Gone in Sixty Seconds (2000) 60 วิรหัสโจรกรรมอันตราย

Gone in Sixty Seconds (2000)
60 วิรหัสโจรกรรมอันตราย
Director: Dominic Sena
Genres: Action | Crime | Thriller

แรนดัส เมนฟิส เรนส์(Nicolas Cage)ต้องกลับบ้านเก่าพร้อมกับปัญหาชิ้นใหญ่ที่น้องของตัวเอง คิพ (Giovanni Ribisi) ได้ก่อปัญหาเอาไว้ นั้นคือการแซงค์รถที่เป็นไปตามข้อตกลงของเรย์มอนด์ เคลลิตี (Christopher Eccleston) แต่ต้องพลาดและถูกจับได้ ทำให้เมนฟิสต้องรวบรวมสมาชิกแซงค์รถ เพื่อตามเก็บงานของผู้น้องที่เป็นไปตามคำขู่ที่ว่าถ้าทำงานไม่สำเร็จน้องไม่รอด ซึ่งทำให้เมนฟิสและสมาชิกเก่าในกลุ่มต้องกลับคืนสู่วงการและภารกิจที่เสี่ยงอันตรายเพื่อช่วยน้องกับสถิติที่จะทำให้รู้ว่าการโจรกรรมครั้งนี้จะมีการขโมยรถ 50 คันภายในคืนเดียวได้อย่างไง


Gone in Sixty Seconds เป็นงานรีเมคใหม่ของปี 1974 ถ้าลองเปรียบเทียบกันแล้วของปี 2000 นั้นยังให้ความรู้สึกที่มีสีสันมากกว่าและลูกเล่นที่เยอะมากกว่า ทั้งนี้คงเป็นเพราะยุคสมัยที่แตกต่างกันทำให้กลายเป็นว่าของต้นฉบับดูดิบและเถื่อนมากกว่าในการซิ่งรถ แต่กับของงานรีเมคจะให้ความรู้สึกที่มากความสร้างสรรค์แต่ขาดความดิบและตรงตัวเหมือนต้นฉบับ ซึ่งถ้าลองเทียบกันจริงๆจะมีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก แต่โดยรวมแล้วผลงานทั้งต้นฉบับและรีเมคเลือกที่มีดีในแบบของตนเองเสียมากกว่าจะนำมาสร้างใหม่

ยอมรับว่าการดำเนินเรื่องเป็นไปอย่างต่อเนื่องและเก็บรายละเอียดได้ดีในการตีเข้าสู่เรื่องราวในตอนท้ายของเรื่องที่ใส่แบบเต็มแม็กซ์กับการขโมยที่ใส่ความตื่นเต้นและเป็นแบบแผนชวนคิด ผสมความระทึกให้ชวนน่าติดตาม ในเรื่องอขงความต่อเนื่องตัวหนังจะดูอึดๆไปบ้างกับช่วงแรกที่เป็นการเสนอตัวละครต่างๆให้ผู้ชมรู้จัก ซึ่งจะเสนอตัวละครที่โผล่มาแบบเฉพาะของตนเองทำให้เกิดความโดดเด่นในการเรียกสมาชิกในแก๊งได้ดี ทว่าการแจกจ่ายบทยังไม่ดีพอที่จะเรียกความสนใจของแต่ละบุคคลได้ชัดเจน รวมถึงภูมิหลังที่เกริ่นได้แบบง่ายๆ ขอแค่บอกว่าเป็นคนที่เคยเก่งแต่เลิกเป็นแล้ว แต่ที่ยังดีที่ตัวหนังทำออกมาได้เด่นชัดของเรื่องการเลียนแบบพฤติกรรมของฝ่ายน้องที่อยากเป็นแบบพี่ แต่เพราะขาดความชำนาญจึงเกิดปัญหาและความวุ่นวายที่ผู้พี่ต้องลงมือกลับมาทำเหมือนเช่นอดีตอีกครั้ง แต่กระนั้นจริงที่ว่าการแจกบทยังไม่สูสีมากพอแต่บทบาทของแต่ละนักแสดงมีความเหมาะสมที่ลงตัวในทุกฉาก ทำให้ดูเป็นธรรมชาติและเพลิดเพลินกับกับฉากต่างๆที่มีลูกเล่นตามสไตล์
 

ประเด็นเรื่องพี่น้องที่ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันเป็นศีลธรรมที่อาจเป็นเรื่องไม่ถูกต้องในเรื่องการกระทำความผิดเพื่อให้รอดและงานที่ผิดกฎหมาย แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งจะเห็นว่าความผูกพันของเมนฟสนั้นดูหนักหนาสาหัสเอาการ กับการต้องมาเป็นเหมือนอย่างเคยเพราะน้องที่เดือดร้อน ซึ่งตัวหนังได้บอกแล้วอย่างดีว่าเมนฟิสได้เลิกไปแล้วและไม่คิดกลับเข้าสู่วงการนี้อีก เนื่องจากต้องการความปลอดภัยของทุกคน ทำให้เป็นตัวละครที่มีความทุกข์ซะมากกว่าหลังเกิดเรื่อง แต่ระหว่างความทุกข์นั้นให้ความรู้สึกมีศรัทธาและความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมโดยนักแสดงอย่าง Nicolas Cage ให้ความรู้สึกทางอามรมณ์ผ่านสีหน้าได้อย่างดี

