอาจฟังไม่เข้าหูอีก เห็นแบบนี้ก็เหอ Feast ประสบความสำเร็จตามที่ต้องการเอาไว้และมีภาคต่อในที่สุดโดยไม่ได้ประสบความสำเร็จตาม ยกเว้นลูกเล่นที่พัฒนากลายเป็นลูกบ้าที่สะใจยิ่งกว่าเก่า เอาเป็นว่าใครชอบก็ชอบไป ส่วนใครไม่ชอบก็อย่าบ่นมากเพราะหนังมันมาแนวนี้จริงๆ โดยส่วนตัวค่อนข้างชอบแม้จะตะหงิดนิดหน่อยก็ตามแต่ยอมรับว่าเครื่องเขาแรงจริง สะใจจริง


"มีคำถามอีกไหม"
"นายเป็นใคร"
"คนที่จะช่วยชีวิตพวกนายไงล่ะ"

ปล.คนที่ชมเรื่องนี้มาจะเข้าใจในมุขตลกร้ายนี้ดีเพราะมีเซอร์ไพรส์ทีเด็ดเอาเรื่อง

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)