Alien Vs. Predator (2004) สงครามชิงเจ้ามฤตยู

Alien Vs. Predator (2004) | สงครามชิงเจ้ามฤตยู
Director: Paul W.S. Anderson
Genres: Action / Adventure / Horror / Sci-Fi / Thriller
Grade: B

เกิดเหตุการณ์ประหลาดเมื่อมีการค้นพบแหล่งความร้อนบางอย่างที่ใต้พื้นน้ำแข็ง ณ ขั้วโลกใต้ และนั้นทำให้หลายคนคิดว่าสิ่งนี้คือโบราณสถานที่ยุคแรกๆ ทำให้ต้องหาสุดยอดมือดีมีประสบการณ์มาร่วมภารกิจสำรวจค้นหาโดยมี ชาร์ลส บิชอป เวย์แลนด์ (Lance Henriksen) เป็นนักธุรกิจรายใหญ่ที่ริเริ่มให้ทำการตรวจสอบว่าโราณสถานที่ที่เป็นปิรามิดนี่มีอยู่จริง ซึ่งทีมนำโดย อเล็กซ่า วูดส์ (Sanaa Lathan) นักปีนเขาที่ชำนาญบนทางน้ำแข็ง แล้วพวกเขาก็ไปยังสถานที่แห่งนั้นด้วยความที่ไม่รู้เรื่องราวทำให้กลายเป็นผู้ทำให้เกิดสงครามระหว่างสองเผ่าพันธุ์นั้นคือเอเลี่ยนกับพรีเดเตอร์ ทำให้คนที่รอดต้องหาทางก่อนโดนเป็นแหล่งเพาะตัวอ่อนหรือโดนกำจัดให้พ้นทาง


การจะให้สัตว์ประหลาดต่างดาวแห่งยุคมาเจอกันนับว่าผูกเรื่องได้น่าสนใจและทำให้เหมาะสมกันดี เรื่องการถ่ายทอดเล่าถึงความสัมพันธ์ของเอเลี่ยนกับพรีเดเตอร์ที่มาตั้งแต่ยุคอารยธรรมโบราณนั้นนับว่าลงตัว คือเอเลี่ยนเปรียบกับการทดสอบของเหล่าพวกพรีเดเตอร์ ว่าถ้าพรีเดเตอร์สามารถฆ่าหรือกำจัดเอเลี่ยนได้จะบรรลุนิติภาวะเป็นนักล่าโดยสมบูรณ์ทำให้พรีเดเตอร์อาจจะดูอ่อนๆไม่เก่งเหมือนอย่างที่เห็นในภาคเฉพาะตัวของมันเอง เพราะที่เคยเห็นนั้นบรรลุนิติภาวะมาแล้ว จะมากประสบการณ์และเก่งเนื่องจากผ่านอะไรต่อะไรมาเยอะ

ถ้าดู Predator 2 ในช่วงท้ายๆเรื่องในยานจะเห็นว่าจะมีอยู่กระโหลกหนึ่งที่เป็นของเอเลี่ยน ซึ่งจะเป็นปมของเรื่องที่จะมาคลายในภาคนี้ว่าเป็นมายังไง ที่สำคัญคุณอาจคุ้นๆหน้าตาและชื่ออย่าง ชาร์ลส บิชอป เวย์แลนด์ (Lance Henriksen) ที่เป็นนักธุรกิจเพราะตัวละครนี่เคยไปปรากฎใน Alien 2 และเป็นหุ่นยนต์ชื่อบิชอปเช่นเดียวกัน คิดว่าเป็นการเพิ่มความน่าสนใจในเนื้อเรื่องที่ไม่กระจ่างถึงแม้ไม่ชัดเจนแต่ถือว่าเป็นลูกเล่นให้กับแฟนๆเอเลี่ยนทั้งหลาย


บางคนคงรู้สึกถึงความอืดของเรื่องที่ดำเนินไป 40 นาทีแล้วยังไม่เห็นอะไรที่พอฟัดพอเหวี่ยงกันเลยแต่บอกตรงๆนี่เป็นจุดการผูกเรื่องที่สำคัญอย่างหนึ่งถ้าขาดไปจุดนี้ไปคิดว่าบางทีอาจทำให้เนื้อเรื่องดูไม่สมเหตุสมผลที่จะจับสองนักฆ่าอวกาศมาเจอกัน แต่พอเอเลี่ยนเจอกับพรีเดเตอร์แล้ว เรื่องก็ไปมันส์แบบไม่ยั้งกันเลยเหมือนจะหนักไปทางแอ๊คชั่นมากกว่าจะให้ดูออกมาสยองหรือน่าตื่นกลัวนี่หาแทบไม่ได้เลย

