House of Wax (2005) บ้านหุ่นผี

House of Wax (2005)
บ้านหุ่นผี
Director: Jaume Collet-Serra
Genres: Horror | Thriller

กลุ่มวัยรุ่น 6 คน คาร์ลี(Elisha Cuthbert),เวด(Jared Padalecki),เพจ(Paris Hilton),นิค(Chad Michael Murray),ดัลตัน(Jon Abrahams),เบลค(Robert Ri'chard)ต้องการไปดูการแข่งฟุตบอลให้ทัน แต่ต้องมาหยุดพักรถในริมถนนแห่งหนึ่งเพื่อพักผ่อนและจะเดินทางต่อในวันพรุ่งนี้ แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่ทันคาดก็เกิดขึ้นเมื่อสายพานรถขาด ทำให้ต้องขอความช่วยเหลือจากคนระแวกแถวนั้น และได้ไปพบกับเมืองๆหนึ่ง แล้วการไปที่เมืองแห่งนั้นทำให้เจอสถานที่น่าสนใจนั้นคือบ้านขี้ผึ้ง และได้เข้าไปด้วยความแปลกตาแปลกใจกับงานศิลปะที่ไม่รู้ว่าหุ่นขี้ผึ้งที่เห็นเหล่านี้อิงถึงบุคคลใดในโลก ซึ่งนั้นเป็นการบ่งบอกให้บางคนรู้ว่ามีคนนอกเข้ามา และนั้นทำให้เกิดเรื่องราวสยองขวัญเกิดขึ้นในไม่ช้า และทุกคนจะได้รู้ซึ้งถึงงานศิลปะที่มีชีวิตว่าเป็นอย่างไง กับเรื่องราวการไล่ฆ่าที่จะได้เป็นมากกว่าศพธรรมดาแต่จะถูกปรุงแต่งกลายเป็นส่วนหนึ่ง House of Wax


เป็นผลงานที่รีเมคความสยองมาจากปี 1953 ที่ยังคงพล็อตเรื่องและโครงเอาไว้เหมือนกันเกี่ยวกับหุ่นขี้ผึ้งที่แท้จริงมีความลับและความน่ากลัวแฝงเอาไว้ภายในหุ่นขี้ผึ้งเหล่านั้น ถ้าจะกล่าวถึงฉบับนี้จะมีส่วนที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายหนังเรื่องอื่นๆอย่าง The Texas Chain Saw Massacre (1974) ที่มีประเด็นเนื้อเรื่องไม่ได้แตกต่างกันเลย ในส่วนที่คล้ายคลึงเป็นอย่างมากคือการนำเสนอเรื่องราวของตัวละครที่อยากไปเที่ยว แล้วต้องหยุดรถพัก ซึ่งภายหลังจากนั้นตัวรถดันมีปัญหาและต้องการความช่วยเหลือ จนไปเจอหมู่บ้านที่มีลักษณะว่างเปล่าเหมือนเมืองร้าง แต่กับ The Texas Chain Saw Massacre นั้นยกให้เป็นเพียงบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ห่างจากความเจริญ ในด้านการดำเนินเรื่องของความสยองเป็นไปตามลำดับโดยง่ายไม่ต่างกับไปเจอเลเทอร์เฟรชที่เสร็จไปตามรายบุคคล แต่ House of Wax เดาได้ง่ายกว่าแถมตัวละครก็เหมือนจะชอบเป็นเหยื่อ

หนังเปิดเรื่องได้น่าสนใจ เริ่มด้วยการเห็นเด็กที่กำลังกินอาหารเช้าแบบคนธรรมดาทั่วไปที่พร้อมด้วยผู้ใหญ่ชายหญิง 2 คน และตามด้วยจุดที่นำความตื่นเต้นน่าคิดคือการที่เด็กอีกคนหนึ่งเหมือนถูกจับมานั่งเก้าอี้ที่มีอุปกรณ์เตรียมมัดไว้อย่างดี แสดงถึงความรุนแรงและวุ่นวายในตัวเด็กที่แตกต่างจากคนแรกที่สงบสติกับการกินอาหารเช้า


ในช่วงแรกทำได้น่าสงสัยและเป็นการจุดประเด็นอีกอย่างหนึ่งทีน่าคิด โดยอย่างยิ่งการเสนอเรื่องแบบครึ่งตัวไม่เห็นหน้าตา เห็นแค่ช่วงประมาณต่ำกว่าอกลงไป นับเป็นการสร้างเรื่องราวจุดเริ่มต้นได้ดีถึงแม้จะแผ่วๆบ้าง เพราะมันต้องคอยระยะการเล่าเรื่องที่บางคนอาจลืมไปแล้วก็ได้

