แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Mystery แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Mystery แสดงบทความทั้งหมด

House on Haunted Hill (1999) บ้านเฮี้ยนหลอนผวาโลก

House on Haunted Hill (1999) | บ้านเฮี้ยนหลอนผวาโลก | B+
Director: William Malone
Genres: Crime | Fantasy | Horror | Mystery | Thriller

"เป็นหนังแนวบ้านผีสิงที่ชอบที่สุดเรื่องหนึ่งก็ว่าได้"

งานรีเมคจากปี 1959 กับโรงพยาบาลผีสิงที่อดีตคือโรงพยาบาลบ้าที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันจนต้องตายกันโขยงเพราะระบบตัวอาคารที่ปิดตายได้เอง เรื่องราวเริ่มหลังจากนั้นที่มีนายทุนสตีเฟ่น ไพรซ์ (Geoffrey Rush) เจ้าของสวนสนุกอยากลองเล่นเกมสักเกมหนึ่งในงานวันเกิดที่อาคารแห่งนั้นโดยมุ่งหวังตั้งเงินรางวัลสำหรับผู้ชนะเกมได้เป็นมูลค่า $1,000,000 ที่นับเป็นเงินก้อนโตที่พร้อมจะดึงดูดนักเล่นเกมทั้งหลาย ในขณะที่เหล่าบรรดาแขกเริ่มเข้ามากันงาน ไพรซ์ต้องแปลกใจเมื่อสังเกตเห็นว่าแขกที่มาในงานต่างไม่ใช่คนที่คิดเอาไว้ ซึ่งทั้งหมดคือคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักหรือเคยเห็นมาก่อน รวมถึงบัตรเชิญที่ตั้งใจส่งถึงอีกคนกลับกลายเป็นอีกคนได้อย่างไรก็ไม่รู้ ทำให้บรรดาแขกทั้งหลายต่างสักไม่แน่ใจแล้วว่าสมควรไว้วางใจกับการมาที่นี้หรือไม่ และไพรซ์ก็เริ่มคิดแล้วว่าอาจเป็นฝีมือของเอลเวอเรน (Famke Janssen) ภรรยาตัวเองที่พยายามแย่งชิงความเด่นและต่างแข่งกันเพราะความบาดหมางเรื่องส่วนตัว แต่ยังไงเรื่องล้วนเลยเถิดมาไกลเกินจะให้ย้อนกลับ ด้วยความที่ไพรซ์เป็นเจ้าภาพในงานทำให้ต้องดำเนินเรื่องต่อไปแบบงงๆก็ตามที โดยประกาศให้ทุกคนทราบถึงสิ่งที่ต้องทำในคืนนี้ว่าจะมีใครอยู่ได้นานแค่ไหนและจะได้รางวัลไป และด้วยเป็นคนมีลูกเล่นทำให้เขาเองมีแผนซ่อนเอาไว้กับอุปกรณ์ต่างๆที่ออกแบบมาเพื่อหลอกบรรดาแขกๆให้ตกใจอย่างเป็นความลับ แต่ทว่ากลหลวงต่างๆดูเหมือนจะทำงานเกินขอบเขตเมื่อสิ่งที่วางไว้กลับเกิดขึ้นจากจุดที่ไม่ทำให้เกิดหรือเกิดขึ้นแต่ไม่ใช่เพราะเป็นหนึ่งในกลอย่างว่า แล้วมันเกิดขึ้นได้ยังไง

I Know What You Did Last Summer (1997) ซัมเมอร์สยองต้องหวีด

I Know What You Did Last Summer (1997) | ซัมเมอร์สยองต้องหวีด | C+
Director: Jim Gillespie
Genres: Horror | Mystery
I Know What You Did Last Summer หรือฉันรู้ว่าคุณทำอะไรไว้ในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่แล้ว เป็นประโยคเรียบง่ายที่ไม่มีอะไรนอกจากถามตรงๆว่าคุณทำอะไร ทว่าประเด็นสำคัญมันอยู่ตรงที่จะมีใจกล้าตอบแบบเปิดเผยทั้งหมดได้มากแค่ไหนเมื่อสิ่งที่ทำลงไปไม่ได้เป็นแค่เรื่องสนุกแต่หมายถึงการฆาตกรรมที่ไม่ได้ตั้งใจที่มีคนรู้เห็นเป็นใจในการปกปิดความลับมาแสนนาน จนนับหนึ่งปีให้หลังเรื่องราวของคำถามข้างต้นได้เกิดขึ้นมาและสร้างความประหลาดใจว่านี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆอีกต่อไปเมื่อมีคนรู้มากกว่าคนในกลุ่มหรือจะเป็นการแกล้งกันในหมู่เพื่อน แต่นี่ไม่ใช่ของเล่นเมื่อคนที่รู้เรื่องนี้ต้องมีคนตายเกิดขึ้นแต่กำลังโดนกำจัดทีละราย

