Body of Lies (2008)
แผนบงการยอดจารชนสะท้านโลก
Director: Ridley Scott
Genres: Action / Drama / Thriller
Grade: A-
เรื่องราวของการปฏิบัติการของซีไอเอในการติดตามหัวหน้าผู้ก่อการร้ายที่วางระเบิดตามสถานที่สำคัญหลายแห่งในยุโรป โรเจอร์ เฟอร์ริส (Leonardo DiCaprio) คือเจ้าหน้าที่ภาคสนามฝีมือเยี่ยมที่ต้องเดินทางจากซีกโลกหนึ่งไปอีกโลกหนึ่ง โดยมี เอ๊ด ฮอฟแมน (Russell Crowe) ที่คอยจับตามองทุกย่างก้าวจากดาวเทียมสื่อสาร ผู้เป็นคนเดินหมากให้เป็นไปตามแผน แต่เมื่อเฟอร์ริสเข้าใกล้สิ่งที่เขาคิดว่าใช่ขึ้นเรื่อยๆกลับรู้สึกว่าเป้าหมายที่ตามล่ามานานนั้นเป็นเรื่องอันตรายเกินตัวพอที่จะเอาชีวิตไปได้ จึงเกิดเรื่องความระแวงระวังที่มากขึ้นจนเรื่องความไว้เนื้อเชื่อใจเริ่มบั่นทอนไป มีแต่ตัวเองเท่านั้นที่เชื่อได้มากที่สุดแต่การจะทำสำเร็จตามแผนต้องมีมากกว่าตัวเองเพียงคนเดียว
เรื่องความไว้ใจกันเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้งานสำเร็จลุล่วงไปได้ แต่ถ้าสิ่งนี้เริ่มหวั่นไหวโอกาศที่งานออกมาสมบูรณ์ก็ยิ่งน้อยลงไปและจำเป็นต้องมีการเสียมากกว่าได้ ในสภาพแวดล้อมสังคนที่ต่างคนต่างอาศัยทำตามที่ได้รับหน้าที่ว่าต้องทำเพื่อความอยู่รอด แต่การที่จะทำตามคำสั่งต้องยอมรับสิ่งความศรัทธาว่าคงไม่ได้สั่งให้ไปเสียมากกว่าจะสละเพื่อบางสิ่งที่ผิด
เวลาคนเราจะยอมทุ้มกับอะไรอาจจะมีเสียบ้างเพื่องานออกมาดูดีที่สุด แต่กลับบางงานการเสียไปหนึ่งครั้งคือการเสียเวลาและโอกาศไปอีกหลายสิบครั้ง เนื่องจากผู้ก่อการร้ายยุคใหม่เลือกที่จะใช้การสื่อสารและออกคำสั่งภายในกลุ่มด้วยวิธีแบบโบราณ นั่นคือ อกคำสั่งโดยตรง แบบปากต่อปาก คนต่อคน โดยใช้เทคโนโลยีให้น้อยที่สุด จึงเป็นเรื่องยากมากที่ซีไอเอจะลักลอบดักฟังสัญญาณหรือตรวจสอบด้วยเทคโนโลยีไฮเทคที่ล้ำสมัย ทำให้เรื่องต้องหนักมือพวกซีไอเอที่ต้องลงสนามปฏิบัติไปตามสืบแบบลับๆๆม่ให้ถูกจับได้ เพราะแน่นอนว่ารัฐไม่ยอมเจรจายินดีที่จะช่วยเหลือแน่นอนเพราะมันคือความลับ ในเรื่องจัดว่าแอ็คชั่นไม่ได้มากอย่างที่คิดเพราะเน้นหนักไปที่เนื้อเรื่องซะมากจนเป็นหนังที่คุยกันอย่างคมๆ และเป็นแบบแผน