ตัวหนังมีช่วงใหญ่ๆอยู่ 2 ช่วงคือช่วงแรกที่จะเกริ่นเรื่องราว แนะนำตัวละคร และการวางแผนโจรกรรมอย่างละเอียด โดยช่วงที่สองจะจัดเน้นไปที่การลงมือโจรกรรมรถ รวมไปถึงฉากแอคชั่นไล่ล่ากันตามท้องถนนชุดใหญ่ที่ใส่ลูกเล่นมาเซอร์ไพรส์พาลุ้นตื่นเต้นตื่นตาได้ตลอดเวลา ทำให้เนื้อเรื่องดูกระชับรวดเร็วและแรงพอที่ยึดใจผู้ชมให้ผูกกับที่นั่งและชมได้จนจบอย่างเพลิดเพลินและมีความสุขกับการชม


ด้านนักแสดงถือว่าลงตัวอย่างที่สุดทำให้ผู้ชมดูเข้าใจถึงตัวละครได้อย่างดี แน่นอนว่าหนังอาจดูเครียดไปบ้างนั้นเพราะความรัดกุมของแผนการที่ถ้าลองเจอกับตัวเองคงได้แต่ปวดหัวลูกเดียวว่าจะทำอย่างไงกับการขโมยรถ 50 คันในวันเดียวแบบหายไปเลย ซึ่งตัวหนังตอบโจทย์ได้อย่างเมามันส์และสนุกอย่างมีระเบียบของการโจรกรรมที่ชวนลุ้นตื่นเต้นตามแผน แต่ตัวหนังไม่ได้ดำเนินไปง่ายจบเร็วขนาดนั้น แต่ยังมีคู่ตำรวจที่จับผิดและพร้อมจะเข้ามาจับได้ตลอดที่มีโอกาสอย่างที่เฝ้าจับตามองไม่คาดสายตา ทำให้ดูเป็นเรื่องราวที่ต้องรัดกุมและมีลูกเล่นให้เกิดความรอบคอบ ซึ่งไม่ใช่แค่แอ็คชั่นแต่ต้องมีการวางแผนที่ใช้สมองอย่างเฉียบแหลมอีกด้วย

คิดว่าตัวหนังมีเอกลักษณ์ตรงด้านโทนของฉากต่างๆที่มีธีมชวนให้ดูอบอุ่นและรุ่มร้อน ซึ่งจะเด่นชัดอย่างมากในช่วงครึ่งหลังของหนังที่มีฉากแอ็คชั่นชวนรู้สึกผสมความศรัทธาประมาณว่ามีความหวังอย่างมากในการภาวนาให้ทุกอย่างเสร็จสิ้น น่าจะมีหลายคนที่ชอบงานชิ้นนี้ของ Nicolas Cage ที่แสดงได้ดี โดยเฉพาะอารมณ์หน้าเครียดแต่พยายามใจเย็นได้ตลอด เป็นพี่ชายดีๆที่ทำให้น้องพ้นอันตรายแม้ตัวเองต้องเสี่ยง และอีกคนที่น่าจะมีบทบาทมากกว่านี้คือ Angelina Jolie ที่เล่นน้อยไปหน่อย แต่เล่นทีได้รับบทเด็ดพอได้ ซึ่งแสดงได้ดีโดยมีเสน่ห์อย่างมากกับแววตาที่ส่อถึงความรู้สึกและอารมณ์อย่างชัดเจน ส่วนนักแสดงอื่นนั้นเข้าบทบาทกันอยู่แล้ว
 

ในส่วนความแอ็คชั่นเป็นไปด้วยความเต็มอิ่มกับแนวรถซิ่งที่ตอนท้ายมาแบบชุดใหญ่ยาวที่ดูสนุกและมันส์ ถึงแม้จะมีอยู่ฉากหนึ่งที่ดูเวอร์ไปหน่อยก็ตาม คือฉากรถติดแล้วมีรถตำรวจไล่ตาม แต่ข้างหน้ามีทางชันแบบพื้นเอียงประมาณ 45 องศา ทำให้เมนฟิสต้องขับซิ่งอย่างบ้าระห่ำไปข้างหน้า ซึ่งหลังจากนี้คงรู้แล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถึงตัวหนังจะเป็นแนวโจรกรรมรถก็จริงอยู่แต่ตัวหนังเลือกให้ตัวละครมีความรู้ทางรถยนต์และความรักรถที่จะถนอมและรักษาอย่างดี จนเป็นเรื่องความผูกพันและรู้สึกทางใจระหว่างคนขับรถที่ต้องการสื่อถึงรถว่าทุกอย่างจะต้องเป็นไปได้สวย

โดยรวมแล้วอยากให้หนังยาวกว่านี้อีกหน่อยเพื่อส่วนของบทบาทต่างๆจะได้เด่นขึ้นบ้างเพราะ Nicolas Cage มีความเด่นมากอยู่แล้ว แอ็คชั่นได้สนุกและเพลิดเพลินกับการซิ่งตามท้องถนนที่มีความเสี่ยงและมันส์ แล้วลุ้นระทุกกับการโจรกรรมที่น่าตื่นเต้นที่ผสานเข้ากับเพลงประกอบที่ฟังแล้วชวนสัมผัสอยากขับไปซิ่งนอกบ้านเสียเหลือเกิน แถมดนตรีประกอบที่มีความอบอุ่นเปี่ยมด้วยพลังของความศรัทธาที่ดูแล้วมีความหวังมหาศาล พร้อมกับตอนจบที่มีรอยยิ้มและมิตรภาพระหว่างครอบครัว

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)