Sleeping Beauty (2011) อย่าปล่อยรัก ให้หลับใหล

Sleeping Beauty (2011) | อย่าปล่อยรัก ให้หลับใหล | B-
Director: Julia Leigh
Genres: Drama | Mystery | Romance | Thriller

พึ่งจะรู้จัก Emily Browning จริงๆจังๆจากเรื่อง Sucker Punch (2011) ที่ดูสนุกอย่างมากเรื่องนึง แล้วในปีเดียวกันนั่นเองเกิดมีผลงานของเธออีกเรื่องที่ได้มาดูเอาทีหลังที่เกือบจะสะดุดสายตาตัวเองอย่างแรงกับความกล้าแสดงของเธอที่ทำเอาภาพลักษณ์สาวเบบี้ดอลหายไปซะเกลี้ยงเกลา และด้วยความกล้านี่เองที่ทำให้เห็นว่าสปิริตของเธอไม่ใช่น้ำจิ้มธรรมดากับเรื่อง Sleeping Beauty ที่นำพาให้รู้จักสาวมหาลัยลูซี่กับชีวิตที่ต้องเสี่ยงกับปัจจัยรอบตัว

Clickbait (TV Mini Series 2021) คลิกล่อตาย

Clickbait (TV Mini Series 2021) | คลิกล่อตาย | A-
Creators: Tony Ayres, Christian White
Genres: Crime | Drama | Mystery | Thriller

Clickbait คือ การใช้คำหรือรูปภาพชวนให้สงสัยหรือจูงใจให้ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตคลิกเข้าไปอ่าน ทั้งที่เนื้อหาอาจไม่มีอะไรเลย แต่การพาดหัวทำให้คนหลงกลคลิกเข้าไปเพื่อเรียกยอดคนดูในเว็บไซต์ แล้วนี่เกี่ยวอะไรกับหนังเรื่องนี้ พูดถึงการหลอกลวงหรือสร้างข่าวให้คนสนสนหรือเปล่า นั่นเป็นส่วนหนึ่งของหนังที่ต้องการสื่อว่าโลกอินเทอร์เน็ตกับโลกชีวิตจริงมันคนละเรื่อง

Fear Street: Part Three - 1666 (2021) ถนนอาถรรพ์ ภาค 3 : 1666

Fear Street: Part Three - 1666 (2021) | ถนนอาถรรพ์ ภาค 3 : 1666 | B+
Director: Leigh Janiak
Genres: Horror | Mystery

ผสานรอยต่อระหว่าง Fear Street: Part One - 1994 (2021),Street: Part Two - 1978 (2021) และ Fear Street: Part Three - 1666 (2021) ให้เชื่อมเข้าหากันอย่างแนบเนียนเพื่อสรุปสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบ โดยใช้วิธีเล่าเรื่องจากปัจจุบันไปสู่อดีต แล้วอดีตมาสู่ปัจจุบัน

Fear Street: Part Two - 1978 (2021) ถนนอาถรรพ์ ภาค 2 : 1978

Fear Street: Part Two - 1978 (2021) | ถนนอาถรรพ์ ภาค 2 : 1978 | B+
Director: Leigh Janiak
Genres: Drama | Horror | Mystery

ต่อเนื่องมาจาก Fear Street: Part One - 1994 (2021) หลังจากที่พยายามสู้กับเหล่านักฆ่าที่แม่มด"ซาร่าเฟียร์"ส่งมาเอาชีวิต จนคิดว่าหนีรอดได้สำเร็จ ทว่าไม่ใช่เช่นนั้นเพราะทุกอย่างยังไม่จบและทุกคนยังถูกไล่ล่าอีกครั้ง วิธีที่จะยับยั้งได้คือการตามหาคนที่เคยรอดชีวิตมาก่อนเพื่อหาวิธีรอดจากคำสาปที่ไม่รู้จบในปี 1978