เวลาคนเราจะยอมทุ้มกับอะไรอาจจะมีเสียบ้างเพื่องานออกมาดูดีที่สุด แต่กลับบางงานการเสียไปหนึ่งครั้งคือการเสียเวลาและโอกาศไปอีกหลายสิบครั้ง เนื่องจากผู้ก่อการร้ายยุคใหม่เลือกที่จะใช้การสื่อสารและออกคำสั่งภายในกลุ่มด้วยวิธีแบบโบราณ นั่นคือ อกคำสั่งโดยตรง แบบปากต่อปาก คนต่อคน โดยใช้เทคโนโลยีให้น้อยที่สุด จึงเป็นเรื่องยากมากที่ซีไอเอจะลักลอบดักฟังสัญญาณหรือตรวจสอบด้วยเทคโนโลยีไฮเทคที่ล้ำสมัย ทำให้เรื่องต้องหนักมือพวกซีไอเอที่ต้องลงสนามปฏิบัติไปตามสืบแบบลับๆๆม่ให้ถูกจับได้ เพราะแน่นอนว่ารัฐไม่ยอมเจรจายินดีที่จะช่วยเหลือแน่นอนเพราะมันคือความลับ ในเรื่องจัดว่าแอ็คชั่นไม่ได้มากอย่างที่คิดเพราะเน้นหนักไปที่เนื้อเรื่องซะมากจนเป็นหนังที่คุยกันอย่างคมๆ และเป็นแบบแผน
สิ่งที่สำคัญคือการวางแผนและเพื่อกันความประมาทออกไปต้องซ้อนอีกแผน จนเป็นแผนซ้อนแผน ทำให้คนดูเริ่มจะเครียด แต่นับว่าชวนน่าตื่นเต้นพอดู ถึงเรื่องบทจะดูรัดรวบจนสั้นไปบางช่วงจนคนดูสัมผัสถึงความงงได้เลยถ้าเกิดไม่เข้าใจหรือติดตามไม่ได้ต่อเนื่อง เพราะการอธิบายที่สั้นและไม่ได้จับความประเด็นให้ดูจดจำ ทำให้อาจเกิดความสับสนเพราะเป็นเรื่องของแผนซ้อนแผน ซ้อนไปมาจนเริ่มเหมือนใครโกงใครกันแน่ทั้งๆที่มาดีตลอด
ประเด็นของเรื่องคือการสืบและจัดการพวกผู้ก่อการร้ายด้วยการทำงานเป็นทีม แต่เหมือนทุกอย่างจะมาลงเอยที่คนๆเดียวแบบเหมือนหลอกใช้มาตลอด เพื่อให้ภารกิจสำเร็จ เรื่องนี้สนุกสปายทริลเลอร์ แอ็คชั่นไม่ค่อยมีแต่นั้นไม่ใช่จุดสำคัญหากต้องเนื้อเรื่องเข้มข้นด้วยจึงจะสนุกอย่างแท้จริง เรื่องอาจทำคุณงงแต่อย่าสับสนเพราะมันแผนที่เกิดจากแผนที่ซ้อนแผนอีกที เพื่อความไว้ใจคือการทำงานให้สำเร็จอย่างปลอดภัย ฉะนั้นระวังที่จะโดนหลอกเพื่อใครอีกคนที่คุณคิดไม่ทัน
ประเด็นของเรื่องคือการสืบและจัดการพวกผู้ก่อการร้ายด้วยการทำงานเป็นทีม แต่เหมือนทุกอย่างจะมาลงเอยที่คนๆเดียวแบบเหมือนหลอกใช้มาตลอด เพื่อให้ภารกิจสำเร็จ เรื่องนี้สนุกสปายทริลเลอร์ แอ็คชั่นไม่ค่อยมีแต่นั้นไม่ใช่จุดสำคัญหากต้องเนื้อเรื่องเข้มข้นด้วยจึงจะสนุกอย่างแท้จริง เรื่องอาจทำคุณงงแต่อย่าสับสนเพราะมันแผนที่เกิดจากแผนที่ซ้อนแผนอีกที เพื่อความไว้ใจคือการทำงานให้สำเร็จอย่างปลอดภัย ฉะนั้นระวังที่จะโดนหลอกเพื่อใครอีกคนที่คุณคิดไม่ทัน
