Godzilla vs. Destroyah (1995) ก็อตซิลล่า ถล่ม เดสทรอยย่า ศึกอวสานก็อตซิลล่า

Godzilla vs. Destroyah (1995)
ก็อตซิลล่า ถล่ม เดสทรอยย่า ศึกอวสานก็อตซิลล่า
Director: Takao Okawara
Genres: Action | Horror | Sci-Fi

ก็อตซิลล่าบุกเมืองทำชาวญี่ปุ่นต้องตื่นกลัวอีกครั้ง แต่ครั้งนี่น่ากลัวกว่าหลายร้อยเท่าเมื่อการเปลี่ยนแปลงกับก็อตซิลล่าที่เกิด Melt Down ทำให้ตัวร้อนจนผิวหนังบางส่วนเรืองแสงเป็นสีส้มแดงด้วยความร้อนจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ในตัวซึ่งมีศูนย์รวมอยู่ที่หัวใจและมันกำลังโอเวอร์ฮีต สภาพเป็นเหมือนระเบิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดใหญ่เคลื่อนที่ที่จะทำลายล้างโลกทุกชีวิตได้อย่างสบาย ทำให้ต้องเร่งแก้ไขโดยเร็วก่อนที่จะเกิดวิกฤติวันสิ้นโลก โดยห้ามใช้อาวุธทำลายกับก็อตซิลล่าอย่างเด็ดขาดเพราะจะเป็นตัวเร่งจุดฉนวนการระเบิดขึ้นมา ทำให้สิ่งเดียวที่ต้องหวังได้คือระเบิดออกซิเจนที่เคยจัดการกับก็อตซิลล่ามาแล้วแต่ปัญหาคืองานวิจัยนี่ถูกลบล้างไปแล้ว และการทดลองยังอยู่ในความเป็นไปได้ที่ไม่แน่นอน ทำให้กลายเป็นว่าเดสทรอยย่าสัตว์ประหลาดตัวใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมอำนาจการทำลายที่ดุดัน เป็นหายนะครั้งใหม่ที่ทวีคูณยิ่งกว่าเดิม บทสรุปส่งท้ายนี้จะจบลงแบบไหนกัน


เป็นอีกหนึ่งภาคในตำนานหนังก็อตซิลล่าที่เรียกความประทับใจแก่ผู้ชื่นชอบได้อย่างดี ทั้งนี่เป็นภาคจบของก็อตซิลล่าที่ทางโตโฮตั้งใจเอาไว้และเป็นภาคที่ 22 เนื่องจากโตโฮได้ขายลิขลิทธิ์ก็อตซิลล่าให้กับอเมริกาที่ ทำเนื้อเรื่องให้เป็นบทสรุปสุดท้ายของตำแหน่ง King Of The Monster ของญี่ปุ่น

โดยเนื้อเรื่องจะมีการปูความหลังเรื่องราวเกี่ยวกับก็อตซิลล่าที่ตายไปเพราะระเบิดออกซิเจน ซึ่งในภาคนี่จะนำเรื่องราวของระเบิดออกซิเจนที่เป็นผลงานของ ดร.สึเอซาว่า ที่ยอมเสี่ยงชีวิตไปกับก็อตซิลล่าตัวแรกมาใช้อีกครั้ง ซึ่งระเบิดออกซิเจนนี้มีคุณสมบัติทำให้โมเลกุลน้ำแตกตัวไปกัดกร่อนทุกสิ่งที่อยู่ในน้ำ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะจะทำให้ผู้ชมเกิดนึกความย้อนหลังตั้งแต่ต้น และทั้งนี่เป็นตอนจบทำให้ต้องเป็นผลงานที่ชวนระลึกถึงเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา


เดสทรอยย่าเป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่อยู่โดยไม่ต้องอาศัยอากาศในการหายใจและวิวัฒนาการตนเองได้อย่างรวดเร็วเพราะการทดลองไมโครออกซิเจนในใต้ดินที่มีฤทธิ์ตกค้างของระเบิดออกซิเจน ตอนแรกตัวเล็กพอที่คนจะสู้กันได้พอเริ่มไปเรื่อยๆตัวดันใหญ่ขึ้นมาเพราะการรวมร่าง ที่ทำแบบนั้นได้เพราะผลข้างเคียงระเบิดออกซิเจนที่สามารถย่อยรวมเป็นเนื้อเดียวกันได้ เดสทรอยย่ามีขั้นที่เต็มวัยและโตเต็มที่มีปีกและยืน 2 ขา ซึ่งเก่งมากถ้าสู้กับก็อตซิลล่าแบบธรรมดา แต่ในภาคนี่ดูถ้าเดสทรอยย่าจะบทน้อยไปสำหรับร่างโตเต็มวัยที่นอกจากจะดูรูปร่างมีสัดส่วนแล้วยังมีวิวัฒนาการระหว่างเรื่องอีกด้วย เหตุผลนั้นคงเพราะการต่อสู้ที่ผิดเวลาผิดตัวกับก็อตซิลล่าที่เต็มไปด้วยพลังงานนิวเคลียร์ทั้งตัวที่ถึงขั้นนิวเคลียร์ฟิชชั่น ที่พ่นไฟทีเดสทรอยย่าถึงกับทรุดทั้งที่ตัวเองก็มีลูกเล่นมากกว่าแท้ๆ

ด้านเนื้อเรื่องทำได้น่าสนใจมากๆกับเดสทรอยย่าและก็อตซิลล่า โดยโฟกัสของเรื่องจะเน้นประเด็นปัญหาของก็อตซิลล่าที่จะระเบิด ซึ่งต่างหาทางออกว่าควรจะทำยังไงกันดีโดยที่ความเสียหายน้อยที่สุดและห้ามยิงหรือจัดการกับก็อตซิลล่าด้วยอาวุธธรรมดาทั่วไป ที่สำคัญคือเราจะเห็นว่าเจ้าก็อตซิลล่าก็ทรมานเป็นเหมือนกันจะเห็นว่าพ่นไฟไปทั่วหวังให้พลังงานเบาลง


ที่เซอร์ไพส์ที่สุดต้องยกนิ้วให้กับการทำชุดก็อตซิลล่าที่เติมสีสันแห่งความสมจริงเข้ามา ที่ตัวก็อตซิลล่าจะมีไฟสีแคงที่วาบไปวาบมาให้เหมือนมีชีวิตตามการเต้นของหัวใจ และดูใกล้ระเบิดเต็มแก่ แต่ที่ดูสมจริงสมจังคือการใช้ควันที่พ่นออกตามลำตัวต่างๆของก็อตซิลล่าที่บ่งบอกถึงความระอุที่ร้อนแรง

ส่วนเดสทรอยย่าเป็นสัตว์ที่ในเรื่องทำได้ก่ำกึ่งระหว่างความเก่งกับความด้อยที่ไม่ลงตัว ทั้งนี่ไม่ใช่เพราะความผิดพลาดกับเจ้าเดสทรอยย่า(โตเต็มวัยมีปีก)แต่เป็นบทบาทที่ต้องต่อสู้ที่น้อยและไม่ได้ดูน่าหลงใหลเท่าที่ควรทั้งที่ตัวนี้ก็ออกจะเก่งและแกร่งมาก น่าจะสู้กันนานๆให้น่าประทับใจ แต่คิดว่าเพราะเจ้าก็อตซิลล่านี่แหละที่อัพเกรดจนล้นเกินทำให้โค้นเดสทรอยย่าได้อย่างไม่มีข้อกังขา ถ้าจะสังเกตให้ดีว่าเดสทรอยย่าเก่งแค่ไหนลองดูตอนที่ใช้เขาจะเห็นว่าตอนใช้เป็นดาบ(เหมือนพลังปราณ)นั้นแรงถึงกับฟาดใส่ก็อตซิลล่าที่ไหล่เป็นแผลได้ทั้งที่หนังมันก็เหนียวยิ่งกว่าเพชรซะอีก


ก็อตซิลล่าภาคนี่เป็นการปิดตำนานรุ่นที่ 2 นับแต่ปรากฏตัวมาใน Godzilla Raids Again ในปี 1955 จนถึง Godzilla vs Destroyah ปี 1995 น่าจะจัดเป็นก็อดซิลล่าที่มีอายุมากที่สุดและประสบการณ์ผ่านอุปสรรคมากที่สุด ดูได้จากการเจอเรื่องหนัก เช่น

-ถูกแช่แข็งด้วยเครื่องควบคุมอากาศ[Son of Godzilla (1967)]