Fear Street: Part One - 1994 (2021) ถนนอาถรรพ์ ภาค 1 : 1994

Fear Street: Part One - 1994 (2021) | ถนนอาถรรพ์ ภาค 1 : 1994 | B
Director: Leigh Janiak
Genres: Drama | Horror | Mystery

ผิวเผินคือหนังสยองขวัญไล่เชือดเรื่องหนึ่งที่มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่จุดเด่นคือการนำสูตรสำเร็จมายำใหม่ให้มีมิติมากขึ้น โดยอ้างว่าการเกิดเหตุฆาตกรรมจากเหล่านักฆ่าล้วนมาจากคำสาปของแม่มด ซึ่งเป็นแม่มดนามว่า"ซาร่าเฟียร์"ที่ถูกเล่าขานจากลูกหลานจนเป็นเรื่องเล่าประจำเมือง

Brand New Cherry Flavor (TV Mini Series 2021) รสแค้นแสนหวาน

Brand New Cherry Flavor (TV Mini Series 2021) | รสแค้นแสนหวาน | B+
Creators: Nick Antosca, Lenore Zion
Genres: Drama | Horror | Mystery | Thriller

จุดเริ่มต้นการเป็นผู้กำกับหนังต้องเริ่มจากการเป็นที่ต้องตาของโปรดิวเซอร์หรือผู้กำกับคนดังที่อยากปั้นเด็กในสังกัด ครั้งนี้ ลิซ่า โนวา (Rosa Salazar) คือผู้กำกับสาวมือใหม่ที่เป็นหนึ่งในนั้นที่บังเอิญหนังสั้นที่ตัวเองส่งเป็นที่ถูกใจแก่ ลู เบิร์ก (Eric Lange) จนอยากซื้อลิขสิทธิ์เข้าสังกัด ทว่าความไม่อยากเสียความฝันจึงยอมมอบหนังสั้นให้ภายใต้เงื่อนไขต้องเป็นผู้กำกับเองเท่านั้น แต่กลายเป็นว่าผิดเงื่อนไขจนตัวเองไม่มีสิทธิ์ใดๆกับหนังของตัวเอง ทำให้แก้แค้นด้วยการไปหา โบโร (Catherine Keener) เพื่อทำไสยศาสตร์ก่อนจะเป็นเรื่องวุ่นวายให้เกิดคนตายมากมาย

A Classic Horror Story (2021) สร้างหนังสั่งตาย

A Classic Horror Story (2021) | สร้างหนังสั่งตาย | B-
Director: Roberto De FeoPaolo Strippoli
Genres: Drama | Horror | Mystery | Thriller

เห็นชื่อหนังแล้วตะหงิดชอบกล เหมือนกำลังจะบอกหรือล้ออะไรอยู่หรือเปล่า แต่ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะเห็นชัดจากบรรยากาศลึกลับว่าเป็นหนังสยองขวัญแน่นอน ซึ่งต้นเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางของคน 5 คนที่ไม่รู้จักกันเพื่อเดินทางติดรถตามประสานักท่องเที่ยว ทว่าเกิดอุบัติเหตุระหว่างทาง ซึ่งนั้นทำให้เจอกับลัทธิประหลาดที่พวกเขาต้องหนี

The Closet (2020) ตู้นรกไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด

The Closet (2020) | ตู้นรกไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด
Director: Kwang-bin Kim
Genres: Horror | Mystery
Grade: C

ความหลอนประสาทเกิดขึ้นกับครอบครัวของ ซังวอน (Jung-woo Ha) และ อินะ (Yool Heo) สองพ่อลูกที่เพิ่งย้ายบ้านมาอยู่ไม่นาน แต่ยิ่งอยู่ไปก็เริ่มมีสิ่งผิดปกติ เมื่อ อินะ ค่อยๆเปลี่ยนพฤติกรรมจากร่างเริงเป็นรุนแรงยิ่งขึ้น จนวันหนึ่งได้หายไปอย่างลึกลับ ภายหลังจึงทราบว่ามีเด็กหายอย่างปริศนาเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่รู้สาเหตุและไม่มีหลักฐานเหลืออยู่ กระนั้นความหลอนยังตามติด ซังวอน จนพบว่าตู้เสื้อผ้าเก่าใบหนึ่งมีบางอย่างที่ไม่ธรรมดาซ่อนอยู่ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของ คยอง ฮุน (Nam-gil Kim) หมอผีที่เข้ามาปราบวิญญาณร้ายที่สถิตอยู่