ที่น่าเสียดายและขาดความแปลกใหม่คือการเร่งรีบมากไปในบางช่วงที่ขาดคุณลักษณ์ประเด็นต่างๆที่เข้มข้นและน่ากลัวที่น่าจับตามอง รวมถึงการเฉลยเรื่องราวที่น่าจะมีที่มาที่ไปได้ดีกว่านี้ เนื่องจากการดำเนินเรื่องราวเหมือนเฉลยไปแบบไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเรื่องแฝดที่ในตอนท้ายเรื่องจะเห็นหุ่นขี้ผึ้งเด็กแฝดติดบนเตียงที่นำมาขวางประตูแต่แล้วโดนมีดตัดออกระหว่างกลาง ซึ่งนั้นเป็นจุดเฉลยอย่างหนึ่งว่าพี่น้องคู่นี้คือแฝดที่ต่างบุคคลิกแต่ต่างหน้าตา ทำให้ทราบว่าเจ้าฆาตกรใส่หน้ากากขี้ผึ้งทำไม


ไอเดียการนำขี้ผึ้งเป็นหน้ากากก็ดูหลอนดี เหมือนใบหน้าไร้อารมณ์ที่ไม่มีร่องรอยบ่งบอกลักษณะใด แต่ทว่ากลับมีส่วนที่คล้ายคลึงกับหน้ากากไมเคิล ไมเยอร์ ในเรื่อง Halloween เลยนะ แต่ใน House of Wax หน้ากากไม่ได้สีขาวซีด ยังมีความเป็นธรรมชาตสีเนื้อซึ่งดูน่าหลอนกว่า แต่ทั้งนี้ก็แล้วแต่บางมุมมองถ้าจัดมาดีก็น่ากลัวแบบตกใจเพราะหน้าตาได้เหมือนกัน

House of Wax มีจุดสยองไม่ใช่เล่นตรงที่ไอเดียการใช้หุ่นขี้ผึ้งมาผสมผสานกับเรื่องราวในเรื่อง คือเหยื่อที่ยังไม่ตายนับว่าโชคร้ายเข้าขั้นนรกบนดิน เพราะจะถูกเคลือบผิดด้วยขี้ผึ้งรอบตัว ซึ่งจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากขี้ผึ้งแห้งสนิท ผลก็คือแข็งแต่แข็งในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าโดนหุ้มด้วยขี้ผึ้ง แต่เป็นผิวหนังที่กลายเป็นขี้ผึ้ง ฉะนั้นผลก็คือศิลปะที่มีชีวิตมีลมหายใจแต่ขยับไม่ได้เพราะกลายเป็นหุ่นขี้ผึ้ง จะเป็นอย่างไงถ้าได้แค่ลองไปมาโดยไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากเป็นหุ่นขี้ผึ้งแข็งๆที่มีคนอื่นมอง  ไม่ใช่ความสยองจากหุ่นขี้ผึ้งเพียงอย่างเดียวที่น่ากลัวแต่เป็นความฉลาดอย่างหนึ่งในการใช้ลูกเล่นในการถ่ายทอดมุมมองกับหุ่นขี้ผึ้งทำให้เหมือนมีชีวิตขึ้นมา สรุปคือการหลอกผู้ชมว่าสิ่งนั้นมีชีวิต แต่เปล่าเลยเพราะทุกอย่างถูกจัดแจ้งเอาไว้หมดแล้ว แต่อะไรเหมือนจริงขนาดนั้นถ้าลองเปรียบกับฉากที่ตัวละครไปเปิดประตูโบสถ์แล้วเลื่อนฉากเป็นหลวงพ่อกำลังส่งสายตามองมาที่ประตูเหมือนดูว่าใครมาเปิดประตู ซึ่งเป็นการถ่ายทำและเสนอได้เนียนมากกับการหลอกผู้ชมว่านั้นคือหุ่นนะ


Brian Van Holt แสดงได้เก่งดีกับบทบาทพี่น้องนักฆ่าที่ทั้งโหดและเห็นได้น่ากลัวแบบอยากจะโกรธก็โกรธขึ้นมาได้น่ากลัว งั้นฆาตกรโรคจิตก็มีมากกว่าคนหนึ่งแล้วสิเนี้ย ดารานักแสดงเห็นจะมีเด่นๆคือการนำ Paris Hilton มาร่วมแสดงที่บอกได้ว่าเล่นได้หน้าเดียวเกือบตลอด แต่ที่ช่วยให้ดีขึ้นคือการให้ได้ลุยเดียวกับการหนีไล่ล่ากับฆาตกรในสภาพนุ่งห่มน้อยกับบีกีนี่ชุดแดง ที่เรียกว่าเป็นตัวละครที่พยายามได้ดีในเรื่องกับการหนีแถมมีสู้กับฆาตกรที่อยากจะบ่นว่า"แทงแม่นๆได้ไหม"
 