พรีเดเตอร์ยังคงความมีศักด์ศรีเหมือนเดิมคือไม่ฆ่าสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอหรือป่วยแต่ถ้าไม่ยั่วให้โกรธเข้าก็ไม่คิดละเว้นเหมือนกันเพราะอุตสาห์ปล่อยให้รอดแล้วยังมาตลบหลังก็เสร็จไปซะ การเพิ่มกฎและประวัติศาสตร์ทำให้ทราบเป็นอย่างดี ทำให้เอกลักษณ์ความสัมพันธ์ของเผ่าพันธุ์ยิ่งมีมิติเพิ่มขึ้น


ต้องบอกว่าภาคนี้มามืดจริงๆประมาณว่าให้เจ้าพวกเอเลี่ยนกับพรีเดเตอร์มาแบบซุ่มๆจะได้พอกันให้ลุ้น แถมยังมีสภาพของปริศนาต่างๆตามปิระมิดที่เปลี่ยนไปมาตามเวลาทำให้ทำลายแนวเดิมๆออกไปคือการอยู่ร่วมเป็นกลุ่มแต่ต้องแยกออกอย่างบังคับ หนังบางเรื่องจะชอบให้ตัวละครแยกย้ายไปมาแล้วสุดท้ายก็โดนเก็บทีละคนตามพล็อตเรื่องเก่าๆแต่นี่จะอยู่กันเป็นกลุ่มใหญ่ๆทำให้ไม่รู้สึกเสียวหรือลุ้นจนตกใจเพราะตัวละครค่อนข้างเยอะ แต่เพื่อเพิ่มความตื่นตาเข้าแทนเรื่องความเสียวคือการใช้ลูกเล่นต่างๆอย่างพื้นหรือผนังของปิระมิดที่เปลี่ยนไปมาเหมือนการทำงานของเครื่องกลจนเป็นเหตุให้แต่ละคนเริ่มหลงทางและพลัดพรากจากกันไป ทำให้สไตล์การผจญภัยแบบไล่ล่าดำเนินไปได้พอดี

มีแนวการเล่นกับจินตนาการของคนตามแบบฉบับเอเลี่ยนภาคแรกคือให้คนดูตกใจและคิดไปเองเพราะเราจะไม่เห็นว่าใครโดนฆ่าหรือกระทำอย่างไรแต่กระนั้นก็ยังไม่สามารถกระตุ้นแนวคิดได้ดีมากนัก พรีเดเตอร์ของเรานี่รู้สึกแปลกๆตรงที่ทำออกมาได้อ่อนมากแต่กลับกันก็เก่งมากด้วยจนเดาไม่ออกว่ายอดนักล่าแห่งอวกาศจะเป็นอยู่สภาพไหนเมื่อเจอกับพวกเอเลี่ยนมาเป็นฝูงๆ แต่รูปแบบการไล่ล่าของพรีเดเตอร์นั้นไม่ค่อยจะชัดเจนเท่าไรเพราะจะเน้นหนักไปที่คนเล่นจะมีตัวเสริมอย่างเอเลี่ยนกับพรีเดเตอร์ช่วยเพิ่มความน่าสนใจไปเท่านั้นซึ่งจะเริ่มมีบทบาทมากขึ้นเมื่อมาสู้กัน กลายเป็นว่าคนที่ถูกนับเป็นกลางของเรื่องยังต้องเลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าต้องเลือกพรีเดเตอร์ เหตุผลคือถ้าคุณไปเสี่ยงอยู่กับเอเลี่ยนแน่นอนว่าต้องโดนขังให้ตัวอ่อนฝังตัว


คือประทับใจตรงที่มีการเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ของพรีเดเตอร์และเอเลี่ยนโดยมีมนุษย์เป็นเสาหลักให้เกิดสงคราม และฉากที่ไม่เคยเห็นคือการเข้าใจกันของมนุษย์กับพรีเดเตอร์อย่างเข้าขาได้ดี แต่ว่าเรื่องช้าไปหน่อยเพราะต้องให้ตัวละครดำเนินเรื่องไปก่อนและสิ่งที่เคยเห็นหรือสัมผัสในหนัง Alien กับ Predator ก็หายไปมากด้วยทั้งการไล่าแบบเงียบหรือฉากที่สไตล์การฆ่าที่ดูกลายเป็นว่าธรรมดาไปเรียบร้อย

มนุษย์ผู้เป็นตัวกลางของระหว่างสงครามที่อุบัติขึ้น เป็นผลพวงให้เกิดการต่อสู้อย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้ต้องดิ้นรนอย่างสุดชีวิตในการเอาตัวรอดโดยมีเบื้องหลังของความน่ากลัวระหว่างเอเลี่ยนกับพรีเดเตอร์ที่ฆ่าอย่างไม่เลือกฝ่าย


รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)