Barbarella (1968) บาร์บาเรลล่า

Barbarella (1968) | บาร์บาเรลล่า
Director: Roger Vadim
Genres: Adventure | Comedy | Fantasy | Sci-Fi
Grade: B

"The Best of Sex appeal"

พอดูจบหรือไม่ทันจบ แค่เปิดเรื่องทำให้เข้าใจอย่างหนึ่งเกี่ยวกับนักแสดง Jane Fonda และหนังเรื่องนี้ที่ผสานความเซ็กซี่ได้อย่างลงตัว ทำให้เห็น Sex kitten หรือ Sex appeal ที่น่าดึงดูดสูงมาก ภายนอกน่ารักน่าหยอกคล้ายลูกแมวที่ไร้เดียงสา แต่หารู้ไม่ว่าคือตัวตั้งตัวตีเสียด้วยซ้ำ

The Invisible Man (2020) มนุษย์ล่องหน

The Invisible Man (2020) | มนุษย์ล่องหน
Director: Leigh Whannell
Genres: Horror | Mystery | Sci-Fi | Thriller
Grade: B+

หนังมนุษย์ล่องหนที่ตัวเองรู้จักไม่ใช่ชื่อเดียวกันที่สร้างเมื่อปี 1933 แต่เป็น Hollow Man ในปี 2000 โดยเฉพาะฉากการปรับสภาพร่างกายให้โปร่งใสขึ้นทีละนิด มีการแสดงถึงสภาพผิวหนังที่ค่อยๆหายไป จากนั้นแสดงกล้ามเนื้อและเส้นเลือดตามร่างกาย อวัยวะภายใน ไล่ระดับไปเรื่อยๆจนถึงกระดูก จากสิ่งที่เห็นไม่ต่างกับการเรียนวิชา Anatomy นับเป็นฉากที่น่ากลัวและน่าอัศจรรย์ในเวลานั้นเลยก็ว่าได้

Scream 4 (2011) หวีด...แหกกฏ

Scream 4 (2011) | หวีด...แหกกฏ
Director: Wes Craven
Genres: Horror | Mystery

"Don't Fuck With The Original"

เอาจริงๆเลยกับ Scream ภาคนี้ที่เหมือนจะไม่มีประเด็นอะไรมาเล่นแต่ยังรู้จักก้าวไปกับสมัยได้อย่างมีชั้นเชิงจนตัวเองแอบปลื้มๆกับสไตล์เนื้อเรื่องภาคนี้อย่างมากจนชอบพอๆกับภาคแรกที่ไม่ต่างกับการบุกเบิกธรรมเนียมหนังสยองขวัญด้วยการเสนอภิปรายกฎหนังสยองให้ฟังพร้อมหาข้อปฏิบัติเพื่อแสดงผลให้ดูว่าเพราะอะไรยังไงต่อไป ไม่ว่าจะเป็นตัวละครที่ไม่ได้เป็นมากกว่าตัวละครที่ถูกเชือดเพื่อให้ตายแต่มันต้องแสดงถึงกลเม็ดวิธีบางอย่างออกมาตามกฎ หรือจะสถานที่ที่ไม่เชิงว่าปิดตายแค่ขอมีสติพร้อมจะวิ่งออกนอกบ้านตามประตูหน้าต่างแทนที่จะวิ่งขึ้นบันได แม้กระทั่งแรงจูงใจของบรรดาเหล่าฆาตกรภายใต้เบื้องหลังแต่ละคนว่าทำไปเพื่อเจตนารมย์สิ่งใดอย่างมีเป้าหมาย ไม่ใช่เพื่อสนองความอยากอย่างงไร้เหตุผล สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ตั้งเป้าเอาไว้ว่าทุกสื่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นใน Scream ต้องมีวัตถุประสงค์ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ผลลัพธ์จะลอยลงมาอย่างไม่มีเหตุให้อธิบายแบบหนังทั่วๆไปที่ตายกันง่ายบ้างโชว์ความงี่เง่าบ้าง ซึ่งเอาเข้าจริงภายใต้สถานการณ์เหล่านั้นเราเองก็เป็นแบบนั้นได้เช่นกัน อย่ามานั่งบ่นเวลากำลังรับชมหนังให้ใครฟังว่ามันก็อีหรอบเดิม สูตรเดิม จะเชือดจะตายยังไงเดาได้หมด ขาดความสดใหม่ปราศจากความคิดสร้าสรรค์ มาลองโดนไล่ฆ่าดูหน่อยไหมจะได้รู้ซึ้งเหตุผลที่ทำไมตัวละครไม่มีอะไรให้เซอร์ไพรส์ เพราะเรื่องเซอร์ไพร์สคือเรากำลังโดนเชือด

