The Haunting (1999) หลอน...ขนหัวลุก


The Haunting (1999)
หลอน...ขนหัวลุก
Director: Jan de Bont
Genres: Fantasy / Horror / Mystery / Thriller
www.imdb.com/title/tt0171363/
Grade: C

ด็อกเตอร์มาร์โรว(Liam Neeson)ได้จัดสถานที่บ้านคฤหาสน์ Hill House เป็นแหล่งทดลองกับคนไข้ 3 คนได้แก่ เนล(Lili Taylor),ธีโอ(Catherine Zeta-Jones)และลุค(Owen Wilson)เพื่อทดลองถึงสภาพผู้ป่วยนอนไม่หลับว่าเกิดจากอะไร และทดสอบด้วยว่าการอยู่ต่างสถานที่จากเดิมจะรู้สึกอย่างไง

ระยะแรกทุกอย่างเป็นไปด้วยดีเหมือนอยู่บ้านหลังโตที่เต็มไปด้วยสถานที่กว้างใหญ่ แต่สักพักกลับสัมผัสได้บางอย่างและเนลคือก็รู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดบางอย่างที่น่ากลัว และแล้วความน่ากลัวชวนผวาน่าขนลุกได้เกิดขึ้นเมื่อความเลวร้ายเริ่มครอบงำ

ที่ไหนคือที่ร้างผู้คนที่นั้นย่อมมีบางอย่างติดอยู่ด้วยเสมอ เป็นคำเปรียบง่ายๆถ้าตีความหมายเข้ากับหนังประเภทสยองขวัญที่ใช้ได้ดีกับหนังประเภทคฤหาสน์บ้านร้างที่ต้องมีเจ้าที่สถิตอยู่ แต่จะจริงหรือไม่นั้นได้อยู่สักพักจะรู้เอง


งานรีเมคจากปี 1963 ที่ยกระดับไปอีกแบบตามสมัยที่เวอร์ชั่นนี้ The Haunting มีหลายอย่างน่าสนใจและหลายที่อยู่กับความจำเจและเป็นสูตรสำเร็จอย่างหนึ่งที่ขาดๆเกินๆ ลองว่าด้วยบรรยากาศเป็นจุดที่น่าหลงไหลในการจัดสภาพแวดล้อมให้ดูเป็นเรื่องปิดตายด้วยการมาอยู่นอกสังคม เมื่อถึงเวลาค่ำคนดูแลจะนอกไปและปิดประตูรั้วแล้วค่อยมาเปิดอีกทีในตอนเช้า เป็นวิธีในการจัดการตัวละครที่ไม่จำเป็นออกไป จากดั้งเดิมทั้งหมดมีตัวละครอยู่หลายคนพอเวลาดำเนินเรื่องจริงๆจะมีไม่เกิน 4 คนเท่านั้นและอาจเป็นไปได้ที่สุดถ้าในเรื่องจะมีโดดเด่นอยู่เพียงคนเดียว ซึ่งเท่ากับว่าที่เหลือเป็นตัวช่วยหรือตัวประกอบที่ร่วมสถานการณ์แต่ไม่ได้มีเอี่ยวในการเชื่อมเนื้อหา และคนๆนั้นคือเนล

เนลเป็นผู้หญิงวัยประมาณกลางคนที่เกิดปัญหาชีวิตทางครอบครัว ซึ่งนั้นเป็นการเปิดเรื่องด้วยความวุ่นวายและแสดงเนื้อเรื่องด้วยวิธีทำให้จนตรอกจนเหมือนบุคคลที่ไม่มีอะไรเหลือ จนกระทั้งมีสายโทรศัพท์เข้ามาและเชิญชวนให้เป็นผู้ทดลองในการวิจัยโรคนอนไม่หลับที่คฤหาสน์นอกเมือง Hill House ก็ว่าด้วยตามตรงคือเนลมีอาการที่ไม่เข้ากับกลุ่มสังคมมากนัก สังเกตได้จากความสนิทสนมระหว่างธีโอที่ตอนแรกดูเหมือนยังไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้จนมีความคิดที่พอจะผูกผันกันจึงเริ่มมีความเป็นเพื่อนมากขึ้น บางทีจุดเปลี่ยนของเรื่อราวยังมีธีโอเข้ามาเกี่ยวข้องกับใครหลายคนอย่างลุคที่เหมือนจะแอบชอบไม่น้อยเพราะความที่ธีโอเป็นสาว HOT


