Salo, or the 120 Days of Sodom (1975) สุขนาฏกรรมอเวจี 120 วันในโซดอม

Salo, or the 120 Days of Sodom (1975) | สุขนาฏกรรมอเวจี 120 วันในโซดอม
Director: Pier Paolo Pasolini
Genres: Drama | Horror | War
http://www.imdb.com/title/tt0073650/
Grade: C+

กับช่วงแรกของหนังดูสดใสและรื่นหูรื่นตาแบบสดใสเพราะเพลงประกอบที่ใช้ดนตรีได้ไพเราะเป็นเสียงเปียโนบรรเลงโดยโชแปงพร้อมกับฉากที่ดูละไมเหมือนสวรรค์แห่งดินแดนความสุขแต่จะยิ่งกะไรอยู่เมื่อมีการจับกุมวัยรุ่นชายหญิง 18 คน โดยพวกทหารฟาสซิสต์และนักการเมือง โดยเอามาคุมขังและใช้ทำประโยชน์ให้ความพอใจต่างๆแบบผิดเกินมนุษย์ ทั้งวิตถารแบบสุดตื่นตาตื่นใจแบบไม่มีที่สิ้นสุดกับการทรมานที่เต็มไปด้วยสนองตัณหาที่ถึงขั้นโรคจิตอย่างรุนแรง ตั้งแต่จับแก้ผ้า ข่มขืน บังคับแต่งงานแล้วร่วมรักให้ทหารดู จับประกวดบั้นท้าย และอีกมากมายที่ผู้ชมต่างต้องตระหนักของความสุดยอดแห่งการเสนอความจิตตกที่กระทบศีลธรรมเข้าอย่างจัง


น่าจะเรียกได้ว่าเป็นหนังที่รุนแรงมากที่สุดอีกเรื่องหนึ่งในการเหยียดชนชั้นสังคมที่กระทำออกมาได้เลวร้ายแบบสุดขั้วเกินเยียวยาและเหมือนอยู่คนละโลกกับการชมเรื่องนี่ กลายเป็นสภาพที่เต็มไปด้วยความรุนแรงแบบไม่สนใจสิ่งใด ทั้งเรื่องเพศที่ใส่เข้ามาจนเป็นที่อุจารตาจนมองเป็นหนังที่ผิดวิสัยความเป็นมนุษย์ที่ดูย่ำแย่กว่าสัตว์เดรัจฉานที่ทำเกินธรรมชาติเพราะความบกพร่องทางจิตใจชนิดจิตเสื่อม ตัวหนังรุนแรงมากด้านศีลธรรมและความเป็นมนุษย์ที่หาแทบไม่ได้เลยกับเรื่องนี่ทำให้เป็นหนังเรื่องสุดท้ายของผู้กำกับชาวอิตาลี ปีแอร์ เปาโล ปาโซลินี เพราะเหตุผลง่ายๆคือผู้ชมรับไม่ได้ถึงขั้นเป็นผลงานสู่ความตาย และเวลาต่อจากนี่ทำให้เป็นหนังของประเทศอิตาเลี่ยนที่หลายๆคนถึงกับอุทานออกมาว่า “ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนกล้าสร้างหนังแนวนี้ออกมา”

เรื่องลับข่าวลือที่น่าเป็นจริงก็เกิดขึ้นหลังจากที่เรื่องนี่ได้ออกมาวางขายในตลาดใต้ดินแบบเงียบๆตามประสากลุ่มหนังคัทล์ที่โด่งดัง แต่แล้วก็มีชนกลุ่มหนึ่งที่รับชมแล้วไม่ได้รับความพอใจกับเนื้อเรื่องที่เต็มไปความวิกลจริตแบบสุดขั้วเกินเยียวยาและโหดร้ายจนดูไม่มีทางจะเป็นเรื่องแต่งเพราะการถ่ายทำและพฤติกรรมของตัวละครนั้นดูเป็นภาพที่อุดจารตาและสมจริงจนมองไม่ออกเป็นวงกว้างไปทั่วโลก ทำให้ Pier Paolo Pasolini ถูกตายด้วยการขับรถพุ่งชน และเหยียบซ้ำจนหัวเละ ทั้งนี่เชื่อว่าเป็นคนของกลุ่มนิยมฟาสซิสต์ที่เคร่งศาสนาศีลธรรม ในวันที่ 2 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.1975 เป็นจุดจบที่น่าสังเวชและผลงานก่อนสิ้นชีวิตที่สุดแสนอันตรายที่ปีเดียวกัน 