Scream 3 (2000) สครีม 3 หวีดสุดท้ายนรกยังได้ยิน

Scream 3 (2000) | สครีม 3 หวีดสุดท้ายนรกยังได้ยิน
Director: Wes Craven
Genres: Horror | Mystery
Grade: C+

ภาคแรกกลายเป็นตำนานสะเทือนหนังเชือดด้วยการนำกฎเหล็กมาตีแผ่กันอย่างเชือดเฉือนดุเด็ดเผ็ดมันส์อย่างลงตัวจนกลายเป็นหนังขึ้นหิ้งในหมู่คอหนังสยองขวัญห้ามพลาดเป็นอันขาด ส่วนภาคสองดำเนินเจตนารมย์เช่นภาคแรกด้วยการเสนอกฎเหล็กที่เกิดขึ้นในหมู่หนังเชือดมายกตีประเด็นเช่นเคยแต่จะเจาะเข้าลึกทางคนดูมากขึ้นกว่าตัวหนัง แม้จะก่ำกึ่งเรื่องเสียงวิจารณ์ในระดับค่อนข้างดีถึงปานกลางก็ตามทว่ายังทำออกมาสนุกเด็ดไม่ซ้ำใครเช่นเคยในแง่การประชดประชัน และเมื่อเป็นเช่นนั้นการมีอีกภาคให้ครบไตรภาคจึงได้เกิดขึ้นโดยวางไว้ให้เป็นหนังเชือดคั่นกระแสที่แสดงถึงบทสรุปทั้งหมดที่มีมา และเจ้าบทสรุปภาคสามนี่เองที่ทำ Scream ต้องจบลงแบบยิ่งกว่าก่ำกึ่งเพียงเพราะคำว่า"แถ"มีมากเกินยอมรับที่ได้จากไคลแม็กซ์ของเรื่องกับความจริงว่าใครคือฆาตรกรตัวจริง แต่นั้นไม่สำคัญเท่าแรงจูงใจที่พากันอุทานในสิ่งที่เกินคาดคะเนว่ายังอุตส่าห์คิดได้เหมือนพึ่งใส่จนกลายเป็นเรื่องไกลตัวในสิ่งที่ผู้ชมคิดเอาไว้ในกรอบว่าควรจะเป็นคนนี้ แต่เมื่อกลายเป็นคนที่คาดไม่ถึงก็ยังยืนยันได้อย่างหนึ่งว่าต่อให้เนื้อเรื่องจะไม่ใช่สิ่งใหม่(ซ้ำยังทำให้ปวดหัวกับตัวจริง) ถ้ายังทำให้ผู้ชมเซอร์ไพร์สได้ก็ไม่เท่ากับว่าภาคต่อหนนี้จะแย่แค่ไม่ถูกปากในความสดใหม่เท่านั้นเอง

Scream 2 (1997) หวีดสุดขีด 2

Scream 2 (1997) | หวีดสุดขีด 2
Director: Wes Craven
Genres: Horror | Mystery
Grade: C+