-โดนฝังในปากปล่องภูเขาไฟ[Godzilla 1985: The Legend Is Reborn (1984)]

-รวมถึงตกลงไปในรอยแยกของเปลือกโลกที่มีแต่แมกม่าร้อนๆ[Godzilla vs Mothra (1992)]

-ถูกทิ้งน้ำถ่วงทะเลไปพร้อมกับสัตว์ประหลาดตัวอื่น[แบททราใน Godzilla vs Mothra (1992) กับ คิงกิโดร่าเหล็กใน Godzilla vs King Ghidorah (1991)]

-ตายไปแล้วแต่ได้หัวใจที่สองจากโรแดน(นกยักษ์)มาช่วยชุบชีวิต[Godzilla vs. Mechagodzilla (1993)]


ในหนังก็อตซิลล่าทั้งหมดที่มีมาจัดเป็นภาคที่ดราม่าที่สุดและเรียกน้ำตาแก่ผู้ชมได้อีกด้วย ทั้งที่ไม่มีคำพูดอะไรนอกจากเสียงร้องกลับส่งผลในจิตใจในส่วนลึกได้อย่างดีเยี่ยมของการแสดงกิริยาท่าทางของก็อตซิลล่าที่เรียกว่าเศร้ามาก ในเรื่องเนื้อจะเกี่ยวโยงกับก็อตซิลล่าภาคก่อนๆที่มีก็อตซิลล่าจูเนียร์เข้ามาร่วมด้วยแต่ในภาคนี่อยู่ในช่วงเต็มวัยแล้ว แต่ยังคงตัวเล็กกว่าก็อตซิลล่าตัวเดิมที่ตัวใหญ่และเก่งกาจกว่า จุดที่นำพาสู่ความโศกเศร้าคือการพบกันระหว่างก็อตซิลล่ากับก็อตซิลล่าจูเนียร์ ไม่ได้ต้องมาสู้กันแต่ทั้งคู่ต่างดีใจที่ได้พบแต่เรื่องไม่ได้สวยหรูขนาดนั้นเพราะเดสทรอยย่าจับก็อตซิลล่าจูเนียร์และทิ้งลงพื้นแบบจังๆทำให้ก็อตซิลล่าจูเนียร์ที่บาดเจ็บสาหัสหนักเอาการอยู่แล้วต้องเกือบจบชีวิตลงในขณะที่ลมหายใจเริ่มแผ่วปลายทุกที สุดท้ายก็อตซิลล่าต้องแทบร้องไห้เพราะการตายของก็อตซิลล่าจูเนียร์แบบต่อหน้าต่อตาอย่างเจ็บปวดในขณะที่ตัวเองก็ต้องตายด้วยเช่นกันเพราะการหลอมละลายที่มีความร้อนสูงเกินไปกับตนเอง ซึ่งตอนนั้นมีเดสทรอยย่าประหนึ่งตัวระเบิดออกซิเจนเคลื่อนที่ช่วยซับความร้อนการละลายก็อตซิลล่าทำให้ไม่เกิดผลข้างเคียงกับโลกที่ต้องเป็นรูถึงแกนโลก

โดยส่วนตัวจะจบแบบแฮปปี้ทั้งทีก็ไม่ได้ ดันเลือกที่จะเศร้าและเจ็บปวด แบบนี้เหมือนชีวิตที่แท้จริงเต็มไปด้วยความผิดหวังที่จริงๆแล้วในชีวิตต่างต้องดิ้นรนไม่ว่าคนหรือสัตว์ แต่หนังยังทิ้งปมในกลุ่มหมอกหลังจากก็อตซิลล่าได้ละลายตัวเองไปท่ามกลางเงาที่คุ้นตาและเสียงร้องที่น่าจะจบลงไปอย่างปริศนาท่ามกลางความโศกเศร้าที่คละเคล้าด้วยกลุ่มไอประดังน้ำตาที่ระเหย และการเริ่มต้นชีวิตใหม่ท่ามกลางความความเจ็บปวดที่สอนชาวญี่ปุ่นถึงเรื่องสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่โดนระเบิดที่เมืองฮิโรชิมาให้เข้าใจถึงโอกาส เดสทรอยย่าประดังโอกาสกลับตัว แต่กับก็อตซิลล่าที่ใกล้ระเบิดประดังสงครามที่จะปะทุ

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)