ธีโอเป็นบุคคลหลายที่ 2 ที่ได้เข้ามาใน Hill House หลังจากเนล แสดงถึงความเป็นสาวไฮโซอย่างเห็นได้ชัดไม่ว่าจะเป็นเรื่องแตกตัวหรือแม้กระทั้งการพกกระเป๋ามากมาย ด้วยท่าทางการพูดและพฤติกรรมจะเห็นได้ว่าเป็นผู้หญิงอยู่กับสังคมกล้าเปิดเผยและยอมรับในสิ่งที่เห็น จนคนที่ 3 ที่ได้เข้าบ้านคือลุคผู้มีปัญหานอนไม่หลับอีกคนหนึ่งที่มีอารมณ์ร้อนตอนทนไม่ไหวจริงๆก็นับได้ว่าเป็นตัวละครที่ช่วยทำให้เนื้อเรื่องไปได้ดีในหลายส่วน จนกระทั้งดอกเตอร์มาร์โรวและลูกทีม 2 คนได้เข้ามาที่หลังสุด

Hill House คือบ้านคฤหาสน์ที่มีความหลังเก่าๆว่าด้วยเรื่องราวที่ไม่ธรรมดาโดยมีเพียงมาร์โรวเท่านั้นที่รู้ประวัติในส่วนนี้ แต่เขาไม่ได้รู้ไปทั้งหมดเพราะในบางอย่างหลายส่วนที่เปลี่ยนแปลงเมื่อพวกเขามาอาศัยที่นี้ เริ่มจากลูกทีมคนแรกที่ต้องออกไปจากคฤหาสน์เพราะคิดว่าตัวเองรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่รอบตัวที่โดนส่ยเปียโนดีดเข้าหน้าจนกลายเป็นแผลยาว และหลังจากนั้นความสยองก็เริ่มชัดเจนมากขึ้นเมื่อเนลรู้ได้ถึงบางอยางในขณะที่อีกหลายๆคนคิดว่าเธอเสียสติไปแล้วกับการทดลองของด็อกเตอร์มาร์โรว



ธีมของหนังมีส่วนรายละเอียดของตัวคฤหาสน์ได้ดีมีความกว้างและลุ่มลึกจนเหมือนอยู่ในที่กดดัน มีความอลังการใหญ่ตัวปราศจากการเล่นแสงที่คงไว้ในความมืดที่ไม่มีโทนความหมองหมัว และเรื่องเสียงแบบหนังสยองคฤหาสน์ร้างที่ต้องมีเสียงก้องไปทั่วชวนเดาทิศทางได้ยาก คงเป็นว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายที่หนังสยองขวัญต้องมีความหลอนในแอบจิตวิทยาถึงจะถูกต้องที่สุดเพราะจะเป็นการเล่นประสาทสัมผัสผู้ชมให้เกิดอาการระแวงและสะดุ้งได้ ซึ่งกับ The Haunting เหมือนจะขาดจุดนี้ไปเยอะมากจนกลายเป็นว่าใช้เอฟเฟคเข้ามาจนเป็นเรื่องเต็มตาและไม่ได้น่ากลัวเท่าที่ควร ประหนึ่งคล้ายจะกลายเป็นแฟนตาซีด้วยซ้ำ

ลูกเล่นชวนหลอนน่าตกใจหาได้ยากสำหรับฉากเด็ดที่เรียกร้องแบบสุดๆเพราะความน่ากลัวไม่มีมนต์ขลังที่ต้องการจุดประกายได้อย่างสุดความน่ากลัว จะมีแต่การดำเนินเรื่อง 40 นาทีสุดท้ายที่จะต่อเนื่องและเทียบไม่ได้พักเพราะเป็นช่วงของไคลแม็กซ์สุดท้ายแล้ว
 