ปกติถ้าหนังภาคแรกออกมาดีย่อมมีภาคต่อเป็นพิธีอยู่แล้วแต่กับเรื่องนี้ไม่ใช่แบบนั้นถ้าตั้งใจทำออกมาทันทีเป็นไตรภาคโดยไม่ต้องรอว่าภาคแรกจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ดังนั้นแทบไม่ต้องอะไรเลยเมื่อภาคแรกจะเฟอร์เฟคขนาดนั้น Miramax ย่อมไฟเขียวต่อโดยปริยายและแน่นอนต้องมีอีกภาคต่อให้จบครบสามองค์แน่นอน แต่หนนี้ขอกล่าวถึงองค์ที่สองในภาคต่อที่ยังคงเช่นเคยกับนักแสดงชุดก่อนที่เหลือรอดไม่ว่าจะซิดนี่ย์ เพรสค็อตต์ (Neve Campbell) ที่ตอนนี้ได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว หรือจะเพื่อนสนิทแรนดี้ (Jamie Kennedy) ที่รอดชีวิตมาด้วยกันอย่างหวุดหวิด รวมถึงดิวอี้ (David Arquette) นายตำรวจในภาคแรกที่ยังไม่ทิ้งห่างซิดนี่ย์ด้วยความเป็นห่วง และที่ยังเป็นไม้เบื่อไม้เมาไม่หายคือเกล (Courteney Cox) นักข่าวที่ตามติดทุกเวลาเพื่อล่าข่าวให้ได้ข้อมูลก่อนใครและสมจริงที่สุด และแน่นอนว่าในหนนี้ย่อมมีสมาชิกเพิ่มเข้ามาใหม่กับเพื่อนใหม่ๆที่มีทั้งเดเร็ค (Jerry O'Connell) หนุ่มนักเรียนแพทย์ที่ไม่ใช่แค่เพื่อนเฉยๆแต่เป็นรักใหม่ของซิดนี่ย์ , ฮอลลี่ (Elise Neal) , ซีซี่ (Sarah Michelle Gellar) สาวนักเรียนในชั้นภาพยนตร์ และมิคกี้ (Timothy Olyphant) เพื่อนสนิทฝ่ายเดเร็ค ที่สำคัญยังไม่ลืมที่จะเพิ่มแม้กระทั่งบทของตากล้องที่ตีคู่มากับเกลกับโจเอล (Duane Martin) ที่ไม่รู้ว่าชะตากรรมจะเช่นคนเก่าหรือเปล่า นอกจากนักแสดงที่ขนมาอย่างเยแล้วยังมีเจ้าเก่าที่ขาดไม่ได้คือผู้กำกับ Wes Craven ที่มาเติมความสยองกันถึงที่

Scream (1996) หวีดสุดขีด

Scream (1996) | หวีดสุดขีด
Director: Wes Craven
Genres: Horror | Mystery
Grade: A-

กฎข้อแรก"จงอย่าได้มีเซ็กซ์เป็นอันขาด"
ข้อสอง"อย่ายุ่งกับสิ่งเสพติดทุกชนิด"
ข้อสามอย่าบอกว่า"ฉันจะกลับมา"
และข้อสุดท้าย"ทุกคนเป็นผู้ต้องสงสัย"

นี่คือพื้นฐานเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับสูตรหนังสยองขวัญทั้งหลายแหล่ที่ซึ่งล้วนหลีกหนีข้อดังกล่าวทุกใดข้อหนึ่งไม่ได้หมด เว้นแต่ว่านั่นจะเป็นมากกว่าหนังสยองขวัญเพี้ยวๆ อย่างข้อแรกที่ว่าเรื่องเซ็กซ์อันเกิดจากความกระหายของช่วงวัย โดยเฉพาะวัยรุ่นอันแสนอยากลองพิสูจน์เรื่องเพศจนเป็นธรรมเนียบที่ต้องพบประจำแทบทุกๆเรื่องที่อย่างน้อยจะหาเวลามีอะไรกันได้ตลอดแม้สถานที่จะไม่อำนวยเลยก็ตาม ซึ่งเป็นจังหวะของผู้ชมที่อยากดูบ้างล่ะมีของดีโชว์บางล่ะ แต่เรื่องแบบนี้ดันชอบกันจริงเพราะมันมีอารมณ์เป็นภูมิหลังช่วยเสริม จึงไม่แปลกอะไรเท่าไหร่ว่าหนังสยองจำเป็นต้องมีมากกว่าการฆ่าได้ซึ่งเลือดกับศพ เนื่องจากเป็นการเจาะเข้ากลุ่มวัยรุ่นให้ออกมาเร้าใจคล้ายกับต้องสยองแล้วต้องกระตุ้นด้วย ดังนั้นหนังสยองขวัญจึงมีผลพวงเรื่องเพศอยู่ทั้งการแต่งกาย และอิทธิพลอีกหลายอย่างอันไม่จำเป็นที่นำพามาสู่เรื่องเซ็กซ์ได้ เช่นกับการหาความสุขใส่ตัวแต่หารู้ไม่ว่าจะเป็นจุดจบของชีวิตได้เช่นกันเมื่อนางเอกที่รอดมักจะเป็นสาวพรหมจรรย์แสดงถึงความบริสุทธิ์ผิดกับตัวละครอื่นๆที่ตายเพราะมีเซ็กซ์กันแล้ว เป็นอีกหนึ่งมุมมองแสดงถึงการกระทำแห่งบาป หรือความสะอาดอันได้รับการปนเปื้อนจนต้องชำระล้างด้วยการกำจัด ซึ่งนั่นแหละเป็นมุมสะท้อนวิถีชีวิตของชาวตะวันตกที่มองว่าเป็นเรื่องปกติทั้งที่น่าจะห้ามๆเอาไว้บ้าง ทั้งนี้ยังมีเหตุผลอื่นๆอีกมากมายเกี่ยวกับเซ็กซ์ว่าทำไมต้องเพราะเช่นนี้อย่างเรื่อง Friday the 13th ที่กล่าวกันว่ามีสูตรตายตัวเรื่องตัวละครมีเซ็กซ์แล้วพบอันเป็นไปบ่อยมาก แต่หารู้ไม่ว่าเมื่อมองความเข้าใจในจุดนี้ตั้งแต่ภาคแรกจะรับรู้ว่านี่คือปมประเด็นอย่างหนึ่งที่สะท้อนชีวิตวัยรุ่นออกมาว่าเห็นแก่ตัวมากแค่ไหน