อีกคนคือ Elisha Cuthbert ที่ดังมาจากซี่รีย์เรื่อง 24 ที่แสดงเป็นตัวนางเอกที่กล้าๆกลัวได้ดีกับอาการตกใจ แต่หนังเหมือนจะนำเสนอเธอมากไปหน่อยเพราะช่วงแรกเกิดอะไรขึ้นต้องมีเธออยู่ด้วย ส่วนอีกคนที่หนังจากซี่รีย์เรื่องผีๆและเรื่องเร้นลับจาก Supernatural คือ Jared Padalecki เป็นตัวละครเดียวที่มองว่าแปลกๆจากช่วงแรกกับช่วงหลังเข้าบ้านหุ่นขี้ผึ้งที่มีนิสัยต่างกันในบางจุด จากตอนแรกที่เหมือนพระเอกนิสัยดีๆแต่พอเข้าบ้านเจอหุ่นขี้ผึ้งเปลี่ยนเป็นอีกแบบ ดูแล้วเป็นพวกชอบยุ่งกับของชาวบ้านจริงๆ หรือบางทีอาจเป็นเพราะนิสัยของพวกวัยรุ่น


House of Wax ไม่มีอะไรที่แตกต่างจากหนังไล่ฆ่าเหมือนเรื่องอื่นๆที่มีสูตรและองค์ประกอบหลักเหมือนๆกัน ทั้งยังต้องเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่มีนิสัยแบบปล่อยๆจนบางครั้งตัวละครมันไม่ฉลาดเอาซะเลย แต่ยังงี่เง่าไปให้เขาเชือดอีกซึ่งมักเกิดขึ้นจากการชองเดินแยกทาง ไม่รวมเป็นกลุ่ม แต่ยังดีที่หนังยังฉลาดให้ตัวละครรู้จักสู้ถึงแม้จะไม่ได้ช่วยอะไรเลยก็ตามหรืออาจจะดียิ่งขึ้นถ้าไม่ได้ทำอะไรเลย แต่นั้นช่วยเพิ่มความตื่นเต้นชวนลุ้นแบบระทึกขวัญได้เป็นระยะๆ อีกทั้งเนื้อเรื่องยังมีโหดที่น่าสยองขวัญอีกด้วย

ความสยองกับความโหดในเรื่องมีฉากเด็ดๆอยู่หลายฉาก แต่ที่ว่าเจ็บหวาดเสียวคือการโดนตัวนิ้วด้วยครีมตัดลวด หรือจะความโหดไม่ยั้งกับการใช้ไม้เบสบอลฟาดหน้าที่เละไปข้างหนึ่งเลยทีเดียว แต่คิดว่าความสยองนั้นแผ่วลงไปมากกับตอนท้ายที่ตัวฆาตกรจะไม่ฉลาดหรือเก่ง เพราะไล่วิ่งสับกันเสียมากกว่า


สรุปแล้วการจัดการเรื่องความน่ากลัวดูเข้าท่าเข้าทางได้ดีกับตอนต้นที่น่าหดหู่แบบเงียบๆ อีกทั้งความสยองที่ใส่มาเป็นระยะๆตามท้องเรื่อง แต่คิดว่าถ้าเล่นปมปริศนาต่างๆให้ถูกประเด็นหรือขยายประเด็นให้น่าสนใจคงจะดีไม่น้อยเพราะทำให้รู้ถึงรายละเอียดต่างๆถึงความสยองที่น่ากลัว ถึงกระนั้นลูกเล่นของเรื่องหุ่นขี้ผึ้งก็ใช่ว่าจะดีเยี่ยมเสมอไปเมื่อถูกเฉลยแล้วก็ไม่มีอะไรให้น่าคิดอีกต่อไป แต่ฉากในโรงหนังนั้นทำได้ดีจริงชวนลุ้นแบบติดๆ

การจัดองค์ประกอบในด้านต่างๆทั้งเรื่องฉากการวางตัวหรือตำแหน่งทำได้มีสมดุลชวนลึกลับ การใช้เอฟเฟคมาเพิ่มเติมแต่งกับขี้ผึ้งจัดว่าเยี่ยมดูละลายไปกับไฟได้น่ากลัวแสดงได้ถึงความร้อนที่กำลังค่อยๆละลายหุ่นขี้ผึ้งเหมือนน้ำแข็งที่กลายเป็นน้ำได้สมจริง นับว่าสยองพอตัวแถมไอเดียลูกเล่นผสานกับหุ่นขี้ผึ้งก็พอเหมาะ แต่ถ้าเพิ่มความมั่นคงกับเนื้อหาคงสยองได้ต่อเนื่องไม่หลุดอย่างแน่นอน และการหักมุมในตอนจบที่ถ้าทำได้ดีกว่าปล่อยผ่านไปคงได้ระทึกขวัญแน่นอน

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)