The Haunting หนักทางด้านความมืดบอดของเนื้อหาที่ไม่มีอะไรในช่วงแรกของเรื่องราว จึงจำเป็นที่ต้องเป็นหนังในการค้นหาความจริงและเนลเป็นตัวแทนของตัวเอกที่แย่งซีนได้ตลอดทั้งรื่องจนรายอื่นๆไม่มีอะไรเด่นน่าสนใจ กลายเป็นการแบ่งบทที่ไม่หลงตัวซึ่งเห็นได้ง่ายตั้งแต่ช่วงแรกของหนังที่กรีดกั้นตัวละครอื่นๆให้หายไปจนเหลือไม่กี่คนอย่างรวดเร็ว กลับว่าด้วยการดำเนินเรื่องที่ไม่ได้เกริ่นในเนื้อหาของคฤหาสน์สักเท่าไหร่ทำให้ต้องมีการค้นหาความจริงต่างๆว่าเกิดอะไรขึ้น และเป็นที่น่าหงุดหงิดคือเพราะอะไรเนลคือตัวละครสำคัญขนาดตัวละครอื่นยังไม่รู้เรื่องรู้สาอะไรเลย เพราะเธอคือตัวแทนของเรื่องราวที่เกิดขึ้นซึ่งมีความจริงที่ว่าเนลเป็นตัวเชื่อมโยงที่ต้องเกี่ยวข้องอย่างบังคับไม่ได้แต่นั้นแหละเหมือนดูตัวเอกคนเดียว ถ้าจัดเนื้อเรื่องให้น่าสนใจหรือไม่เล่นแนวจิตวิทยาชวนหักมุมในเรื่องสะเทือนใจจะสามารถยกระดับความน่ากลัวได้อย่างดี เพราะจากเนื้อเรื่องจริงๆก็ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจหรือติดตาอะไรเลย

ความลึกลับปมปริศนาต่างๆก็น่าดูแต่เนื้อหาน้อยเกินไปเหมือนไม่ใช่ประเด็นปมอะไรที่น่าติดใจเพราะมาตรงตัวไม่หักมุมหรืออะไรเลย ตอนจบก็ว่าง่ายๆเหมือนโดนดักทางเอาไว้แล้วว่าต้องเจอแบบนี้เรื่องจะจบสิ้น มีความน่าตื่นเต้นเอาลุ้นได้พอสมควรแต่ไม่สุด แต่เจออะไรก็ใส่มาเรื่อยๆมีความต่อเนื่องที่ดี ความน่ากลัวไม่เท่าไหร่ความสยองยิ่งไม่มีใหญ่ และน่าผิดหวังที่ลูกเล่นจิตวิทยาไม่มี ยกเว้นตอนทำเป็นฉากไวด์สกรีนที่แสดงถึงความกดดันที่บีบคันด้วยความโกรธแค้นจัดว่ามาได้สวย


หนังว่าด้วยความหลอนและเป็นเรื่องผีที่ต้องน่ากลัวอยู่แล้ว แต่เหมือนจะมีตัวละครที่กลัวไม่สุดอารมณ์ไม่ขึ้นนั้นคือ Liam Neeson ที่ไม่ได้แสดงความน่าหวาดกลัวหรือตกใจแม้แต่น้อย จนคิดอยู่ว่าเบื้องหลังจัดคิวกันถูกหรือเปล่าเพราะเล่นเอฟเฟคจากคอมเสียมากเหมือนวางองค์ประกอบไม่ตรง ในทางกลับกัน Lili Taylor สปิริตเธอเยอะกวาใครเพื่อน บรรยากาศของหนังก็ใช่ว่าจะดีได้ตลอดเพราะจำเจรู้สึกเหมือนกลับมาดูฉากเดิมๆทั้งที่สถานที่ก็กว้างดันเลือกถ่ายทอดในแบบแคบๆมุมมองเดิมๆ นี่ถ้าไม่เล่นเกินไปก็ดีไม่น้อยจะได้อารมณ์ร่วมกับความหลอนได้ดี ก็นับว่าดีที่บทไปได้ลื่นไหล เนื้อหาเหมือนมีประเด็นในตัวที่กว้างมากนั้นกลับตีโจทย์ได้ง่ายๆ นี่ถ้าหนังไม่ต่อเนื่องและเล่นตลอดเวลาคงได้เป็นหนังผีชวนหลอนที่มุขเว่อร์มากๆและธรรมดาด้วยเพราะไม่สมจริง เอาเป็นว่ามีความน่าดูตรงลูกเล่นชวนดูได้ดี ถ้าไม่ได้คิดอะไรมากคงเหมาะกับผู้ชมทั่วไปที่หวังเอาเพลินว่ากำลังเหมาะดีแล้ว ไม่อย่างนั้นจะมีคนชอบเรื่องนี้เหรอ

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)