Carrie (1976) แครี่ สาวสยอง

Carrie (1976) | แครี่ สาวสยอง
Director: Brian De Palma
Genres: Horror| Mystery
Grade: A-
 
"เด็กมีปัญหาไม่ใช่เพราะตัวเด็ก แต่มาจากสิ่งรอบข้างที่ทำให้เด็กรู้สึกว่าตัวเองคือแกะดำที่กลายเป็นอสุรกายได้" 
 
ดัดแปลงมาจากนิยายของ Stephen King หรือราชาเขย่าขวัญที่เขียนหนังสือสะท้อนความหวาดกลัวจากใจมนุษย์ในแบบไม่ซับซ้อนแต่เกินคาดเดากับด้านมืดในใจที่อยู่นอกเหนือสิ่งเหนือธรรมชาติ และนี้ก็เป็นหนังเรื่องแรกที่ดัดแปลงมาจากหนังสือของเขาก่อนภายหลังจะมีการดัดแปลงมาเป็นหนังยาวเป็นหางว่าว แต่ถ้าพูดถึงงานที่มีคุณภาพน่าจับตามองจริงๆต้องเริ่มที่เรื่องนี้ที่ดัดแปลงออกมาเป็นหนังได้อย่างแยบยลและไม่น่าเบื่อแถมยังทรงพลังอีกต่างหาก และเรื่องของเรื่องก็มาจากจุดเริ่มต้นของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ท่าทางขี้กลัว อ่อนแอ และไร้เดียงสาต่อโลกภายนอกราวกับคนที่ถูกมองข้ามเสมอและยังเป็นตัวตลกในสายเพื่อนๆอย่างปฏิเสธไม่ได้ และเธอคนนั้นชื่อแครี่ ไวท์ (Sissy Spacek) ที่ถูกกีดกั้นจากทุกสิ่งจากมาร์กาเรต (Piper Laurie) แม่ที่คลั่งศาสนาจนมองสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นบาปไปเสียเกือบหมด ซึ่งแม่ของแครี่คือต้นเหตุในหลายๆเรื่องที่ไม่ยอมบอกอะไรเลยและวันๆก็ทรมานลูกให้ท่องสวดมนต์ในห้องแคบเชิงการสารภาพบาป แต่แล้วเมื่อเวลานั้นมาถึงก็กลายเป็นเรื่องแย่ๆเกิดขึ้นกับตัวแครี่เมื่อระหว่างอาบน้ำหลังเล่นบอลเลย์เสร็จก็เกิดประจำเดือนอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว ที่สำคัญคือมันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับผู้หญิงทั่วไป ทว่ากับแครี่นั้นไม่รู้ว่าอะไรคือประจำเดือนมาก่อนเนื่องจากแม่ของเธอไม่เคยบอกถึงมาก่อนเพราะเรื่องแบบนี้คิดว่าคนในครอบครัวคงรู้กันอยู่แล้วเมื่อลูกโตเป็นสาว กระนั้นกับครอบครัวไวท์ที่มีเพียงแม่กับลูกสาวดูจะไม่ใช่แบบนั้นเลยเมื่อคนที่เป็นแม่ดันบ้าศาสนาเข้าเส้นจนมองว่าการมีประจำเดือนคือบาปที่ทำให้ลูกสาวกลายเป็นเหยื่อของบรรดาผู้ชาย นี่จึงเป็นต้นเหตุที่ว่าแครี่เริ่มถูกตัดขาดจากโลกภายนอกมากขึ้นและยังโดนกลั่นแกล้งจากเพื่อนเสมอเพราะเธอคือตัวประหลาด แต่แครี่ไม่ใช่แบบนั้นเสมอไปเมื่อเธอเริ่มจะมีพลังจิตและจะแสดงออกมาเมื่ออารมณ์ของเธอแปรปรวน เมื่อไรที่คุมอารมณ์ไม่อยู่ก็เมื่อนั้นคงถึงคราวระบายอารมณ์ไม่เลิกรา