ทั้งภาพที่เสนอแบบดูเกินทนที่เต็มไปด้วยเหตุการณ์ชวนผวาขนลุกและเกินไปมากกับจริยธรรมที่จะแฝงปรัชญาชวนคิดเพราะการเสนอที่อุดมไปด้วยแต่เรื่องผิดๆที่ตอบสนองตัณหาแบบหน้าตาเฉยแล้วยังใช้การหัวเราะที่ฟังยังไงก็ไม่รู้สึกขำตามการกระทำที่ผิดรูปแบบเกินจะหัวเราะออกมาดังว่าตลกดี

ถ้าจะลองจับจุดได้จะมีประเด็นสำคัญหลักคืออำนาจที่หลงใหลของความไม่พอดี จนเป็นเหตุแห่งความไร้มนุษยธรรม ที่เรื่องเสนอถึงชนชั้นการใช้อำนาจต่อผู้ใต้ปกครองเพื่อสนองความสุขของตนเองโดยไม่มีคำว่าเมตตาแต่อย่างใด ถ้าถามว่าเป็นหนังที่ดูโหดร้ายฉากที่ชวนหวือหวาพาอาเจียนหรือเปล่า คงตอบได้ว่าเป็นไปตามนั้นแค่บางส่วน เรื่องนี่ไม่ได้ดูอุดจารตาถึงขั้นมองไม่ได้ดูต้องหลับตา จะมีแต่การทรมานที่เด็ดขาดกันแบบสุดๆเต็มไปความกดดันแบบบีบวิสัยมุมมองไปคนละโลก และชวนหดหู่กับการถูกข่มเหงที่ไม่หยุดหย่อน


ถึงงั้นตัวหนังยังเล่นฉากสนัฟฟิล์มเพื่อเติมรสชาติที่ชัดขึ้นจนถึงเวลานั้นแหละที่ควรคลื่นไส้เพราะเต็มๆกับฉาก คิดว่าเป็นหนังสอนอุทาหรณ์ความหลงระเริงในอำนาจแบบไม่มีเมตตาโดยไม่สนเรื่องชีวิตคนอื่นๆ ขอแค่ใช้ประโยชน์บำเรอความสุขตนเองก็พอใจแล้ว หรือง่ายๆคือความเห็นแก่ตัวที่ยิ่งมากับอำนาจก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้นและพฤติกรรมที่แตกแยกเป็นขั้วลบ

Pier Paolo Pasolini ลงรายละเอียดและใส่ใจในการเลือกสถานที่มาก โดยฉากที่ใช้ในหนังเรื่องนี้ส่วนใหญ่คือเมือง Salo, Brescia และ Lombardia ในประเทศ Italy ทำให้ออกดูเป็นชนชั้นที่อยู่สูงและออกมั่งคั้งในอำนาจ


Pier Paolo Pasolini ดัดแปลงจากนิยายนักเขียนชาวฝรั่งเศสของ Donatien Alphonse Francois de Sade ซึ่งนามสกุลของเขาเป็นที่มาของคำว่า Sadism เรื่อง The Divine Comedy (1307) โดยส่วนใหญ่เป็นเขียนงานด้านปรัชญา และมักจะเป็นเรื่องทางกามารมณ์ที่รุนแรง บ้างก็เป็นงานเชิงปรัชญาที่เคร่งครัดจริงจัง ผลงานของเขามักจะเน้นเสรีภาพสุดโต่ง โดยไม่ถูกจำกัดด้วยจริยธรรม ศาสนา หรือกฎหมาย และมุ่งเน้นสุขารมณ์ส่วนตัวเป็นหลักใหญ่ ผ่านการทรมานร่างกายในรูปแบบต่างๆ ผลงานของเขาส่วนมากเขียนขึ้นในช่วง 29 ปีที่เขาถูกจับขังในโรงพยาบาลบ้า 

"ผมเชื่อว่า การสร้างเรื่องอื้อฉาว เป็นหน้าที่ของศิลปินเรื่องราวเหล่านี้นำมาซึ่งความปิติยินดี การปฏิเสธมันก็เท่ากับเป็นการปฏิเสธศีลธรรมที่สั่งสมกันมาชั่วนาตาปี" จาก Pier Paolo Pasolini ที่กล่าวเอาไว้กับผลงานหนังของเขา

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)