Coma (1978) โคม่า ธนาคารคนดิบ

Coma (1978) | โคม่า ธนาคารคนดิบ
Director: Michael Crichton
Genres: Drama | Horror | Mystery | Thriller
Grade: B+

"เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ"

ดร.ซูซาน วีลเลอร์ (Genevieve Bujold) แพทย์สาวที่บังเอิญพบข้อสงสัยบางอย่างในโรงพยาบาลของเธอ หลังพบว่ามีผู้ป่วยที่มีอาการโคม่าเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและผิดปกติ ซึ่งเธอไม่อาจหาสาเหตุที่แน่ชัดได้ เนื่องจากทุกรายล้วนมาด้วยสาเหตุและวิธีรักษาที่แตกต่างกัน แทบไม่มีประเด็นไหนหรือจุดเชื่อมโยงเข้าหากัน ทว่าความสงสัยนี้ทำให้ไม่ละทิ้งหาความจริง แล้วนั่นนำสู่เรื่องราวที่คาดไม่ถึง

Knives Out (2019) ฆาตกรรมหรรษา ใครฆ่าคุณปู่

Knives Out (2019) | ฆาตกรรมหรรษา ใครฆ่าคุณปู่
Director: Rian Johnson
Genres: Comedy | Crime | Drama | Mystery | Thriller
Grade: A

เนื้อในเป็นหนังสืบสวนที่ไม่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนขนาดต้องร้องว้าว แต่วิธีเล่าทำให้ทุกอย่างออกมาบันเทิง พลิกแพลงความน่าจะเป็นให้ออกมาง่ายไม่ปวดหัวหรือกลัวตามไม่ทัน ที่สำคัญคือการเฉลยที่ไม่รีรอจนวินาทีสุดท้าย ทำให้รู้กันไปเลยว่าสาเหตุการตายคืออะไร ใครเป็นคนทำ และทำไมต้องฆ่า ในเมื่อบอกรายละเอียดมาขนาดนี้จากเจ้าตัวที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ไม่รู้จะเหลืออะไรให้ไปต่อ ทว่ายังเสาะหาสิ่งที่คาดไม่ถึงโดยที่เฉลยยังเหมือนเดิม

Ad Astra (2019) ภารกิจตะลุยดาว

Ad Astra (2019)
ภารกิจตะลุยดาว
Director: James Gray
Genres: Adventure | Drama | Mystery | Sci-Fi | Thriller
Grade: A-

ใช้นักแสดง Brad Pitt ได้คุ้มค่าแค่ไหน คงตอบได้เพียง Normal แต่ความนิ่งเมินเฉยเป็นสิ่งที่ชอบเพราะเข้ากับคาแรคเตอร์ตัวละคร ซึ่งทำไมต้องนิ่งเป็นคนใจเย็นได้ขนาดนี้มาจากการควบคุมจิตใจ มีหลายฉากจะเห็นการตรวจสภาพจิตและร่างกาย ต้องนิ่งและปกติมากที่สุด ไม่ตื่นเต้นไม่กลัวไม่สับสน เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อภารกิจ
รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)